ใครว่า “เด็กไม่รู้เรื่องอะไร”

สำนักข่าวไทย 6 ต.ค. – จากเรื่องราวของครูโรงเรียนเอกชนชื่อดังที่ทำร้ายร่างกายเด็กจนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ทั้งเอาถุงดำคลุมหัว หยิกเด็ก แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าการกระทำเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลถึงเด็ก?


บาดแผลจากผู้ใหญ่…เป็นเด็ก ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก


มายาคติที่ผู้ใหญ่คิดเองเออเอง … ทั้งที่ตัวเองก็เคยเป็นเด็กมาก่อน … แต่อาจจะหลงลืมไปว่า คุณสมบัติที่ทรงพลังที่สุดของเด็กก็คือ การสังเกต เฝ้าดู หูฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อแม่ คนรอบข้าง พูด และทำ คือสิ่งที่เด็กเห็น จดจำ และทำตามได้มากที่สุด
แต่สิ่งที่น่ากลัวไปกว่านั้นก็คือ ความคิดและการตีความของเด็ก … ตามหลักพัฒนาการ เด็ก ‘คิด’ วิเคราะห์ แยกแยะ สิ่งที่เขาเรียนรู้ผ่านการมอง ได้ยิน สัมผัส และประสบการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ตื่นนอนยันนอนหลับในทุกวันที่เขาเริ่มรู้ความ โดยเฉพาะหลังอายุ 2 ปีที่เขาเริ่มมีจินตนาการในรูปแบบของตัวเอง … เด็กไม่รู้เรื่องหรอก … หลอกเด็กเลยแล้วกัน
-ไม่อยากให้เล่นในที่มืด ก็หลอก ‘ผี’ ไปเลยแล้วกัน
-ไม่อยากให้ดื้อ ก็หลอกให้กลัวหมอ กลัวตำรวจก็แล้วกัน
-ไม่อยากให้ซน ก็เอาถุงดำคลุมให้กลัวก็แล้วกัน
-ไม่อยากให้ลูกเล่นกับหมา ก็หลอกให้กลัวหมาก็แล้วกัน

ขู่ไปเลย พี่น้อง … เด็กไม่คิดอะไรมากหรอก …

ไม่ใช่เลย … สิ่งเหล่านี้อาจสร้างปมที่เลวร้ายอันประเมินไม่ได้ให้กับเด็กในระยะสั้นและยาวได้เลย บางคนกลัวผี กลัวหมา กลัวความมืดจนทำให้ใช้ชีวิตได้ยากมากไม่เว้นแม้แต่ตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว … บาดแผลที่ประเมินค่าไม่ได้ … ที่กรีดลึกลงในสมองที่กำลังพัฒนาที่เกิดแผลเป็นไม่ยากจะลบเลือน ยิ่งขู่ ยิ่งปักใจเชื่อ …

เด็กไม่รู้เรื่องหรอก … บังคับ ทำโทษไปเลยก็แล้วกันอยากให้นั่งเป็นที่เป็นทาง อยากให้ทำไม่เลอะเทอะ อยากให้อยู่ในโอวาท ทำตาม ไม่หือไม่อือ ก็บิดหู ดึงแขน ผลักให้ล้ม ตี ด่าทอ ชี้นิ้ว ไปเลย เด็กไม่คิดมากหรอก กลัวหน่อยจะได้ทำตาม

ไม่ใช่เลย … เด็กไม่จดจำอะไรหรอก นอกจาก ความเจ็บ ความรุนแรง ที่ได้รับ และจะส่งต่อความรุนแรงนั้นต่อไปที่ตนเองและคนอื่นรอบตัว … สร้างปมและนิสัย บางคนลามไปถึงสันดานแห่งความรุนแรง … คุณอาจไม่รู้ว่า ความรุนแรงที่กระทำต่อเด็กที่คุณคิดว่าไม่รุนแรง ไม่ได้ตั้งใจ แค่หยอกเล่นกับเด็กในวันนี้ …

หยอก หรือ ไร้จิตสำนึก !?

หากเอาแบบสุดทางที่จะเป็นได้เลย คุณอาจกำลังสร้างอาชญากร ฆาตกร คนไม่ดีส่งออกไปยังสังคมในอนาคตก็ได้ น้อยกว่านั้นลงมา คุณอาจสร้างผู้ใหญ่ที่คิดว่าตนเองไร้ค่า ไม่มั่นใจในตนเอง เป็นโรคซึมเศร้า หรือจริง ๆ แล้ว อาจจะไม่ได้มีผลระยะยาวขนาดนั้นก็ได้ เพราะหลายคนก็เติบโตมากับไม้เรียว การด่าทอของพ่อแม่ ครูอาจารย์ ก็เห็นเป็นผู้เป็นคน มีอาชีพการงานที่ดีได้นี่หว่า …
แต่ !!!คุณไม่รู้หรอกว่าบาดแผลไหนลึกจนยากจะลบออก บาดแผลไหนตื้นดีขึ้นได้ … เพราะเด็กแต่ละคนตีความและจดจำไม่เหมือนกัน

คนพูดไม่เคยจำ คนฟังไม่เคยลืม
คนทำอาจไม่คิดอื่น
แต่ความขมขื่นไม่ลืมเลือน

ขอบคุณที่มา : เพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ

อีกหนึ่งเพจที่ออกมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการช่วยเด็กเพื่อไม่ให้มีบาดแผลในใจ คือเฟซบุ๊กเพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา

ช่วยเด็กอย่างไรไม่ให้มีแผลในใจ

“สวัสดีค่ะคุณหมอ เห็นคุณหมอเขียนเรื่องครูทำเด็ก ลูกคุณแม่ก็มีเหตุการณ์คล้ายๆ กัน จากคนเลี้ยง ทำรุนแรง ทั้งคำพูด มีทั้งขู่ให้กลัว (เช่น ถ้าซนจะเอาไปทิ้งนะ จะให้ตำรวจมาจับ) ประชด เปรียบเทียบ ฯลฯ บางทีขังเด็กไว้ในห้องน้ำถ้าเด็กซนหรือไม่ทำตาม หลังจากนั้นลูกก็ฝันร้าย และดูไม่ร่าเริงเหมือนเดิม แม่เพิ่งทราบว่าเขาทำแบบนี้นานแล้ว เขาเป็นคนเลี้ยงหลักเลย แม่ก็ทำงานไม่ค่อยมีเวลา แต่ตอนนี้ไม่ได้ให้เขามาดูลูกแล้วค่ะ ทีนี้จะช่วยยังไงไม่ให้ลูกมีแผลในใจดีคะ”
ในการเป็นจิตแพทย์เด็กที่ผ่านมา หมอเคยพบเด็กที่เผชิญกับเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เกิดผลกระทบทางกายและใจ
หมอคิดว่ามีความสำคัญในการที่ผู้ใหญ่ต้องทำความเข้าใจและดูแลเด็กได้ จึงอยากเขียนบทความนี้ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนค่ะ ส่วนแรกคือ ทำความเข้าใจอาการของเด็ก สองคือ การจัดการดูแล

ต้องเข้าใจการแสดงออกของเด็กเวลาที่เครียดจากการถูกกระทำก่อน เพราะบางทีเด็กก็ไม่บอก ยิ่งเป็นเด็กเล็ก เขายังพูดบอกไม่เก่ง บางทีบอกไปผู้ใหญ่ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นจริงๆ
1.1 เด็กอาจรู้สึกเหมือนประสบเหตุการณ์นั้นอยู่เรื่อยๆ เช่น นึกถึง เห็นภาพ ได้ยินเสียง ทำให้ไม่สบายใจอย่างมาก แต่ก็หยุดนึกถึงไม่ได้
1.2 ถ้าเป็นเด็กเล็ก อาจพูดบอกไม่ได้ชัดเจน แต่เด็กเล็กจะแสดงออกถึงความไม่สบายใจผ่านการเล่น วาดรูป เด็กอาจจะเล่นซ้ำๆ เป็นธีมที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เจอมา
1.3 เด็กบางคนฝันร้ายเกี่ยวกับเหตุการณ์ หรือ ฝันร้ายเกี่ยวกับการพลัดพราก เรื่องน่ากลัวต่างๆ
1.4 ถ้ามีคน หรือ สิ่งของที่ทำให้คิดถึงเหตุการณ์ เด็กก็จะกลัว เช่น เด็กที่เคยถูกขังในห้องน้ำก็อาจจะเกิดความกลัวมากเวลาเห็นห้องน้ำ ไม่ยอมเข้าห้องน้ำ เป็นต้น
1.5 ในเด็กบางคนอาจจะแสดงออกมาในรูปแบบอาการทางกาย เช่น ปวดท้อง ปวดหัว ใจสั่น เวลาที่มีอะไรที่ทำให้คิดถึงเหตุการณ์นั้นๆ
1.6 อาการเฉยชา ไม่สนใจ เพราะช็อคกับเหตุการณ์ ไม่ร่าเริง ไม่เล่นอะไรที่เคยชอบ หรือบางคนก็งอแงร้องไห้มากกว่าปกติ
1.7 เด็กอาจมีอาการกลัวการแยกจาก ติดคนที่ดูแลมากขึ้น ร่วมกับมีพฤติกรรมถดถอยเหมือนกลายเป็นเด็กอีกครั้ง บางคนปัสสาวะรดที่นอน
1.8 เด็กมีอาการตื่นกลัว ตกใจง่าย บางคนนอนไม่หลับ มีนอนสะดุ้ง ละเมอ กลัวเสียงดังๆ เด็กบางคนที่ประสบเหตุการณ์ระเบิดจะกลัวมากเวลาดูหนังเกี่ยวกับสงครามที่คล้ายๆเหตุการณ์ที่เคยเจอมา
1.9 เด็กอาจจะมีพฤติกรรมเปลี่ยน อารมณ์หงุดหงิดง่าย ก้าวร้าวขึ้น หรืออาจจะไม่ค่อยมีสมาธิ

ส่วนในเบื้องต้นนั้น พ่อแม่หรือผู้ปกครองต้องทำอย่างไรในการช่วยเหลือเด็กที่มีอาการเช่นนี้
2.1 เบื้องต้นควรจะทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัย ให้ความมั่นใจว่าเขาจะถูกปกป้องดูแล เช่น กันคนที่กระทำต่อเด็กออกไปไม่ให้เขามาทำได้อีก นำเด็กออกจากจุดที่ถูกกระทำ
2.2 เวลาที่ลูกมีความกลัว ให้แสดงความเข้าใจรับรู้อารมณ์ของลูก บอกลูกว่า พ่อแม่อยู่กับหนูตรงนี้ ไม่มีใครมาทำอะไรหนู
2.3 เด็กบางคนที่มีพฤติกรรมหรือการแสดงออกบางอย่างที่ดูก้าวร้าว รุนแรงขึ้น ตรงนั้นอาจเป็นเพราะความเครียด อย่าไปตำหนิ หรือดุว่า แต่ทำความเข้าใจ
2.4 พ่อแม่ควรมีเวลาทำกิจกรรมกับลูก เล่นกับเขา ร้องเพลง เล่านิทาน ทำกิจกรรมที่เขาชอบ เน้นการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันกับคนที่เด็กรักและไว้วางใจ ตรงนี้เป็นการฟื้นฟูจิตใจอย่างหนึ่ง
2.5 พ่อแม่ก็ต้องตั้งสติ เพราะความห่วงกังวลทำให้ผู้ใหญ่เกิดความกังวลหรือความเครียดได้ ก็ควรจัดการกับความเครียด ดูแลตัวเอง เพราะถ้าเราดูแลตัวเองไม่ได้ดี จะไปดูแลช่วยเหลือลูกๆ ก็คงไม่ง่ายนัก
2.6 หากพบว่าเด็กมีอาการดังกล่าวและไม่แน่ใจ อาการรุนแรงไม่ดีขึ้น ก็ควรพาเด็กไปรับการประเมินช่วยเหลือจากจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน สำหรับเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่รักเด็กๆ ทุกคน ในช่วงเวลาที่มีข่าวไม่ค่อยดีนักเกี่ยวกับเด็กๆ นะคะ

ขอบคุณที่มา : เพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]

คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัว

มุกดาหาร 13 ส.ค.- คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา หลังศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี คดีน้องชมพู่ จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาเพิ่มโทษให้จำคุก “ลุงพล” 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าเด็ก พรากผู้เยาว์ และอำพรางศพ ขณะที่ “ป้าแต๋น” พิพากษายืนยกฟ้อง ในคดีฆาตกรรม น้องชมพู่ ทั้งนี้ภายหลัง ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ “ลุงพล” ได้ยื่นขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร เสนอไปยังศาลฎีกา ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลฎีกายังไม่มีคำตอบลงมาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทำให้ “ลุงพล” ถูกคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา ย้อนไปคดีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หายไปจากบ้านพักภาย ในหมู่บ้านกกกอก ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต รวมถึง ตัวลุงพล ช่วยกันออกตามหา […]