คนล้มต้องข้าม ถ้าไม่ล้มก็ไม่รู้วิธียืน

สำนักข่าวไทย ก.ย. – เรื่องราวการเผชิญวิกฤติครั้งแล้วครั้งเล่าของผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยล้มทั้งยืนเพราะป่วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว จนต้องลาออกจากงานที่รัก มาขับแท็กซี่ ขับได้เพียงเดือนเดียวก็เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ รถที่เริ่มผ่อนพังยับเยินพร้อมหนี้สินอีกหลายแสนบาท เธอกัดฟันสู้อีกครั้ง แต่ก็เกิดมรสุมลูกใหม่จากโรคโควิด-19 … วันนี้เธอยืนขึ้นได้อีกครั้งอย่างมั่นคงกว่าเดิม และพร้อมแบ่งปันแรงบันดาลใจให้กับสังคม


ย้อนกลับไปเมื่อกลางปีที่แล้ว โลกโซเชียลพากันชื่นชม “แก้ว” น.ส.วรรณกวี อยู่วัฒนา อายุ 37 ปี สาวอักษรฯจุฬา ที่ตัดสินใจลาออกจากงานเบื้องหลังกองถ่าย มาขับรถแท็กซี่ แม้จะเรียนจบปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชาศิลปการละคร
ทำงานหนักจนเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว

คุณแก้วเล่าว่าจุดพลิกผันของชีวิตเกิดขึ้นเมื่ออายุเพียง 25 ปี ขณะเป็นผู้ช่วยผู้กำกับละครเวที เมื่อวันหนึ่งเกิดล้มกลิ้งตกบันไดหลังเวที ขยับตัวไม่ได้ แพทย์ตรวจพบเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วจากการทำงานหนัก พักผ่อนน้อย เครียดสะสม หากฝืนทำงานแบบเดิมก็คงไม่ไหว
“ช่วงนั้นวิกฤติที่สุด รู้สึกล้มเหลว จิตตก ร้องไห้เป็นเดือน ไม่รู้จะทำยังไง สมองสั่งการแต่ร่างกายไม่ทำตาม ไม่มีแรง เหมือนคนถูกขังอยู่ในห้องแคบๆมองไม่เห็นอะไรเลย เพราะยึดติดว่าต้องทำละครเท่านั้นถึงจะมีคุณค่า”


ช่วงนั้นได้ลาออกจากงานผู้ช่วยผู้กำกับ แต่ยังคงวนเวียนทำงานตามความรู้ที่เรียนมา ทั้งดูแลโรงละคร ดูแลนักแสดง ประสานงาน เลขาฯผู้บริหาร แต่สุขภาพก็ทรุดลงอีก จึงต้องออกมาเป็นฟรีแลนซ์ หางานที่อิสระทำ ได้ปรึกษาคุณแม่ที่ขับรถแท็กซี่อยู่และขอลองขับ วันแรกถ่ายรูปคู่กับรถแท็กซี่ลงโซเชียล เพื่อนได้นำไปแชร์ จนกลายเป็นกระแสโซเชียล

ออกรถแท็กซี่เพียงเดือนเดียว เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่


กระแสในโลกโซเชียลทำให้มีลูกค้าประจำจองคิวเต็ม จากที่ตั้งใจจะขับเป็นอาชีพเสริม ก็ตัดสินใจซื้อรถแท็กซี่เลย ทุกอย่างกำลังไปได้ดี แต่ในวันครบรอบออกรถ 1 เดือน วันนั้นเป็นวันศุกร์แห่งชาติ ฝนตกหนัก น้ำท่วมกรุงเทพฯ รถติดทั้งวันจนเบลอ ไม่รู้ตัวว่าขับไปชนท้ายรถอีกคัน รถเราพังยับ ขับต่อไม่ได้ มีหนี้ก้อนโตที่ต้องผ่อนรถต่อไป
“แม่บอกให้เลิกขับแท็กซี่ ก็รู้สึกจิตตกอีกจนเหมือนจะเป็นซึมเศร้า แค่ขึ้นรถแท็กซี่ก็อาเจียน ขับต่อไม่ได้ ตามองไม่ชัด บ้านหมุน ต้องหยุดพักขับรถไปถึง 1 เดือน”

วิกฤติโควิดทำลูกค้าหดหาย


จากนั้นตัดสินใจสู้อีกครั้ง โดยถือเป็นช่วงขาขึ้น รายได้ดี มีลูกค้าประจำจองคิวเต็ม เลยซื้อรถอีกคันมาใช้แทนคันที่ขับไปชน ส่วนรถของแม่ก็ยังต้องผ่อน รวมค่าผ่อนรถเดือนละเกือบ 5 หมื่น ครั้งนี้ออกรถเดือนกุมภาพันธ์ 63 พอเดือนมีนาคม โควิด-19 ก็ระบาดเข้ามา มีการชัตดาวน์ประเทศ ปิดโรงเรียน ยุติกิจกรรมต่างๆ ทำให้ลูกค้าหายหมด เพราะหลักๆคือรับส่งคนไทยไปสนามบิน รับส่งนักเรียน พาผู้สูงวัยไปโรงพยาบาล ไปทำบุญ


ยืนได้อีกครั้งอย่างมั่นคง


วิกฤติครั้งนี้ต้องตั้งสติ คิดหาทางลดรายจ่ายเพิ่มรายรับ โชคดีได้เข้าโครงการผ่อนพักชำระหนี้แท็กซี่ และได้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเดือนละ 5,000 บาท ก็พออยู่ได้ ระหว่างนั้นติดต่อเพื่อนจุฬาฯที่ทำเรือประมง ซึ่งเดือดร้อนเช่นกัน เพราะร้านอาหารปิด สินค้าอาหารทะเลตกค้างจำนวนมาก จึงลองทำการตลาดขายออนไลน์ในกลุ่มจุฬาฯมาร์เก็ตเพลสที่มีสมาชิกกว่า 2 แสนคน ผลปรากฏว่าประสบความสำเร็จเกิดคาด ได้ยอดขายถึง 2 แสนบาทต่อเดือน จากนั้นก็เพิ่มสินค้าน้ำพริกและขนมหวาน พร้อมทั้งโพสต์หาผู้โดยสารในกลุ่มจุฬาฯไปด้วย ก็ได้รับเสียงตอบรับดี ลูกค้าเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงก่อนโควิดเสียอีก ทำให้มีรายได้หลายทาง

ส่งต่อแรงบันดาลใจ ตั้งกลุ่มคนขับแท็กซี่ผู้หญิง


ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการคนขับรถที่เป็นผู้หญิง ให้รับส่งลูกหลาน พ่อแม่ปู่ย่าตายาย หรือคนในครอบครัว อาชีพขับแท็กซี่จึงไม่ได้หมายถึงการรับส่งเท่านั้น แต่มีความไว้วางใจ ความเป็นครอบครัวอยู่ด้วย “ลูกค้ากลุ่มนี้มีเยอะมาก ต้องการคนพาแม่ไปโรงพยาบาล พาลูกไปโรงเรียน ช่วยดูแลปู่ย่าตายายที่อยู่บ้านคนเดียวขับรถไม่ได้ บางคนเรียกเราไปนั่งทานข้าวเพื่อให้รับฟัง เป็นเพื่อน เหมือนเราได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ทำให้เขามีความสุข ก็รู้สึกภูมิใจ”
จุดนี้เองเป็นแรงบันดาลใจ ทำให้มีแนวคิดจะรวมตัวผู้หญิงที่อยากขับรถแท็กซี่ เป็น community lady taxi ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการคนขับผู้หญิง และช่วยเหลือสังคมได้
“มีผู้ใหญ่ใจดีชวนทำโครงการแท็กซี่ไฟฟ้า Beta EV Lady Taxi บริการรับส่งลูกหลานไปโรงเรียน รับส่งผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้หญิงท้องไปโรงพยาบาล โดยจะทดลองเป็นเวลา 2 เดือน (ก.ย.-ต.ค.63) และมีจิตอาสาอีก 3 ท่านเป็นเภสัชกร คุณหมอ และวิศวกร มาช่วยกันขับแท็กซี่ไฟฟ้าฟรี เพื่อทดลองเรื่องพลังงานสะอาด และเปิดรับสมัครผู้หญิงมาขับแท็กซี่ คัดเลือก อบรม 200 คนแรก น่าจะเป็นอาชีพใหม่ทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้หญิง”

อุปสรรคมีไว้ให้ข้ามผ่าน ถ้าไม่ล้มก็ไม่มีวันนี้


คุณแก้วบอกว่าชีวิตที่ผ่านมา ล้มบ่อย ล้มแล้วลุกอยู่ตลอดเวลา เหนื่อยก็พัก ลุกขึ้นมาใหม่ อุปสรรคที่ควบคุมไม่ได้เช่นสุขภาพ ก็ต้องข้ามไปให้ได้ สู้ให้ชีวิตไปต่อ อาจใช้เวลาต่างกัน วิถีทางต่างกัน ต้องกล้าที่จะเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ข้างหน้าอาจล้มอีกก็ได้ แต่จะไม่ล้มกลิ้ง แค่ล้มลงไปบนเบาะ ต้องปรับตัวตลอดเวลา มีหลายแผน ทำหลายอย่าง หาเงินไว้หลายๆกระเป๋า
มีคนส่งข้อความมาขอบคุณว่าเค้าได้กำลังใจจากการเห็นเราไม่ยอมแพ้ บางคนอยากเป็นแบบเราบ้าง ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง อยากบอกว่าไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นแรงบันดาลใจให้ใคร แค่อยากเอาตัวรอด สู้ในแบบของเรา และอยากขอบคุณคนที่ให้กำลังใจมาในช่วงที่ป่วย ท้อแท้ อยากให้เป็นกำลังใจกันแบบนี้ เหมือนเราไม่ได้สู้คนเดียว

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเมียนมา เกิดจากรอยเลื่อนสะกาย ย้ำ กทม.ไม่กระทบโครงสร้าง

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – กรมทรัพยากรธรณี เผยเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.4 ความลึก 10 กม. เกิดจากการเคลื่อนตัวแนวระนาบของรอยเลื่อนสะกาย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของเมียนมา ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 500 กม. ด้านสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ เตือนอย่าตื่นตระหนก คนกรุงบนตึกสูงรู้สึกสั่น แต่ไม่กระทบโครงสร้าง กรมทรัพยากรธรณีชี้แจงกรณีแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ความลึก 10 กิโลเมตร เมื่อเวลา 09.58 น. ตามเวลาประเทศไทย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 500 กิโลเมตร การตรวจสอบพบว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากการเคลื่อนตัวของ “รอยเลื่อนสะกาย” แนวระนาบเหลื่อมขวา (right-lateral strike-slip fault) ซึ่งมีอัตราการเคลื่อนที่เฉลี่ยปีละ 2 เซนติเมตร รอยเลื่อนนี้เคยสร้างแผ่นดินไหวใหญ่หลายครั้ง อาทิ ปี 2473 ขนาด 7.3 มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน และเมื่อ 28 […]

นายกฯ พยักหน้ารับกำลังใจดี ศาล รธน.นัดชี้ชะตา 29 ส.ค.

ศาลรัฐธรรมนูญ 21 ส.ค.- นายกฯ พยักหน้ารับกำลังใจดี หลังไต่สวนคดีคลิปเสียงเสร็จ ประชาชนตะโกน “นายกฯ สู้ๆ” ด้านศาล รธน. นัดอ่านคำวินิจฉัยคดี 29 ส.ค. ย้ำ ห้ามเผยแพร่ข้อมูลและห้ามบิดเบือน ภายหลังการไต่สวนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที คดีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง โดยนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ศาลได้บันทึกเสียงและภาพการไต่สวนแล้ว และย้ำอีกครั้งว่า ห้ามผู้เข้าฟังการไต่สวน นำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามมิให้บิดเบือนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน ศาลได้สั่งให้คู่กรณียื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค. จากเดิมให้ยื่น 27 ส.ค. ซึ่งหากไม่ยื่นจะถือว่าไม่ติดใจ และนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติ วันที่ 29 ส.ค. เวลา 09.30 น. นัดอ่านคำวินิจฉัยในวันเดียวกัน เวลา 15.00 […]

แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งคุมเข้ม หลังเหตุคาร์บอมบ์ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

นราธิวาส 21 ส.ค. – ความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อคืนที่ผ่านมา อส.บาดเจ็บ 6 นาย แม่ทัพภาคที่ 4 รุดตรวจที่เกิดเหตุ สั่งปิดช่องทางหลบหนี คุมเข้มแนวชายแดน ภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุคาร์บอมบ์เมื่อคืนนี้ ช่วงเวลา 20.20 น. บริเวณหน้า จุดตรวจ/จุดสกัด ฐาน ชคต.ศาลาใหม่ ม.1 บ้านโคกมะเฟือง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จังหวัดนราธิวาส โดยคนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุใช้รถยนต์ Toyota Yaris สีดำ บรรทุกวัตถุระเบิด ขับเข้าพุ่งชนแนวกระสอบทรายบริเวณดังกล่าว ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จังหวัดนราธิวาส แรงระเบิดส่งผลให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร (อส.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ในฐานได้ยิงตอบโต้เพื่อสกัดกั้นเส้นทางของคนร้าย หลังเกิดเหตุ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.รมน.ภาค 4 สั่งการเร่งด่วนให้หน่วยกำลังในพื้นที่ปฏิบัติตามแผนสกัดกั้น ประสานทุกภาคส่วนร่วมปิดล้อมตรวจสอบเส้นทาง […]

รองแม่ทัพภาค 2 โพสต์เล่าที่มาปัญหา “ช่องอานม้า”

21 ส.ค. – รองแม่ทัพภาค 2 โพสต์เล่าที่มาปัญหา ‘ช่องอานม้า’ เป็นบทเรียนของไทย ชี้ความเพิกเฉยต่อประเด็นความมั่นคง ส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ระยะยาว พลตรีณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์เล่าเกี่ยวกับพื้นที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน ว่าความจริงมีหนึ่งเดียว โดยช่องอานม้าเป็นช่องเขาลักษณะคล้ายอานม้า เป็นช่องทางธรรมชาติใช้ชักลากไม้นำเข้าจากกัมพูชา ห้วงสงครามกลางเมืองชาวกัมพูชาได้หนีภัยสู้รบเข้ามา ไทยได้เอื้อเฟื้อ ตั้งศูนย์อพยพตามหลักมนุษยธรรม โดยมีหน่วยงานสหประชาชาติอำนวยการ หลังการสู้รบ ได้ส่งคืนผู้อพยพกลับประเทศ แต่มีส่วนหนึ่งยังคงปักหลักตั้งถิ่นฐานไม่ยอมกลับ ด้วยหลักมนุษยธรรมที่สากลนำมากล่าวอ้างและความไม่เด็ดขาดของเรา ทำให้ไม่สามารถผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้ออกจากพื้นที่ได้หมดและยืดเยื้อจนเป็นปัญหาถึงปัจจุบัน ปี 2542 ไทยและกัมพูชา เห็นชอบเปิดช่องอานม้าเป็นจุดผ่อนปรนเพื่อการค้า กำหนดให้ตลาดฝั่งกัมพูชาอยู่ชุมชนเดิม แต่กัมพูชาจับจองพื้นที่ขยายชุมชนจาก 30 หลังเป็นกว่า 100 หลัง ขณะที่ตลาดฝั่งไทยกลับลึกเข้ามาจากแนวเขตแดน 300 เมตร ปี 2554 ในขณะมีข้อขัดแย้งพื้นที่เขาพระวิหาร กัมพูชาใช้ห้วงเวลาที่เราตรึงการรบแอบสร้างอนุสาวรีย์ตาอม และปรับปรุงมาเรื่อยๆ จากแบบชั่วคราว จนเป็นแบบถาวรและขยายบ้านเรือน ฝ่ายทหารได้พยายามแก้ไขด้วยการเจรจาและประท้วง ผ่านกลไกทางทหารและกระทรวงการต่างประเทศ รวม 65 ครั้ง แต่ฝ่ายกัมพูชาเพิกเฉย ซึ่งสร้างความอึดอัดแก่ทหารในพื้นที่เป็นอย่างมาก […]