กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – สมาคมภัตตาคารไทย ทำหนังสือถึงนายกฯ ขอเปิดร้านอาหารถึง 4 ทุ่ม และขอให้เลื่อนบังคับใช้ COVID Free Setting จากต้น ต.ค. เป็นสิ้น ต.ค.
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ซึ่งจะประชุมวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) พิจารณาขยายเวลาปิดร้านอาหารเป็น 22.00 น. ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เปิดให้บริการนั่งรับประทานในร้านได้ จากขณะนี้กำหนดให้เปิดถึงเวลา 20.00 น. และมีกระแสข่าวว่าจะมีการพิจารณาขยับเวลาให้เปิดจำหน่ายได้ถึงเวลา 21.00 น.
ทางสมาคมภัตตาคารไทยได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการว่า การจำหน่ายอาหารในรอบเย็นนั้น ร้านอาหารส่วนใหญ่ ตัวเลขผลประกอบการลดลงเหลือเพียง 5-10% โดยเวลาปิดทำการ 20.00 น. เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ประกอบกับช่วงเวลานี้เป็นฤดูมรสุม ทำให้เกิดฝนตกในช่วงเวลาเย็นบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบต่อการค้าขาย โดยเฉพาะร้านตามบาทวิถี ที่จำหน่ายตอนเย็น ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เวลาในการขายลดลงเหลือเพียง 1-2 ชั่วโมง
“หากจะมีการขยับเวลาปิดร้านเป็น 21.00 น. ตามที่มีกระแสข่าวนั้น ขอเรียนให้ท่านทราบว่า ช่วงเวลา 1 ชั่วโมง ไม่ได้เพิ่มโอกาสทางการขายมากขึ้นแต่อย่างใด เมื่อเทียบกับการขยับเวลาเพิ่มเป็น 2 ชั่วโมง จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าขายได้มากขึ้น” นายกสมาคมภัตตาคารไทย ระบุ
นอกจากนี้ ทางสมาคมภัตตาคารไทยได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการภัตตราคาร ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ว่ายังมีความไม่พร้อมในการปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting หากจะมีการบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยเฉพาะในส่วนของมาตรการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และมาตรการตรวจ ATK พนักงานกลุ่มเสี่ยง ดังนั้น สมาคมฯ จึงทำหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาดำเนินการเลื่อนการบังคับใช้มาตรการ COVID Free Setting ออกไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2564 เพื่อให้สอดรับกับรอบการฉีดวัคฉีดเข็ม 2 และเพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาเพิ่มเติมในการเตรียมจัดหาชุดตรวจ ATK เนื่องจากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจำนวนมากประสบปัญหาทางการเงิน เพราะไม่สามารถเปิดกิจการได้ตามปกติตามมาตรการควบคุมการระบาด และเพิ่งจะกลับมาให้บริการนั่งรับประทานในร้านได้ เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในกรณีของการฉีดวัคซีนนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรร้านอาหาร ตามที่สมาคมภัตตาคารไทยได้ร้องขอไป จำนวน 2 รอบ คือ รอบแรก 37,000 คน และรอบที่ 2 จำนวน 63,000 คน ซึ่งจำนวน 63,000 คน ในรอบที่ 2 อยู่ในขั้นรอฉีดเข็ม 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางเดือนตุลาคม โดยเป็นบุคลากรร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ส่วนมาตรการให้ตรวจ ATK ณ ปัจจุบันก็ยังพบว่ามีอุปสรรคในด้านราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้ผู้ประกอบการยังไม่พร้อมเพิ่มภาระต้นทุนในส่วนนี้ และการดำเนินการแจกจ่าย ATK ของทางภาครัฐก็ยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ. – สำนักข่าวไทย