ภาคเอกชนเชื่อหากไบเดน ชนะเลือกตั้งจะส่งผลดีต่อ ศก.ไทยมากกว่า


กรุงเทพฯ 4 พ.ย. – กกร.เชื่อหาก โจ ไบเดน ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย แต่ถ้าโดนัลด์ ทรัมป์ชนะ ทุกอย่างจะไม่ต่างไปจากตอนนี้ แนะรัฐบาลเร่งเดินหน้าเจรจาข้อตกลงการค้าพหุภาคี ทั้ง FTA Thai-UK, FTA Thai-EU, CPTPP


นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตามที่การหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังเข้มข้นและล่าสุด นายโจเซฟ โรบิเนตต์ ไบเดิน จูเนียร์ หรือ “โจ ไบเดน” จากพรรคเดโมแครต กำลังมีคะแนนนำหน้า นายโดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคริพับลิกัน และยังไม่แน่ใจว่าที่สุดแล้วใครจะชนะนั้น

ในการประชุม คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. วันนี้ (4 พ.ย.) ได้มีการหารือกันถึงประเด็นผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะออกมาต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งในเบื้องต้น มองว่า ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ จะส่งผลต่อนโยบายการค้าและการลงทุนที่เปลี่ยนไปซึ่งมีผลทั้งบวกและลบ โดยหากนายโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งประธานธิบดีสหรัฐฯ และพรรคเดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา อาจจะส่งผลให้นโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ กับคู่ค้ามีแนวโน้มกลับมาผ่อนคลายมากขึ้น


การค้าจะเปิดเสรีมากขึ้น การเข้าสู่กติกาโลกจะมีเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมตามสากลจะมีมากขึ้น แต่ถ้าหาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง ทุกอย่างก็จะเหมือนเดิมทั้งเรื่องการกีดกันทางการค้า รวมถึงนโยบายต่างประเทศแบบ ‘อเมริกาเฟิร์สต์’ จะยังคงมีต่อไป ซึ่งจะต้องติดตามผลการเลือกตั้งท้ายสุดที่จะออกมาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่เป็น “สปอร์ตไลท์” ของสหรัฐอยู่ไม่ว่าใครจะชนะการเลือกตั้ง เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สหรัฐสามารถเข้ามาทำธุรกิจและส่งสินค้าจีนก็เป็นไปได้ แต่จะให้ทำการติดต่อกับจีนโดยตรงคงไม่สะดวก และไทยก็เป็นประเทศที่ป้อนสินค้าต่าง ๆ รายใหญ่อยู่แล้ว ทั้งรถยนต์ อาหาร และสินค้าอื่น ๆ ดังนั้นสหรัฐต้องการจุดนี้ด้วย ส่วนเรื่องการที่สหรัฐระบุว่า จะเข้ามาทำธุรกิจในไทยมากขึ้น แต่ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรไทยหรือ จีเอสพี ออกไปนั้น ดังนั้นจะต้องพัฒนาสินค้าให้ดีที่สุด แม้ตลาดสหรัฐเป็นตลาดใหญ่ที่ยังต้องส่งสินค้าไปขาย แต่เสี่ยงเกินไปที่จะหวังพึ่งตลาดสหรัฐแต่เพียงอย่างเดียว และการค้าขายใช้เงินสกุลยูโร จะปลอดภัยมากกว่า

“โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าหาก “โจ ไบเดน” ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ประเทศไทยจะได้รับผลบวกมากกว่า” นายกลินท์กล่าว


ขณะนี้ประเทศไทยจะต้องผลักดันข้อตกลงพหุภาคีให้ออกมาให้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการเดินหน้าให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) รวมถึงข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทยสหภาพยุโรป และข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทยกับสหราชอาณาจักร ซึ่งในการหารือ กกร. ในวันนี้ ก็เน้นใน 3 ข้อตกลงทางการค้านี้ เพราะมีผลมากต่อประเทศไทย

“กกร.เห็นว่าเขตการค้าเสรี หรือ FTA เป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะFTA ในกรอกใหม่และปัจจุบันยังอยู่ในการเตรียมการ เช่น FTA Thai-UK, FTA Thai-EU, CPTPP เป็นต้น ซึ่ง กกร.ได้พิจารณาแล้วว่ามีหลายข้อบทที่เกี่ยวเนื่องกันใน FTA เกือบทุกกรอบ ทั้งในระดับพหุภาคีและทวิภาคี ได้แก่ UPOV (การคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่), CL (Compulsory Licensing), แรงงาน และการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดย กกร.จะเสนอให้รัฐบาลจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐที่มีกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่างๆ กับ กกร. เพื่อให้มีการเตรียมตัวครอบคุมในทุกภาคส่วน โดยอยากให้มีการจัดตั้งโดยเร็วเพื่อไม่ให้ไทยเสียโอกาสในเวทีการค้าโลก” นายกลินท์ กล่าว

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ผู้สมัครแข่งขันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้ง “โจ ไบเดน” จากพรรคเดโมแครต และ นายดอนัลด์ จอห์น ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคริพับลิกัน ต่างคำนึงถึงผลประโยชน์สหรัฐเป็นหลักอยู่แล้ว เพียงแต่วิธีการต่างกันเท่านั้น โดย “โจ ไบเดน” มีสโลแกน Buy American เน้นให้ซื้อสินค้าทุกหมวดจากบริษัทของอเมริกาเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม หาก “โจ ไบเดน” ได้เชื่อว่า จะมีความยืดหยุ่นทางการค้าเสรีมากกว่า โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ จะไปคล้ายกับช่วงที่นายบารัค โอบามา ยังคงเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ และจะให้ความสำคัญเรื่องสิทธิมนุษยชน และสิ่งแวดล้อม จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมจะต้องเข้มงวดในเรื่องพวกนี้ สงครามการค้าจะลดลงบทบาทลง จะมีการเจรจากับทางประเทศจีนมากขึ้น และมีโอกาสที่จะกลับเข้ามาอยู่ในข้อตกลง CPTPP ประเทศไทยจะต้องเตรียมพร้อมลดต้นทุนและขยายตลาดออกไปมากกว่าสหรัฐ เพราะไม่ว่า ใครจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐก็จะเน้นรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐมากขึ้น

“ตอนนี้ มองว่า “โจ ไบเดน” หากชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ จะเป็นผลบวกต่อประเทศไทยมากกว่าแต่ในระยะสั้น แต่หลาย ๆ อย่าง ตาม สโลแกน Buy American จะมีผลกระทบอย่างไร ส่วน “ดอนัลด์ จอห์น ทรัมป์” เห็นถึงผลกระทบเศรษฐกิจทั่วโลก ไม่กระทบเฉพาะประเทศเท่านั้น ทำให้การค้าทั่วโลกมีผลกระทบ จากการที่ ทรัมป์ดึงเศรษฐกิจไปที่สหรัฐทั้งหมด” นายสุพันธุ์กล่าว

นายสุพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ค่าเงินที่แข็งค่ากดดันสินค้าไทยแล้ว 3-5% หากค่าเงินบาทอ่อนค่ามาอยู่ในระดับประมาณ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ก็จะช่วยเหมือนประเทศไทยได้จีเอสพีสหรัฐกลับมา เพราะเงินบาทอ่อนค่า จะบรรเทาผลกระทบทำให้สินค้าไทยสามารถที่จะแข่งขันในตลาดโลกและตลาดอื่น ๆ ได้ดีขึ้น

สำหรับผลการประชุม กกร. ในวันนี้ ยังพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ด้วย เช่น ด้านเศรษฐกิจในภาพรวม กกร.มองว่า เศรษฐกิจไทยปลายไตรมาสที่ 3 ได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมในต่างประเทศ การส่งออกในเดือนกันยายนปรับตัวดีขึ้นมาก หดตัวเพียง 3.9% เทียบกับเดือนสิงหาคมที่หดตัว 7.9% ภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมดีขึ้น อาทิ ชิ้นส่วนรถยนต์ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ และเม็ดพลาสติก ฟื้นตัวได้ดีสอดคล้องกับทิศทางของภาคอุตสาหกรรมในต่างประเทศ ส่วนการใช้จ่ายในประเทศฟื้นตัวโดยมีมาตรการของภาครัฐสนับสนุน สำหรับปีหน้าอาจจะมีปัญหาเรื่องตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนทำให้ค่าระวางเรือที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดย กกร.นำคณะไปหารือกับกระทรวงคมนาคมเพื่อวางแผนรับมือในอนาคต

ด้านการแพร่ระบาดระลอกสองของโควิด-19 ที่รุนแรงในหลายประเทศเป็นความเสี่ยงหลักในช่วงที่เหลือของปี 2563 ประเทศหลักในสหภาพยุโรปประกาศล็อกดาวน์ประมาณ 1 เดือน กกร.ยังมองว่า ในช่วงเดือนพ.ย.นี้ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งแม้การล็อกดาวน์ในครั้งนี้จะเน้นจำกัดกิจกรรมของผู้บริโภค ไม่ได้ให้หยุดภาคการผลิต แต่ก็คาดว่าจะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมแผ่วลง ในเบื้องต้นคาดว่าจะกระทบ GDP ไทยในไตรมาสที่ 4 ราว 0.37-0.5% เนื่องจากคาดว่าจะมีผลกระทบต่อความต้องการสินค้าส่งออก

หากโควิด-19 ไม่เกิดการระบาดระลอกใหม่ในประเทศไทย หรือสามารถควบคุมโรคให้อยู่ในวงจำกัดได้ กอปรกับเม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปี เช่น มาตรการคนละครึ่ง และมาตรการช้อปดีมีคืน เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ที่ประชุม กกร. มองว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 น่าจะฟื้นตัวได้ต่อไป

สำหรับทั้งปี 2563 กกร. คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตัวในกรอบ -9.0% ถึง -7.0% ขณะที่คาดว่าการส่งออกจะหดตัวในกรอบ -10.0% ถึง -8.0% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าอยู่ในกรอบ -1.5% ถึง -1.0%

ด้านแผนการช่วยเหลือผู้ประกอบการในภาคธุรกิจโรงแรมที่มีข้อเสนอของภาคเอกชนได้เสนอไปยังภาครัฐก่อนหน้านี้ เรื่องการตั้งกองทุนเพื่อซื้อโรงแรมที่ยังมีศักยภาพตามความเหมาะสม โดย กกร.ได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาเรื่องดังกล่าวโดยละเอียด

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลให้รัฐบาลไทยจำเป็นต้องออกมาตรการปิดเมืองปิดประเทศหรือมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อการเดินทางของนักธุรกิจชาวต่างชาติ รวมทั้งวิกฤตินี้ ยังสะท้อนถึงปัญหาวีซ่าและใบอนุญาตทำงานของกลุ่มบุคคลดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งรัฐบาลไทยได้แก้ไขปัญหาบางส่วนเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้างและกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาทิ การลดทอนเอกสารและลดขั้นตอนการดำเนินการ ตามประกาศกรมการจัดหางาน ลงนาม ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 แต่ยังไม่เพียงพอ

ดั้งนั้น กกร.จะส่งข้อเสนอเพิ่มเติมไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับวีซ่าและใบอนุญาตทำงานของนักธุรกิจชาวต่างชาติ ดังนี้

1. เสนอให้สามารถยื่นขอเปลี่ยนประเภทวีซ่าจาก Non-Immigrant O Visa เป็น Non-Immigrant B Visa ภายในประเทศไทยได้ เนื่องจากชาวต่างด้าวจำเป็นต้องเดินทางกลับไปยังประเทศต้นทางของตนเพื่อเปลี่ยนประเภทวีซ่าดังกล่าว

2. เสนอให้แรงงานต่างด้าวทักษะสูงสามารถอยู่ในประเทศไทยต่อได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน หลังจากที่ใบอนุญาตทำงานหมดอายุหรือถูกยกเลิกไป เพื่อหางานใหม่

3. เสนอให้ยกเว้นการรายงานตัวทุก 90 วันแก่แรงงานต่างด้าวทักษะสูง โดยให้แจ้งเฉพาะกรณีที่มีการย้ายที่อยู่ถาวร

นอกจากนี้ กกร. ยังขอให้ภาครัฐเร่งรัดการจ่ายเงินการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐทุกโครงการภายใน 30 วัน หลังจากการตรวจรับเรียบร้อยเพื่อช่วยในการเสริมสภาพคล่องทางการเงินภาคเอกชน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

จ่อเสนอออกหนังสือเรียกพระเอี่ยวสัมพันธ์สีกา ก. เข้าพบรายตัว

12 ก.ค. – จับตาวันนี้ “บิ๊กเต่า” เข้าพบสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย เสนอออกหนังสือเรียกพระในสังกัดเอี่ยวสัมพันธ์ “สีกา ก.” มาพบรายตัว แก้เผ็ดแก๊งพระผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง หลังพบโดดกำแพงวัดหนีผิด เลี่ยงถูกตรวจสอบหลายราย วันที่ 12 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. จะเดินทางไปเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) ซึ่งเป็นสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางแก้ปัญหากรณีพบพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่หลายรูปกระทำผิดวินัยสงฆ์อย่างร้ายแรง ด้วยการแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกา ก. นอกจากนี้ การเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ ของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังเป็นการขอความร่วมมือให้ช่วยทำหนังสือประสานเชิญตัวพระชั้นผู้ใหญ่รูปต่างๆ ที่กระทำผิดปาราชิกจากการมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกา ก. และอยู่ในความปกครองของฝ่ายมหานิกาย มาเข้าพบเพื่อตรวจสอบสถานะว่ามีพระรูปใดบ้างที่ลาสิกขา หรือลาสึกไปแล้วบ้าง หรือรูปไหนบ้างที่ยังไม่ได้ลาสิกขาขาดจากความเป็นพระ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ เนื่องจากปัจจุบันมีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการลาสึกของพระผู้ใหญ่ด้วยตนเอง แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันหลายราย รวมถึงมีพระผู้ใหญ่อีกหลายรายที่หลบหนีออกจากวัด […]

ฝากขังชายคลั่งอ้างเป็นหน่วยรบพิเศษ ค้านประกันตัว

กทม. 12 ก.ค.-ตำรวจคุมตัวชายคลั่งอ้างเป็นหน่วยรบพิเศษ ฝากขัง พร้อมค้านประกันตัว เหตุชายคลั่งอ้างเป็นหน่วยรบพิเศษ อาละวาดในคอนโดหรูย่านรัชดาฯ ตำรวจพยายามควบคุมตัว แต่ถูกแย่งปืนก่อนยิงใส่ตำรวจ เจ็บ 2 นาย โชคดีกระสุนโดนเสื้อเกราะ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ทราบชื่อต่อมา คือ “นายจิรศักดิ์” เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา นั้น เช้าวันนี้ สน.สุทธิสาร พนักงานสอบสวนได้เบิกตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าวออกจากห้องควบคุมมาขึ้นรถ เพื่อนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังในความผิดฐาน “ต่อสู้ข้ดขวางการจับกุม และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่” ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนี.-สำนักข่าวไทย