ลพบุรี 17 ก.ย. – กรมชลประทานแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำป่าสักให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้นอีก 1.30 – 1.50 เมตร หลังเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ทยอยเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อควบคุมปริมาณน้ำในอ่างให้อยู่ในเกณฑ์บริหารจัดการและความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อน เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ออกประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับการปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็นขั้นบันไดจากวานนี้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำในอ่าง 605 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 63 ของความจุ รวมทั้งมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนจากตอนบนถึง 599 ลบ.ม./วินาที หรือประมาณ 52 ล้าน ลบ.ม./วัน แม้ระดับน้ำยังไม่ถึงจุดวิกฤติ แต่เพื่อบริหารจัดการและควบคุมระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์จะปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 200 ลบ.ม./วินาที โดยทยอยเพิ่มขึ้นวันละ 50 ลบ.ม./วินาที จนถึง 350 ลบ.ม./วินาที ภายใน 3 วัน ดังนี้
- 17 ก.ย. 2568 : เพิ่มการระบายเป็น 250 ลบ.ม./วินาที
- 18 ก.ย. 2568 : เพิ่มเป็น 300 ลบ.ม./วินาที
- 19 ก.ย. 2568 : เพิ่มเป็น 350 ลบ.ม./วินาที
สำหรับสาเหตุที่ต้องปรับเพิ่มการระบายเพราะมีฝนตกบริเวณต้นน้ำในจังหวัดเพชรบูรณ์มากขึ้น การระบายน้ำในอัตราดังกล่าว จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักช่วงท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น 1.30- 1.50 เมตร แต่อยู่ในลำน้ำ ยังไม่ถึงจุดล้นตลิ่งแต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำป่าสักเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือหากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลง. -512-สำนักข่าวไทย