15 ส.ค. – กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังพบโดรนบินเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทย และทหารกัมพูชาพยายามข้ามลวดหนาม ย้ำปัจจุบันไม่มีการปะทะ
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยังตรวจพบโดรนในหลายพื้นที่ และยังตรวจพบความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา พยายามเข้ามาเกาะแนวลวดหนามหีบเพลงบริเวณฐานปฏิบัติการฝ่ายไทย
สถานการณ์โดยรวม เจ้าหน้าที่ตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ในพื้นที่ตอนใน จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี นครราชสีมา และร้อยเอ็ด จำนวน 94 ลำ และในพื้นที่ตามแนวชายแดน 5 พื้นที่ จำนวน 25-30 ลำ บินเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทย
นอกจากนี้ตรวจพบความเคลื่อนไหวทหารกัมพูชา พยายามเข้ามาเกาะแนวลวดหนามหีบเพลงบริเวณฐานปฏิบัติการฝ่ายไทย และพยายามข้ามลวดหนามเข้ามา ฝ่ายไทยได้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎการปะทะ ทหารกัมพูชาจึงถอยออกไปจากพื้นที่ ปัจจุบันไม่มีการปะทะ ฝ่ายไทยยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในเขตอธิปไตยของไทย มีการเตรียมพร้อมและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยึดมั่นตามข้อตกลงของการประชุม GBC ที่ผ่านมา
การทำพื้นที่ให้ปลอดภัย จัดชุดทำลายล้างวัตถุระเบิด หรือชุด EOD เข้าตรวจสอบพื้นที่ เพื่อทำลายวัตถุระเบิดที่ยังตกค้าง โดยได้ตรวจสอบแล้ว 269 พื้นที่ รอการตรวจสอบ 43 พื้นที่ และอยู่ระหว่างดำเนินการ รอทำลาย 9 พื้นที่ โดยเน้นย้ำประชาชนหากพบวัตถุต้องสงสัยให้รีบดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทันที เพื่อทำการเข้าตรวจสอบต่อไป
นอกจากนี้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังสุรนารี ได้จัดชุดปฏิบัติการด้านกิจการพลเรือน กองกำลังสุรนารี จำนวน 7 ชุด ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจกับประชาชน ป้องกันการเกิดความเข้าใจผิดและความตื่นตระหนกจากกระแสข่าวปลอม (Fake News) ที่อ้างว่าจะมีการปะทะรอบที่ 2 โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนที่ได้อพยพเข้ามาในพื้นที่ เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐ กองทัพบก และกองทัพภาคที่ 2
ภาพสรุปตัวเลขบ้านเรือนเสียหายจากเพจกองทัพภาคที่ 2
จากการสำรวจความเสียหายในพื้นที่ 4 จังหวัด พบว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 256 หลังคาเรือน แบ่งเป็นความเสียหายเล็กน้อย จำนวน 185 หลังคาเรือน ความเสียหายมาก จำนวน 29 หลังคาเรือน ความเสียหายทั้งหลัง (เกินร้อยละ 70) จำนวน 42 หลังคาเรือน
ปัจจุบันทางจังหวัดได้รวบรวมข้อมูลความเสียหาย และวางแผนให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยบางส่วนได้เข้าดำเนินการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว.-สำนักข่าวไทย