ศาลฯ ไต่สวน ​ผบ.เรือนจำคนปัจจุบัน คดี “ทักษิณ”​ ละเอียดยิบกว่า 1 ชม.

ศาลฎีกาฯ ​13 มิ.ย.-ศาลฯ ไต่สวน ​ผบ.เรือนจำคนปัจจุบัน คดี “ทักษิณ”​ ละเอียดยิบกว่า 1 ชม. ขั้นตอนส่งตัวเข้า​ รพ.​ตำรวจ​ ผบ.เรือนจำ รับแพทย์เขียนใบส่งตัวล่วงหน้ารักษานอกเรือนจำได้กรณีฉุกเฉิน ไม่ผ่านทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ตามขั้นตอน ด้านศาลเรียกประวัติการรักษาตัวต่างประเทศ-มติแพทสภา นัดไต่สวนอีก ​6 นัด ช่วง ​ก.ค.​ และเรียกสอบพยานเพิ่ม 20 ปาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 9.30 น. วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีการนัดไต่สวน กรณีการเข้ารักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจเพื่อพิจารณาว่าการรักษาตัวดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบกฎหมายหรือไม่และมีการฝ่าฝืนกฎหมายหรือข้อกำหนดของกรมราชทัณฑ์หรือไม่


โดยศาลได้ไต่สวนนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งศาลได้ไต่สวนในขั้นตอนของการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำ ซึ่งเป็นข้อสงสัยหลังศาลได้อ่านเอกสารคำชี้แจง กว่า 1 ชั่วโมง

ศาลได้ถามถึงกระบวนการในวันส่งตัวนายทักษิณ ในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ว่าได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ มีการตรวจและปฏิบัติกับนายทักษิณอย่างไร ซึ่งทางนายมานพได้ชี้แจงว่า ในวันที่ 22 สิงหาคม ได้รับตัวนายทักษิณจากศาล มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในเวลา 14.00 น. ซึ่งมีการตรวจร่างกาย โดย พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ แพทย์ผู้ตรวจร่างกาย ได้ตรวจร่างกายและเขียนใบรับรองว่ามีโรคความดันสูงโรคหัวใจ อยู่ในกลุ่ม 608 พร้อมเขียนใบส่งตัวไว้ล่วงหน้าหากฉุกเฉิน จะได้สามารถส่งตัวได้ทันทีเมื่อมีอาการ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้พิมพ์ลายนิ้วมือและรับมอบประวัติการรักษาจากต่างประเทศ มีการตรวจค้น ตรวจตัวและบันทึกลงระบบ


นายมานพ ชี้แจงอีกว่า​ จากนั้นในเวลา 22.00 น. พยาบาลของสถานพยาบาลภายในเรือนจำได้เข้าไปตรวจนายทักษิณ พบว่ามีความดันผิดปกติ ออกซิเจนมีความผิดปกติ แน่นหน้าอก นอนไม่หลับ แขนขาอ่อนแรง จึงได้โทรไปปรึกษาหมอของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งแพทย์ได้ ให้ความเห็นว่าสามารถส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำได้ ทางพัสดีเวรจึงมีคำสั่งตามคำวินิจฉัยแพทย์ ส่งตัวนายทักษิณ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ

ศาลจึงได้ถามว่าปกติมีการเขียนใบส่งตัวไว้ล่วงหน้าหรือไม่ นายมานพ ยืนยันว่า มี ทำเป็นปกติในกรณีผู้ป่วยกลุ่ม 608 แต่กรณีของนายทักษิณตนไม่ทราบเหตุผล ส่วนอาการในคืนนั้นของนายทักษิณตรงกับใบส่งตัวล่วงหน้าเลยใช่หรือไม่ นายมานพ กล่าวว่า เห็นแค่ในรายงานเอกสารแต่ส่วนตัวไม่เห็น

ศาลจึงได้ทวงถามถึงประวัติการรักษาจากต่างประเทศของนายทักษิณ เนื่องจากไม่มีการส่งหลักฐานให้กับศาล พร้อมถามถึงรายละเอียดการส่งตัวของผู้ต้องขังไปรักษา นอกเรือนจำมีขั้นตอนอย่างไรและอาศัยตามอำนาจกฎหมายใด ตามประมวลกฎหมายอาญาหรือตามระเบียบราชทัณฑ์ 2563 เนื่องจากมีความแตกต่างกัน นายมานพ ได้ชี้แจงว่าเป็นขั้นตอนตามมาตรา 55 ของพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ปี 2560 และกฎกระทรวง ว่าสามารถส่งตัวผู้ต้องขัง ที่มีอาการป่วยในเวลาปกติได้ ซึ่งก็คือในเวลาราชการ โดยตามระเบียบจะต้องประเมินอาการในสถานพยาบาลในเรือนจำก่อน หากมีอาการหนักก็จะส่งตัวไปยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ทุกกรณี และหากมีอาการหนักกว่าเดิมสามารถส่งไปรักษาตัวโรงพยาบาลนอกเรือนจำได้ ส่วนก่อนหน้านี้จะมีนักโทษในคดีทางการเมืองถูกส่งไปรักษานอกประจำแบบนายทักษิณ หรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ในระยะเวลาที่ตนดำรงตำแหน่งมานั้นมี เช่นผู้ป่วยจิตเวช ผู้ป่วยมะเร็ง


ศาลจึงถามต่อว่า ตอนที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปควบคุมตลอดเวลาหรือไม่ นายมานพ กล่าวว่ามีการส่งไปตลอด มีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ จำนวน 4 นาย เวรละ 2 นาย สลับกลางวันกับกลางคืน แต่เจ้าหน้าที่ 1 คนสามารถเข้าเวรต่อเนื่องได้ โดยจะมีการลงชื่อในสมุดเข้าเวร และมีการเซ็นเบิกค่าเงินเข้าเวร สารจึงได้ขอหลักฐานการเบิกเงินเข้าเวร จะให้ส่งมาพร้อมกับประวัติการรักษาตัวนายทักษิณในต่างประเทศ ภายใน 15 วัน

จากนั้นศาลได้เปิดให้คู่ความไต่สวนพยานได้ แต่จะต้องไม่เป็นการซักค้านศาล โดยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ได้ขออนุญาตต่อศาลเพื่อ สอบถามข้อมูลบางส่วนกับพยานโดยตรงในชั้นไต่สวน ศาลได้ชี้แจงต่อทนายความจำเลยว่า ไม่สามารถอนุญาตให้ทนายความจำเลยถามคำถามต่อพยานได้โดยตรง แต่ศาลจะเป็นผู้พิจารณาแต่ละคำถามตามความเหมาะสม

โดยทนายวิญญัติ ได้เริ่มถามข้อที่ 1 ว่าการส่งตัวผู้ต้องขังที่ป่วยออกไปรักษาโรงพยาบาลนอกความดูแลของกรมราชทัณฑ์ ทางกรมราชทัณฑ์ได้ทำ MOU ร่วมกับโรงพยาบาลอื่นหรือไม่ เช่นโรงพยาบาลตำรวจ

ศาลได้ตอบแทนพยานว่า ส่วนนี้ทางกรมราชทัณฑ์มี MOU ในเอกสารอยู่แล้ว

ทนายจึงถามข้อที่ 2 ต่อว่า ที่ผ่านมาทางเรือนจำ มีกรณีใดหรือไม่ ที่ส่งตัวผู้ต้องขังที่ป่วยไปรักษาตัวภายนอกโดยไม่ผ่านขั้นตอนโรงพยาบาลเรือนจำฯ แต่คำถามนี้ศาลไม่อนุญาตให้ถาม เนื่องจากเป็นการถามค้านศาล

ส่วนข้อที่ 3 พยานรู้อยู่แล้วใช่หรือไม่ผู้ต้องขังมีประวัติการรักษาตัวจากต่างประเทศ ไม่ใช่พึ่งมีอาการ นายมานพ ระบุว่าไม่ทราบ

ข้อที่ 4 พยานทราบหรือไม่ว่าในระหว่างปฏิบัติราชการอยู่มีการคุมตัวผู้ต้องขังออกไปรักษาที่นอกเรือนจำทั้งประเทศจำนวนเท่าใด

ศาลไม่อนุญาตให้ตอบ

ข้อที่ 5 ตามกฎกระทรวงเรื่องการคุมตัวผู้ต้องขังนอกเรือนจำเจ้าหน้าที่ต้องมีการควบคุมตัวตลอดเวลาใช่หรือไม่

ศาลแจ้งกลับว่า ในข้อคำถามดังกล่าวศาลได้กำหนดนัดหมายเรียกพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ที่ควบคุมตัวนายทักษิณมาไต่สวนแล้ว จึงไม่อนุญาตให้ถาม

ข้อที่ 6 จากการที่พยานกล่าวว่าแนวทาง ปฏิบัติกฎกระทรวงปี 2563 พยานไม่มีส่วนในการร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ทั้งนี้มาตรฐานการควบคุมตัวผู้ต้องขังนอกเรือนจำ(SOP) ถือว่าเกิดขึ้นก่อนหน้ากรณีของนายทักษิณใช่หรือไม่

นายมานพ ยืนยันว่า ใช่

ข้อที่ 7 การที่ราชทัณฑ์มารับตัวผู้ต้องขังจากศาลฎีกาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 วิธีการซักประวัติถ่ายรูปตรวจร่างกายถือว่าเป็นการรับโทษแล้วหรือไม่ แต่ ศาลไม่อนุญาตให้ถามเพราะจะเป็นผู้วินิจฉัยเอง

ข้อที่ 8 พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในเรือนจำมี 1 คนต่อ 1 รอบเวรใช่หรือไม่

นายมานพ ระบุว่า พยาบาล 1 คนต่อ 1 เวรจะต้องดูแลผู้ต้องขังจำนวน 4,000 คน

ส่วนข้อที่ 9 กลุ่ม 608 คือกลุ่มอะไร แต่ในข้อคำถามนี้ศาลแนะนำว่าควรจะสอบถามไปทีแพทย์มากกว่าเพราะมีความรู้เฉพาะเจาะจงแต่นายวิญญัติ ยืนยันว่าจะถามผู้บัญชาการเรือนจำ ว่าเข้าใจหรือไม่ว่าคนไข้กลุ่ม 608 คือใคร ศาลจึงอนุญาตให้ผู้บัญชาการเรือนจำชี้แจงซึ่งระบุว่า กลุ่ม 608 หมายถึงกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปป่วยด้วย 8 โรค กลุ่มนี้ทางเรือนจำจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดการเรียกว่ากลุ่ม 608 เกิดขึ้นในสมัยการแพร่ระบาดของโควิด

ต่อมาเวลา 10.30 น. ทนายวิญญัติขออนุญาตอ่านคำชี้แจงต่อศาลว่าขอขยายระยะเวลาการส่งเอกสารเพิ่มเติมภายใน 23 มิถุนายนนี้ และขอเบิกตัวพยานฝ่ายจำเลยที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยจะส่งรายชื่อและรายละเอียดให้ศาลพิจารณาก่อนว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยศาลได้ระบุว่าในคดีดังกล่าวจะมีการไต่สวนอีกหลายนัดและมีการเรียกพยานมา และขอให้ทำเรื่องมาซึ่งศาลจะวินิจฉัยเองว่าได้หรือไม่ได้

นายวิญญัติ ได้ขอต่อศาลว่าขอไม่ให้มีนัดในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากนายทักษิณ มีกำหนดนัดคดี ม.112 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ต้องไปปรากฏตัว โดยศาลได้ชี้แจงว่า ทั้งสารเองก็มีข้อจำกัดในการกำหนดนัดผู้พิพากษาและการจัดเตรียมสถานที่จึงขอให้ทีมทนายความจัดสรร เวลาและผู้มาฟังการไต่สวนเพราะนายทักษิณ ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาด้วยตนเองสามารถมอบหมายทนายความให้เป็นตัวแทนได้

แต่นายวิญญัติ ได้ชี้แจงว่าอยากขอความเมตตาเนื่องจากตนเองเป็นทนายความเพียงคนเดียวที่ได้เข้าเยี่ยมนายทักษิณ ขณะที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ อีกทั้งนายทักษิณ จำเป็นต้องมีทนายความที่ไว้วางใจในการ เดินทางขึ้นศาลในแต่ละครั้ง

อย่างไรก็ตามศาลได้นัดไต่สวนพยานในครั้งถัดไปคือวันที่ 4 , 8, 15, 18, 25 และ 30 ก.ค.2568 พร้อมเรียกพยานสอบ 3 นัดในจำนวนดังกล่าว​ รวม 20 ปาก ซึ่งประกอบด้วย พยาบาลในสถานพยาบาลในเรือนจำ พิเศษกรุงเทพฯ แพทย์ใน ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ อดีตผู้บัญชาการเรือนจำฯ และอธิบดีกรมราชทัณฑ์มาชี้แจง พร้อมเรียกเอกสาร รายงานของกสม.และมติแพทยสภา ที่มีการพิจารณากรณีส่งตัวรักษานายทักษิณ ชั้น 14 เพิ่มเติมจากป.ป.ช..-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” พรุ่งนี้

ทำเนียบ 15 มิ.ย.-รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ ต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025 ร่วมโชว์พลังหญิง นำเสนอวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยในทุกมิติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568) รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ให้การต้อนรับ “โอปอล” นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World คนแรกของประเทศไทย ที่เพิ่งคว้ามงกุฎระดับโลกในการประกวด Miss World ประจำปี 2025 ที่ประเทศอินเดีย มีกำหนดการเข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเวลา 10.00 น. การพบปะกันในครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของสตรีไทย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิสตรี การศึกษา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน การเข้าเยี่ยมคารวะของ Miss World 2025 ยังเป็นการส่งสารเชิงบวกต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านความเท่าเทียมทางเพศอีกด้วย […]

ลงโทษ “ชัยวัฒน์” ไล่ออกจากราชการ ปม ป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.- ก.ทรัพยากรธรรมชาติฯ มีคำสั่งลงโทษไล่ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ออกจากราชการ กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยพบพฤติการณ์ฮั้วประมูล และปลอมเอกสารตรวจรับงานที่ทำให้รัฐเสียหาย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามในคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 194/2568 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ให้ลงโทษนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ประเภทอำนวยการระดับสูง สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ้นจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการประชุมครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ได้พิจารณาสำนวนไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. […]