ทนายยัน “ทักษิณ” ป่วยจริง ผ่านกระบวนการคุมขัง

ศาลฎีกา 13 มิ.ย.- ทนายวิญญัติ ยืนยัน “ทักษิณ” ป่วยจริง ผ่านกระบวนการคุมขัง ทำให้สามารถเข้ากระบวนการพักโทษและอภัยโทษได้ พร้อมเรียกและไต่สวนพยานที่ศาลเรียก


นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยหลังการไต่สวนกรณีความปรากฏการบังคับโทษจำคุก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า วันนี้เป็นวันที่ตนเองในฐานะที่เป็นทนายฝ่ายจำเลย ที่ศาลได้มีหมายนัดแจ้งมา เพื่อจะนัดพร้อมและนัดไต่สวน จากเดิมที่ยังไม่รู้ว่าศาลจะดำเนินกระบวนการพิจารณาอย่างไร วันนี้ศาลก็ได้กำหนดแนวทางที่ชัดเจนแล้ว ซึ่งศาลได้ไต่สวนพยาน 1 ปาก คือนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และมีการซักถามพยาน แต่ศาลก็เห็นว่ายังมีข้อเท็จจริงอีกพอสมควรที่จะต้องแสวงหาความจริงและหลักฐาน มาประกอบการวินิจฉัย มีพยานบุคคลอีกกว่า 20 ปากที่ศาลมีหมายเรียกมาให้การไต่สวนต่อศาล และให้โอกาสจำเลยด้วย โดยตนเองได้ยื่นเสนอพยานบุคคลเพื่อประกอบการชี้แจงต่อศาล และศาลก็ให้เขียนคำร้องเข้าไป ซึ่งศาลจะพิจารณาว่าจะอนุญาตหรือไม่

ศาลไม่ได้รับฟังกระแสสังคมอย่างเดียว แต่ฟังพยานหลักฐานและพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องจริงๆ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง ทั้งนี้ยังบอกไม่ได้ว่าแนวทางเหล่านี้จะเป็นคุณหรือเป็นโทษ แต่ความจริงคือ นายทักษิณมอบตัว ถูกหมายจำคุก ได้ถูกนำตัวเข้าเรือนจำไปอยู่ในแดนที่อยู่ในบริเวณของเรือนจำ ถือว่าได้อยู่ในกระบวนการของการบังคับโทษเบื้องต้นแล้ว ต่อมานายทักษิณป่วย ได้รับการตรวจอย่างน้อย 3 เวลาตามมาตฐาน แต่แพทย์เห็นว่าเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง ก่อนจะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล และกระบวนการหลังจากนี้ก็เป็นการถูกจำคุกตามมาตรา 55 ของ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ถือว่าโรงพยาบาลเป็นสถานที่คุมขัง และยังอยู่ในความควบคุมของกรมราชทัณฑ์ เมื่อมีสิทธิประโยชน์ของผู้ต้องขัง เช่น การขอพระราชทานอภัยโทษ นายทักษิณก็ใช้กระบวนการนั้น เมื่อถึงเวลาคณะอนุกรรมการพิจารณาการพักโทษ ซึ่งจะต้องเข้าเกณฑ์เป็นผู้ถูกคุมขังและเป็นนักโทษเด็ดขาด ซึ่งก็ผ่านกระบวนการมาหมด จนนายทักษิณได้รับการพักโทษออกมา และต่อมาก็ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ เท่ากับนายทักษิณผ่านกระบวนการที่เกิดขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศไทยทั้งหมด


นายวิญญัติ ยังกล่าวว่า นายทักษิณเป็นนักโทษเด็ดขาด ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ถึงผ่านการพิจารณาอภัยโทษ จึงได้รับการพิจารณาปล่อยตัว ส่วนจะนำนายทักษิณมาเบิกความต่อศาลฎีกาหรือไม่ ขอไม่ตอบ

ส่วนเรื่องมติแพทยสภา เป็นเรื่องหมอกับหมอ ก็ว่ากันไป มีข้อบังคับของตนเอง และจริยธรรมต่างๆ แต่แพทยสภาจะมีข้อเคลือบแคลงถึงความไม่เป็นกลาง หรือมีนัยใดหรือไม่ ตนเองไม่มีความเห็น ขอยืนยันเพียงว่าเป็นคนละประเด็นกับที่ศาลไต่สวน เนื่องจากแพทยสภาก็ไม่เคยปฏิเสธว่านายทักษิณไม่ได้ป่วย มีเพียงเรื่องอาการวิกฤติหรือไม่ ซึ่งก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะในกฎหมายไม่มีคำนี้ ดังนั้นแพทยสภาจะมีมติอย่างไรก็เป็นเรื่องของแพทยสภา แต่ตนเองเชื่อว่านายแพทย์ที่รักษานายทักษิณ ใช้ดุลพินิจส่วนตัววินิจฉัยร่างกายของผู้ป่วย และดุลพินิจสามารถแตกต่างกันได้ในแพทย์แต่ละคน หากเป็นเรื่องผิดจริยธรรม ก็อาจเป็นมาตรฐานใหม่ของแพทยสภาหรือไม่ อย่างไรก็ตามแพทย์ทั้ง 3 คน ยังสามารถเรียกร้องความเป็นธรรมผ่านการยื่นศาลปกครองได้อยู่

ส่วนประวัติการรักษาตัวของนายทักษิณที่รักษาตัวในต่างประเทศ ยืนยันว่ามีแน่นอน แต่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลสุขภาพ ที่ต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายที่ใครจะเอามาเปิดเผยได้ และนายทักษิณก็ไม่ยินดีที่จะเปิดเผยหรือให้ใครคัดลอกสำเนา แต่ได้มีการยื่นให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และแพทย์ที่ทำการตรวจร่างกายแล้ว แพทย์มีการบันทึกไว้ในประวัติผู้ป่วยแล้ว ก่อนจะคืนประวัติให้เจ้าของ ตอนนี้เมื่อศาลต้องการเห็นประวัติและร้องขอให้กรมราชทัณฑ์ส่งให้ ก็ต้องรอดูทางกรมราชทัณฑ์ ซึ่งศาลไม่ได้เรียกจากตนเอง แต่เรียกจากกรมราชทัณฑ์ แต่หากเรียกจากตนเอง ตนเองก็ต้องส่งให้ ซึ่งนายทักษิณก็มีสงวนสิทธิ์ไม่ส่งได้


ส่วนเรื่องใบเสร็จ ต้องถามนายชาญชัยกับพวกว่าได้มาได้อย่างไร หากเป็นข้อมูลส่วนตัวที่ควรต้องปกปิด ก็ขอให้มีการตรวจสอบว่านายชาญชัยได้มาได้อย่างไร แต่หากถามว่าทำไมใบเสร็จน้อย ไม่มีค่ายา ก็ขอบอกว่าโรคของนายทักษิณน้อย ไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และนายทักษิณก็รักษาตัวอยู่ต่างประเทศก่อนแล้ว ดังนั้นไม่มีกฎหมายใดห้ามใช้หมอหรือยาจากต่างประเทศ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย