กต. เรียกร้องกัมพูชาลดความตึงเครียดตลอดแนวชายแดน

กระทรวงการต่างประเทศ 8 มิ.ย.-โฆษก กต. แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังสงบ หลังไทยออกมาตรการปิด-เปิด จุดผ่านแดน พร้อมเรียกร้องกัมพูชาลดความตึงเครียดตลอดแนวชายแดน และใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหา กร้าว “กัมพูชา” ไม่ใช่ประเทศเดียวที่สื่อสาร แต่ “ไทย” ก็แจ้งข้อเท็จจริงให้มิตร-นานาประเทศรับทราบ ย้ำ “รัฐบาล-กองทัพ” ลงเรือลำเดียวกัน เอา “อธิปไตยแห่งรัฐ” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เหนือสิ่งอื่นใดแน่นอน


นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงพัฒนาการสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชาว่า ตามที่มติของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ มอบอำนาจให้ กองทัพภาคที่หนึ่งกองทัพภาคที่สองและกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ออกมาตรการควบคุม การปิดเปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทในพื้นที่ ที่รับผิดชอบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาและได้มีการออกคำสั่ง ในทุกจุดครบถ้วนตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนยังสงบ เรียบร้อยดี และตามที่ทหารได้ชี้แจงแล้ว ว่าไม่ได้ปิดด่านทั้งหมดทันที แต่เป็นแนวทางปฏิบัติที่เป็นขั้นเป็นตอน เหมาะสมตามแต่สถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ซึ่งแบ่งออกเป็น4 ขั้น ได้แก่ การผ่านแดน โดยจำกัดอนุญาตเฉพาะบุคคล ที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่ง แรงงานและความจำเป็นอื่น ๆ โดยจำกัดและเพิ่มระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ที่อาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย
ขั้นที่สองเป็นการปรับลดเพิ่มวันเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดน และกำหนด เวลาเข้าออกที่ชัดเจน ขั้นที่สาม ปิดจุดผ่านแดนบางจุด
และขั้นที่สี่คือการปิดจุดผ่านแดนตลอดแนวชายแดน ในกรณีที่เกิดสถานการณ์วิกฤติ เพื่อควบคุมสถานการณ์ในระดับสูงสุด

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า สำหรับจุดผ่านแดนชายแดนไทย-กัมพูชา ขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการปรับเวลาปิด-เปิด เอกสารที่ต้องใช้ ข้อจำกัด ต่างๆ ในระยะนี้ ซึ่งแต่ละจุดจะกำหนดมาตรการแตกต่างกันไป ดังนี้
กองทัพภาคที่หนึ่งโดยกองกำลังบูรพาเป็นผู้กำหนดมาตรการสำหรับจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า ในจังหวัดสระแก้ว
กองทัพภาคที่สองโดยกองกำลัง สุรนารีเป็นผู้กำหนดมาตรการสำหรับจุด ผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรน การค้าในจังหวัดอุบลราชธานี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และสุรินทร์


กองทัพเรือโดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดเป็นผู้กำหนดมาตรการ สำหรับจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า ในจังหวัดจันทบุรี โดยจุดผ่านแดนที่ไทยประกาศมีเป้าหมาย โดยพิจารณาจากความจำเป็นต่างๆ ในพื้นที่ซึ่งการจำกัดเวลาเปิด-ปิด เป็นไปเพื่อดูแลความปลอดภัย ของพี่น้องได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น ซึ่งมาตรการต่างๆ ถูกกำหนดขึ้นตามลักษณะเฉพาะ การใช้งานของแต่ละจุดผ่านแดน โดยเฉพาะการผ่านแดนที่เกิดขึ้นเป็นประจำและจำเป็นเพื่อให้ การค้าขาย การศึกษา การเข้ารับบริการทางการแพทย์อื่น ๆ ทำได้ตามปกติ

ทั้งนี้ฝ่ายไทยยืนยันมาตลอด ตั้งแต่ต้น และปฏิบัติ ว่าเราปฏิบัติตาม และพร้อมใช้กลไกทวิภาคีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยเขตแดนไทย-กัมพูชาหรือ เจบีซี ที่กำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และยังคงปฏิบัติmou ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี 2543 ที่เป็นเอกสารทางกฎหมายและเป็นกติกาที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกัน ย่อมต้องยึดถือ รัฐบาลไทยขอยืนยัน ในความเชื่อมั่นว่าใช้กลไกที่ไทยและกัมพูชา มีอยู่ระหว่างการเช่น การประชุมเจบีซี ที่จะ มาถึงนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง เพื่อลดความตึงเครียดในสภาวะที่เปราะบางเช่นนี้ และเพื่อหาทางออกอย่างสันติ เคารพ ซึ่งกันและกันและด้วยความจริงใจต่อกัน เพื่อให้ชายแดนของเรากลับสู่ภาวะปกติ มีความสงบสุขและปลอดภัย ดังนั้นไทย จึงขอเรียกร้องอีกครั้งหนึ่งให้ฝ่ายกัมพูชาลดระดับความตึงเครียด ตลอดแนวชายแดน หันมาใช้กลไกทวิภาคี ให้เป็นประโยชน์สูงสุดเพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามออกไป

จากนั้น เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม โดยนายนิกรเดช ย้ำว่า การเปิดปิดด่าน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการค้า แต่การเปิดปิดด่านเป็นไปเพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยของคน อาจจะมีผลกระทบที่อาจจะเกิดกับการค้า ซึ่งเราได้คำนึงถึงไว้แล้วจึงได้มอบอำนาจให้แต่ละจุดภายใต้ทหารควบคุมและดูความเหมาะสม


“เรายังไม่ได้ปิดด่าน เราปรับเวลาการเปิดปิดด่าน แล้วจำกัดการเข้าออกของคน และไม่ใช่ทุกด่านเปิดปิดเวลาเดียวกันและจำกัดคนประเภทเดียวกัน แต่เราดูตามความเหมาะสม ส่วนเรื่องใครได้รับผลกระทบมากน้อยกว่ากันนั้น เราก็ได้คำนึงถึง และผมขอตอบในส่วนของประเทศไทยเท่านั้น เราไม่มีปัญหาครับ” นายนิกรเดช กล่าว

เมื่อถามว่าท่าทีของสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาตอกย้ำว่าเป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศ ดังนั้น ทางการไทยต้องทำความเข้าใจกับสังคมอย่างไรบ้าง นายนิกรเดช กล่าวว่า สาเหตุที่ตนออกมาแถลงข่าวทุกวันนี้ ก็พยายามเชิญชวนให้พี่น้องชาวไทยเข้าใจในจุดยืนของเรา สิ่งที่ตนพยายามพูดตอนนี้คืออยากจะให้พี่น้องประชาชนทราบว่าทั้งรัฐบาลและทหาร

“ตอนนี้มีแนวทางเดียวกัน ผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนไทยถูกนำมาเป็นตัวตั้งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่สิ่งอื่น และอธิปไตยแห่งรัฐก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใดแน่นอน เพราะฉะนั้น ตอนนี้ทุกคนอยู่ในทิศทางเดียวกัน อยู่ในเรือลำเดียวกัน
และจะเดินหน้าไปพร้อมๆ กัน อยากจะให้พี่น้องชาวไทยสบายใจได้ในระดับหนึ่งว่าเราไม่ได้ช้า เราทำ เรามีการหารือระหว่างหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานรัฐ เราเดินหน้ามาตรการทางทหารก็จริง แต่ก็มีการเดินหน้ามาตรการทางการทูตด้วยพร้อมกัน” นายนิกรเดช กล่าว

นายนิกรเดช ระบุว่า แม้จะมีมาตรการเรื่องการปิดด่านเกิดขึ้น แต่เราไม่ได้ทิ้งความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคี JBC ที่กำลังจะมาถึงให้เป็นทางออกอย่างสันติวิธี

นายนิกรเดช ยังยืนยันว่า เรื่องนี้นานาประเทศไม่ได้พุ่งเป้ามาที่ประเทศไทย เพราะประเทศกัมพูชาไม่ใช่เป็นประเทศเดียวที่สื่อสาร แต่เราก็สื่อสารไปสู่ประเทศอาเซียน และมิตรประเทศอื่นๆ เราสื่อสารเพื่อทำความเข้าใจที่ถูกต้องบนพื้นฐานของความเป็นจริงว่ามีอะไรเกิดขึ้น และสิ่งที่เราสื่อสารคือเราจะจัดการปัญหาเองได้ เราจะจัดการปัญหาด้วยกลไกทวิภาคี ถึงจุดนี้เรายังไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากประเทศที่สาม

นายนิกรเดช กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเทศที่สามที่สนใจและอยากรู้ก็มี แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นการสอบถามข้อเท็จจริง เพราะเขาก็เป็นมิตรประเทศในอาเซียน เช่น มาเลเซีย เป็นต้น เราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร จึงแจ้งให้ทราบถึงความเป็นจริงว่าอะไรเกิดขึ้น ตนคิดว่าไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วงในชั้นนี้.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้