กรุงเทพฯ 1 เม.ย. – ราคาทองคำพุ่งไม่หยุด สร้างสถิติอีกไม่ถึง 1 ชั่วโมง ขึ้น 600 บาทต่อบาททองคำ ด้านหุ้นไทยเปิดบวกแรง ผลจากนโยบาย ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ขึ้นภาษีน้ำเข้าคู่ค้าและเรียกเก็บภาษี 25-50% ต่อประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาครั้งแรกเช้านี้ (1 เม.ย.) ราคาทองปรับขึ้นทันที 450 บาท และจนถึงเวลา 10.00 น. ราคาขยับขึ้นอีก รวม 5 ครั้ง รวมบวกขึ้น 650 บาท ส่งผลให้ทองคำแท่งขายออกอยู่ที่ 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออกอยู่ที่ 51,500 บาท ตามราคา gold spot ที่ 3,145.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และเงินบาทอ่อนค่า ที่ 34.05 บาท/ดอลลาร์ฯ
ฮั่วเซ่งเฮง วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ ระบุว่าราคาทองปรับขึ้นร้อนแรงทำ All-time high ติดต่อกัน 3 วัน และเป็นครั้งที่ 19 ของปีนี้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 36 ดอลลาร์ หรือ 1.16% ปิดที่ 3,150.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เหตุสงครามการค้าโลกรุนแรงยังหนุนราคาทองคำ เนื่องจากวันที่ 2 เม.ย. สหรัฐจะเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% และเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ต่อทุกประเทศทั่วโลก ทำให้ตลาดกังวลจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย
นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังระบุจะเรียกเก็บภาษี 25-50% ต่อประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย หากมองว่ารัสเซียกำลังขัดขวางความพยายามในการยุติสงครามในยูเครน และเตือนว่าสหรัฐฯ จะใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีอิหร่าน และใช้มาตรการภาษีศุลกากรกับอิหร่าน หากอิหร่านไม่ยอมบรรลุข้อตกลงโครงการนิวเคลียร์ ประกอบกับ ข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตปรับตัวขึ้นแตะระดับ 50.5 ในเดือน มี.ค. จากระดับ 50.2 ในเดือน ก.พ.ส่งผลวานนี้ (31 มี.ค.) สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 2.12 ดอลลาร์ หรือ 3.06% ปิดที่ 71.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์ หรือ 1.51% ปิดที่ 74.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ทั้งนี้ จากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นได้ส่งผลให้หุ้นไทยรีบาวด์ โดยเมื่อเวลา 10.10 น. หุ้นไทยบวก 11.64 จุด ดัชนีเคลื่อนไหว 1,169 จุด
ธนาคารรายใหญ่หลายแห่งปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำ จากสถานการณ์ตึงเครียดของสงครามการค้าและการที่ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ เดินหน้าซื้อทองคำ โดยโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดราคาทองคำมีโอกาสที่จะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 4,500 ดอลลาร์ฯ ภายใน 12 เดือนข้างหน้า พร้อมกับคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ เพื่อรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ. -511-สำนักข่าวไทย