กรุงเทพฯ 18 มี.ค. – ราคาทองคำในประเทศพุ่งตามตลาดโลก วันนี้ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่อีก ทองรูปพรรณเข้าใกล้ 5 หมื่นบาท ด้านเงินบาทอ่อนค่ากลับมาตามจังหวะการย่อตัวลงของราคาทองคำ
สมาคมค้าทองคำ รายงานว่า เช้านี้ราคาเปิดตลาดทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ทองคำแท่ง ขายออกบาททองคำละ 48,250 ส่วนราคาทองรูปพรรณ ขายออกบาททองคำละ 49,050 บาท ปรับขึ้นจากวานนี้ 250 บาท โดยราคาทอง ตลาดเอเชียเช้านี้ เคลื่อนไหว 3,032.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ในขณะที่สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันอังคาร (18 มี.ค.) โดยตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 34.70 ดอลลาร์ หรือ 1.15% ปิดที่ 3,040.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและความไม่แน่นอนด้านการค้าอันเนื่องมาจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ในขณะที่กองทัพอิสราเอลได้กลับมาใช้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีฉนวนกาซาอีกครั้งเมื่อวานนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 400 ราย บาดเจ็บหลายร้อยราย และถือเป็นการยุติข้อตกลงหยุดยิงระยะเวลา 2 เดือนกับกลุ่มฮามาส
นอกจากนี้ ทรัมป์ ขู่ว่าเดินหน้าโจมตีกลุ่มฮูตีจนกว่าจะยอมยุติการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง และเตือนว่าอิหร่านจะต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีใด ๆ ในอนาคตที่เกิดจากกลุ่มฮูตี และทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ ในอัตรา 25% ตั้งแต่เดือน ก.พ. และเตรียมใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariffs) ในวันที่ 2 เม.ย.นี้ นักวิเคราะห์จาก ANZ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะพุ่งแตะระดับ 3,100 ดอลลาร์ ภายในเวลา 3 เดือน ขณะที่ UBS ตั้งเป้าราคาทองที่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ในปีนี้
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงาน เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 33.60-33.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (09.26 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.58 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทอ่อนค่ากลับมาตามจังหวะการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก หลังจากที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยบวก (จากตัวเลขตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด) เข้ามาช่วยชะลอแรงก่อนผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือ FOMC ในคืนนี้
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.50-33.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ประเด็นเกี่ยวกับสงครามการค้าของสหรัฐฯ และคู่ค้าสำคัญ ผลการประชุม BOJ และผลการประชุมเฟดในคืนนี้.-511-สำนักข่าวไทย