24 ก.พ. – วันศุกร์ที่ 21 ก.พ.68 หุ้นไทยรีบาวด์ขึ้นได้ บจ.ส่วนใหญ่ทยอยประกาศจ่ายปันผล ด้วย Dividend Yield ที่สูงหรือดีกว่าคาดการณ์ได้ ส่วนหนึ่งก็มาจาก ปตท. ประกาศจ่ายปันผลประจำปี 2567 ที่ 2.10 บาทต่อหุ้น จากที่มีกำไรสุทธิ 90,072 ล้านบาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ร้อยละ 6.6 และคิดเป็น Dividend Payout Ratio หรืออัตราส่วนเงินปันผลต่อกำไรที่ ร้อยละ 67 นับเป็นอัตราจ่ายสูงสุดตั้งแต่ ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นส่วนช่วยทั้งภาครัฐซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มีเงินเข้ารัฐมากขึ้น และช่วยให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นดีขึ้น เป็นหนึ่งในนโยบายดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุล
โดย ปตท.จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.80 บาท คงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายสำหรับผลประกอบการครึ่งหลังของปี 67 อีกหุ้นละ 1.30 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 7 มีนาคม และวันจ่ายเงินปันผล 29 เมษายน 2568
คุณคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ย้ำว่า ไม่มีแผนซื้อหุ้นคืน และเดินหน้าสร้างผลประกอบการให้ดีขึ้น ด้วยแผนงานลดต้นทุนรอบด้าน หาโอกาสทางธุรกิจ ยืนยันธุรกิจโรงกลั่น-ปิโตรเคมีไม่มีการควบรวมกิจการ แต่หาพันธมิตรเสริมแกร่ง กำลังพูดคุยหลายราย มาเป็นพันธมิตรในบริษัทลูกด้านโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดย ปตท.จะยังคงสัดส่วนถือหุ้นใหญ่ในบริษัทลูก และปตท.ยังมีแผนงานใหม่ EBITDA Uplift ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว เช่น โครงการ Mission X ปรับปรุงการผลิตและอื่นๆ ของแต่ละบริษัทตั้งเป้าหมาย เพิ่ม EBITDA ของกลุ่มรวม 3 หมื่นล้านบาท และโครงการ Digital Transformation เพิ่มประสิทธิภาพ รวม 2,000 ล้านบาท โดย ปตท. มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางพลังงาน สร้างการเติบโตควบคู่กับการลดก๊าซเรือนกระจก พร้อมดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างสมดุล พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน .- สำนักข่าวไทย