รวบแล้ว แม่คลั่ง ยอมรับติดยา แต่ไม่เคยตีลูก

นนทบุรี 27 มิ.ย. – รวบแล้ว แม่คลั่ง ยอมรับติดยา แต่ไม่เคยตีลูก หลังลูกคนโตอายุ 17 ปี สุดทน อัดคลิปแฉ ขอความช่วยเหลือ แม่อาละวาดด่าทอ ทำร้ายลูก 4 ขวบ แถมติดปั่นสลอต-ติดยา


ลูกสาวคนโต วัย 17 ปี ถ่ายคลิปแม่ อายุ 33 ปี ลงมือทำร้ายน้องชายคนเล็กวัย 4 ขวบ อย่างหนัก ทั้งที่น้องชายพยายามวิ่งหนีเข้าไปหายายในห้อง แต่แม่ก็ตามมากระชากตัว และหันมาด่าทอ รวมถึงใช้ขวดน้ำตีแขนยาย แต่ยายไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่ก็เลี้ยงดูแม่มาตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบ

ลูกสาวคนโต บอกว่า นอกจากสุดทนกับพฤติกรรมของแม่ ที่ต้องถ่ายคลิปเพราะก่อนหน้านี้เคยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ แต่ได้รับคำแนะนำว่าให้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ส่วนเวลาบอกแม่จะเอาน้องไปเลี้ยงเอง แม่ก็ไม่ให้ นอกจากนี้ เธอยังเล่าอีกว่า แม่มีลูก 5 คน ทุกคนเป็นลูกคนละพ่อ โดยในจำนวนพี่น้องทั้งหมด เธอเป็นคนโตและเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว (คนที่ 1) ที่เหลือเป็นผู้ชายหมด อายุไล่กัน คือ 8 ขวบ (คนที่ 2) 5 ขวบ (คนที่ 3) และ 4 ขวบ (คนที่ 4) ส่วนอีกคนแม่เพิ่งแท้งไป (คนที่ 5) โดยน้องคนที่อายุ 4 ขวบ นอกจากนอกจากถูกแม่ตีเป็นประจำ บางวันก็ถูกปล่อยให้อดๆ อยากๆ ไม่ได้กินข้าว


ขณะที่อาชีพของแม่ ไม่ได้ทำงานอะไรเป็นหลักแหล่ง แอบไปขโมยมือถือในร้านคาราโอเกะไปขาย พอได้เงินมา 7-8 พันบาทก็เอาไปซื้อยาบ้ามาเสพกันในห้องกับผู้ชายเป็นประจำ ซึ่งบางครั้งเธอเคยเห็นแม่เสพยาบ้าวันละ 10 เม็ด เรียกว่าเสพจนติด เพราะถึงแม่มีงานทำแต่ก็ยังพยายามหาเงินมาซื้อ พอได้เสพก็จะอารมณ์ดี หัวเราะสนุกสนาน ไม่ด่าใครเลย แต่ถ้าวันไหนไม่ได้เสพจะหงุดหงิด อาละวาด ด่าคนไปทั่ว ที่หนักสุดคือไประบายลงไม้ลงมือกับลูกชายวัย 4 ขวบเป็นประจำ และเคยชวนลูกสาวคนโตไปรับยาบ้ามาขายด้วย พฤติกรรมของแม่ทั้งหมด คนในชุมชนรู้หมด แต่ไม่มีใครกล้ายุ่ง เพราะกลัวถูกด่า

ลูกสาวเล่าต่ออีกว่า นอกจากติดยาบ้า เมื่อมีเงิน แม่ก็จะเอาไปเล่นพนันปั่นสลอตในมือถือ พอเสียจะอารมณ์ไม่ดีไปลงที่น้องชายคนเล็กอีก ซึ่งตอนนี้ คลิปก็มีแล้ว สื่อก็นำเสนอข่าวแล้ว อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ พาแม่ไปบำบัด และตรวจสุขภาพจิต ว่ายังปกติดีอยู่ไหม ส่วนน้องชายคนเล็กหากเป็นไปได้ก็อยากรับมาเลี้ยงดูแทน เพราะสงสาร น้องอายุ 4 ขวบแล้ว ยังมาโดนทำร้าย แถมยังไม่ได้ไปโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆ

ขณะที่ยาย อายุ 78 ปี ยืนยันว่า ที่เห็นในคลิปเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง โดยหลานวิ่งเข้ามาให้ช่วย แต่แม่ตามมาจิกกระชากหัว ยายเข้าห้ามก็ถูกตีด้วยขวดน้ำ อ้างว่าจะตีลูกใครจะทำไม อย่ามายุ่ง แถมเคยบอกด้วยว่าจะฆ่า เพราะฆ่าคนตาย ก็แค่ติดคุก ไม่กลัวคุก และที่เห็นในคลิปไม่ใช่ครั้งแรก แม่ทำกับหลานแบบนี้เป็นประจำและแทบจะทุกวัน ทั้งจิกหัวตบหน้าทั้งเตะติดกำแพงห้อง นอกจากนี้แต่ละวันจะมีผู้ชายหมุนเวียนสลับหน้ามาหาถึงห้องไม่ซ้ำกัน พอผู้ชายเอายามาให้เสพก็จะร่าเริง อารมณ์ดี อย่างไรก็ตาม หลังเป็นเรื่องราวออกข่าว แม่รายนี้ล่องหน ขนเสื้อผ้าใส่กระเป๋าบอกคนดูแลห้องเช่าว่าจะไปทำงานต่างจังหวัด


เช้านี้ ตำรวจ ปลัดอำเภอไทรน้อย และพม.นนทบุรี ลงพื้นที่พูดคุยกับลูกสาวคนโตที่ถ่ายคลิป และยาย พร้อมกับพาทั้งหมดเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ไทรน้อย เพื่อติดตามตัวแม่สุดโหดมาดำเนินคดี ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา แม่สุดโหดไปไม่รอด ถูกตำรวจตามรวบได้ที่หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง บริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 3 เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ซึ่งขณะถูกจับนางสาวรัตน์ติยา มีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ ขณะที่ตำรวจให้ข้อมูลว่า คดีนี้จะแบ่งดำเนินคดีเป็น 2 ส่วน ส่วนเเรกคือ ดำเนินการเกี่ยวกับเด็ก ซึ่งตำรวจได้พูดคุยกับ พม.นนทบุรี และเเม่เด็ก ให้ยินยอมส่งลูกวัย 4 ขวบเข้าไปอยู่ในการคุ้มครอง ดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

และอีกส่วนคือการดำเนินคดีกับแม่เด็ก ซึ่งพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริง เนื่องจากผู้เสียหายเป็นเด็กอายุ 4 ขวบ จำเป็นที่ต้องสอบสวนผ่านนักจิตวิทยา อัยการ เพราะการตรวจร่างกายของเด็กไม่พบว่ามีบาดแผล แถมร่างกายก็ปกติ แต่เรื่องสภาพจิตใจต้องให้ พม. ประเมิน เมื่อทราบผลจึงจะนำมาประกอบข้อเท็จจริงว่าการกระทำของเเม่เด็ก จะเข้าข่ายมีความผิดข้อหาใด เพราะแม่เด็กอ้างว่าตามคลิปเป็นเพียงการดุด่าว่ากล่าวตามประสาประสาพ่อเเม่ทั่วไป บางครั้งต้องทำเพราะลูกดื้อ หรือซน และที่ผ่านมาไม่เคยทำรุนแรงตามที่เห็นในคลิป ส่วนพฤติกรรมการเสพยา ตำรวจนำตัวไปตรวจหาสารที่โรงพยาบาล ซึ่งต้องรอผล แต่ตัวแม่เองยอมรับว่าติดยางอมแงม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย