คพ. ชี้ไอระเหยสารเคมี “วินโพรเสส” ลดลงต่อเนื่อง

ระยอง 29 เม.ย. – คพ. เผยผลตรวจสอบไอระเหยของสารเคมีโรงงานวินโพรเสส พบชนิดและปริมาณที่ตรวจลดลงต่อเนื่อง แต่บางจุดยังอยู่ในระดับก่อการระคายเคือง ที่อาคาร 3 พบค่าแอมโมเนียอยู่ในระดับอันตราย ตำรวจ พฐ. ต้องรออีก 2 สัปดาห์จึงจะเข้าเก็บหลักฐานได้ พร้อมปรับแผนลดการปะทุของกากอลูมิเนียม


กรมควบคุมมลพิษเข้าตรวจสอบและประเมินความปลอดภัยคุณภาพอากาศในพื้นที่เพลิงไหม้โกดังเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตรายของบริษัท วินโพรเสส จำกัด จังหวัดระยองให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดระยองก่อนเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบว่า ค่าแอมโมเนียอยู่ที่ 1 – 7 ppm ซึ่งเป็นระดับที่ปลอดภัยในการปฏิบัติงาน ยกเว้นอาคาร 3 ยังอยู่ในระดับที่เป็นอันตราย ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดระยองจึงมีแผนจะเข้าตรวจสอบที่อาคาร 3 ในอีก 2 สัปดาห์

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้ทั้งหมดแล้ว แต่ยังคงตรวจพบไอระเหยสารเคมีบริเวณกองกากของเสียที่ถูกไฟไหม้เดิมจึงปรับแผนการควบคุมสถานการณ์ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยองนำโซเดียมไบคาร์บอเนต (sodium bicarbonate) มาปิดทับกองกากเพื่อดูดซับความชื้นจากกองกากอลูมิเนียมและลดปฏิกิริยาเคมีและป้องกันการปะทุของกองกากอลูมิเนียม


ส่วนผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ บริเวณรอบโรงงานในพื้นที่ชุมชน 13 จุด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบางบุตร ตำบลหนองบัว บริเวณด้านท้ายลม 3 รอบได้แก่ เวลา 6.30 – 9.00 น. เวลา 13.39 – 16.25 น. และเวลา 18.40 – 20.15 น. พบว่า บางจุดมีไอระเหยของสารเคมีบางชนิดอยู่ในระดับที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ตา และผิวหนัง โดยแบ่งการตรวจตามระยะห่างจากจุดเกิดเหตุ ดังนี้

  • ระยะ 2 กิโลเมตร ตรวจในช่วงบ่ายถึงค่ำของวันที่ 27 เมษายน 2567 ที่ตำบลบางบุตร พบไอระเหยสารเคมีปริมาณเล็กน้อย ในหมู่ที่ 4 และ 8 จำนวน 6 ชนิดได้แก่ แอมโมเนีย (Ammonia) ไฮโดรเจนคลอไรด์ (Hydrogen chloride) เบนซีน (Benzene) ไฮโดรเจนไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide) ไนตรัสออกไซด์ (Nitrous oxide) และมีเทน (Methane) และพบสารที่อยู่ในระดับจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง ในหมู่ที่ 4 จำนวน 3 ชนิด ได้แก่ อะคริโลไนไตรล์ (Acrylonitrile) ฟอสจีน (Phosgene) และฟอสฟีน (Phosphine) และในพื้นที่หมู่ที่ 8 พบสารฟอสจีน (Phosgene) ในช่วงค่ำ ตรวจพบเฉพาะไอระเหยสารเคมีปริมาณเล็กน้อยเช่นเดียวกับที่ตรวจพบในช่วงบ่าย ยกเว้น มีเทน (Methane) และตรวจไม่พบสารที่อยู่ในระดับจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง
  • ระยะ 2 – 5 กิโลเมตร ตรวจในช่วงบ่ายของวันที่ 27 เมษายน 2567  พื้นที่ตำบลบางบุตร หมู่ที่ 4 และตำบลหนองบัว หมู่ที่ 2 และ 11 ตรวจพบไอระเหยสารเคมีปริมาณเล็กน้อยที่ตรวจพบในระยะ 2 กิโลเมตร โดยตรวจพบ เบนซีน (Benzene) เฉพาะในพื้นที่ตำบลหนองบัว หมู่ที่ 11 และพบสารที่อยู่ในระดับจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง ในพื้นที่ตำบลบางบุตร หมู่ที่ 4 ได้แก่ สารฟอสจีน (Phosgene) พื้นที่ตำบลหนองบัว หมู่ที่ 2 ได้แก่ สารอะคริโลไนไตรล์ (Acrylonitrile) และหมู่ที่ 11 พบ 3 ชนิด ได้แก่ อะคริโลไนไตรล์ (Acrylonitrile) ฟอสจีน (Phosgene) และฟอสฟีน (Phosphine) ในช่วงค่ำ ตรวจพบไอระเหยสารเคมีปริมาณเล็กน้อยที่พบซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่พบในช่วงบ่าย และพบสารที่อยู่ในระดับจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจระคายเคืองตาและผิวหนัง ในพื้นที่ตำบลหนองบัว หมู่ที่ 11 จำนวน 2 ชนิด ได้แก่ สารเมทิลเมอร์แคปแทน (Methyl Mercaptan) และไนโตรเจนไดออกไซด์ (Nirogen Dioxide)
  • – ระยะ 5 – 7 กม. จำนวน 1 จุด ในพื้นที่ตำบลหนองบัว หมู่ที่ 3 ตรวจพบไอระเหยสารเคมีปริมาณเล็กน้อยที่ตรวจพบในระยะ 2 กิโลเมตร และพบสารที่อยู่ในระดับจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง 2 ชนิด ได้แก่ อะคริโลไนไตรล์ (Acrylonitrile) และฟอสจีน (Phosgene) ในช่วงค่ำ พื้นที่ตำบลหนองบัว หมู่ที่ 3 ตรวจพบไอระเหยสารเคมีปริมาณเล็กน้อยที่ตรวจพบในระยะ 2 กิโลเมตร และพบสารไนโตรเจนไดออกไซด์ (Nirogen Dioxide) ที่อยู่ในระดับจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง

ส่วนผลการตรวจสอบในวันที่ 28 เมษายน 2567 ช่วงเช้า มีดังนี้

  • ระยะ 2 – 5 กิโลเมตร ในพื้นที่ตำบลหนองบัว หมู่ที่ 2 และ 11 ตรวจพบไอระเหยสารเคมีปริมาณเล็กน้อยที่ตรวจพบชนิดเดียวกับที่ตรวจพบวันก่อนหน้า โดยพบสารที่อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง ในพื้นที่ตำบลหนองบัว หมู่ที่ 2 จำนวน 2 ชนิด ได้แก่ สารเมทิลเมอร์แคปแทน (Methyl Mercaptan) ฟอสฟีน (Phosphine) และ หมู่ที่ 11 จำนวน 3 ชนิด ได้แก่ สารเมทิลเมอร์แคปแทน (Methyl Mercaptan) ฟอสฟีน (Phosphine) และ สารไนโตรเจนไดออกไซด์ (Nirogen Dioxide)
  • ระยะ 5 – 10 กิโลเมตร จำนวน 1 จุด ในพื้นที่ตำบลหนองบัว หมู่ที่ 3 ตรวจพบไอระเหยสารเคมีปริมาณเล็กน้อย 5 ชนิด ได้แก่ แอมโมเนีย (Ammonia) ไฮโดรเจนไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide) ไนตรัสออกไซด์ (Nitrous oxide) มีเทน (Methane) และฟอสฟีน (Phosphine)

ทั้งนี้กรมควบคุมมลพิษประเมินผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน – 28 เมษายน 2567 พบว่า ชนิดและปริมาณความเข้มข้นของไอระเหยสารเคมีที่ตรวจพบมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ตามสถานการณ์ที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ยังคงพบไอระเหยสารเคมีบางชนิดที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง หากเกิดอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ทันที ซึ่งกรมควบคุมมลพิษและกรมโรงงานอุตสาหกรรมจะยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง. 512 – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ล่า “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงินกว่า 3 ล้าน

กทม. 1 ก.ค. – ตำรวจยังคงไล่ล่าแก๊งปล้นเงินกลางห้างดังย่านลาดพร้าว ได้เงินไปกว่า 3.4 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว พบเป็นคนดังโซเชียลสายคุก ฉายา “เสือปุ่น” มีประวัติคดีโชกโชน .-สำนักข่าวไทย

“เจนี่” ถือฤกษ์ดี ปลงผมบวชสามเณรี ญาติมิตรร่วมอนุโมทนา

สระบุรี 1 ก.ค. – “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” วัย 44 ปี ถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันนี้ (1 ก.ค.68) ปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี โดยมีครอบครัว ญาติสนิท ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ร่วมอนุโมทนา. – สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]