กรุงเทพฯ 20 ก.ย.- กรมอุทยานฯ เดินหน้านโยบายของ รมว.ทส. สนับสนุนงบประมาณจัดตั้งชุดเฝ้าระวังช้างป่าและช่วยเหลือประชาชน 8 อุทยานแห่งชาติ 5 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับข้อสั่งการจาก พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรองนายกรัฐมนตรี ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เร่งรัดแก้ไขปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ เพื่อเป็นการขานรับนโยบายดังกล่าว จึงมอบหมายให้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการพิจารณาการใช้จ่ายเงินอุทยานแห่งชาติ เพื่อพิจารณาและให้การสนับสนุนจัดตั้งชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า
ล่าสุดนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติแจ้งว่า คณะกรรมการเงินอุทยานแห่งชาติ ได้อนุมัติใช้เงินอุทยานแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อสนับสนุนเพิ่มการจ้างชุดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ ประจำในจุดเสี่ยงที่ช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ ที่กำลังเกิดผลกระทบกับชาวบ้านรอบพื้นที่อนุรักษ์อย่างรุนแรง ในอุทยานแห่งชาติ จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง จ.ระยอง อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น จ.จันทบุรี อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว จ.ตราด อุทยานแห่งชาติบางลาง จ.ยะลา อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย อุทยานแห่งชาติภูเรือ จ.เลย และ อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน จ.ขอนแก่น
ทั้งนี้พื้นที่ทั้ง 8 แห่ง ได้ประสบปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์จำนวนมาก ก่อให้เกิดปัญหาการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินแก่ราษฎรโดยรอบ ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เล็งเห็นถึงปัญหาและตระหนัก ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด กรมอุทยานแห่งชาติฯ จึงได้สนับสนุนเงินรายได้อุทยานแห่งชาติ เพื่อจัดตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวัง ผลักดันช้างป่าและแก้ไขปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ และเครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่าและสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ ทั้งหมด 16 ชุด ชุดละ 5 นาย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 12,016,000 บาท โดยย้ำให้การปฏิบัติงานต้องเป็นไปตามแผนการจัดการช้างป่า ให้เกิดอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลร่วมกัน
นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่ากล่าวว่า ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา กรมอุทยานฯได้อนุมัติให้ใช้เงินรายได้อนุรักษ์สัตว์ป่าเพื่อตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ประสบปัญหาช้างป่ารบกวนประชาชนรุนแรง พร้อมค่าน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน จ.ฉะเชิงเทรา จ.สระแก้ว จ.จันทบุรี จ.ระยอง จ.ชลบุรี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขตสอยดาว จ.จันทบุรี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก จ.ระนอง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จ.เลย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อ-ภูกระแต จ.เลย รวมเป็นเงิน 3,920,000 บาท
สำหรับเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวัง ผลักดันช้างป่าและแก้ไขปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ และเครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่าและสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ ถือเป็นด่านแรกในการทำหน้าที่ ติดตาม เฝ้าระวัง ผลักดันช้างป่าที่ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์และต้อนกลับคืนสู่ป่าอนุรักษ์ดังเดิม แจ้งเตือนเหตุแก่ประชาชนในพื้นที่ที่ช้างป่าจะเคลื่อนผ่าน รวมถึงราษฎรที่ได้รับผลกระทบ เพื่อป้องกันอันตราย ลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และปฏิบัติการกู้ภัยให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรที่ประสบเหตุช้างป่าทั้งในและนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่แนวเขตป่าที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า สัตว์ป่าออกมารวบกวน เกิดความเสียหายในชีวิตทรัพย์สิน และเป็นการลดช่องว่างระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับพี่น้องประชาชนให้หันหน้าเข้ามาช่วยกันทำงานให้มีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้รมว. ทส. ได้สั่งเร่งขับเคลื่อนให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการอนุรักษ์และจัดการช้างป่า เพื่อเสนอแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาช้างป่าในภาพรวมทั้งประเทศให้เป็นวาระแห่งชาติ และขอรับการสนับสนุนงบกลางรายจ่ายฉุกเฉินของรัฐบาล เพื่อขยายการแก้ไขปัญหาช้างป่าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้งประเทศอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป.-สำนักข่าวไทย