“แพทองธาร” ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก

ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 8 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ SPLASH – Soft Power Forum 2025 ชี้วัฒนธรรมไทยมีครบถ้วนทุกองค์ประกอบที่จะทำให้ต่างชาติหลงรัก กำลังกลายเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก ตั้งเป้าส่งออกอัญมณีให้ถึง 1 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ (SPLASH – Soft Power Forum 2025) ณ เวทีกลาง Exhibition Hall 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนเข้าร่วม

โดยนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีโอกาสได้มางานนี้อีกครั้ง ซึ่งปีที่แล้วเป็นปีที่แรก และปีนี้งานยิ่งใหญ่กว่าเดิม มีคนให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นใจ


ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมีสิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นมากมายทั้งในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจและอีกหลายปัจจัยทั่วโลก ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่เข้ามาทำให้เราต้องมีการปรับตัวที่เพิ่มมากขึ้น ตนเชื่อว่าการเข้าสู่บริบทของการเปลี่ยนแปลงนั้น การเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะการเข้าใจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงการรับมือและการปรับตัวต่างๆ โดย บริบทการเข้าใจต้องเข้าใจก่อนว่าทุกอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลงได้แต่ตัวเราต้องพร้อมที่จะปรับตัวในสถานการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

สำหรับสิ่งที่เราเคยฝากความหวังไว้ เช่น การเป็น “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย”ศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน หรือ “ครัวของโลก” ที่เน้นส่งออกพืชผลและวัตถุดิบทางการเกษตร มาถึงวันนี้ ความหวังดังกล่าวกำลังเผชิญข้อจำกัดมากขึ้น ทั้งจากสงครามการค้า เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไว ความผันผวนของตลาดโลก และความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยกำลังยืนอยู่บนทางแยกแห่งอนาคต รัฐบาลไทยกำลังลงทุนในโครงสร้างใหม่ ๆ เช่น  อุตสาหกรรมดิจิทัล และการเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาค ซึ่งล้วนเป็นรากฐานของเศรษฐกิจอนาคต ที่ใช้เวลาและการลงทุนมหาศาล และอีกหนึ่งเส้นทางสำคัญ ที่เราให้ความสำคัญ คือวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่สร้าง Soft Power วันนี้ผู้คนทั่วโลกไม่ได้ซื้อแค่สินค้าและบริการ แต่ซื้อประสบการณ์ที่สะท้อนอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และรากของภูมิปัญญา ตลาดโลกกำลังเปิดรับ Soft Power ที่มีรากจากท้องถิ่น และมีคุณค่าแบบสากล สะท้อนความยั่งยืน เพื่อรับความหลากหลาย มีความคิดสร้างสรรค์ และเป็นของจริงเท่านั้น ซึ่งตนเชื่อว่า วัฒนธรรมไทยของเรามีครบถ้วนทุกองค์ประกอบที่จะทำให้ต่างชาติหลงรัก ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความภาคภูมิใจทางวัฒนธรรม แต่กำลังกลายเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ เป็นโอกาสใหม่กับคนไทย ที่สร้างรายได้มหาศาลจากความเป็นตัวของเราเอง
 
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา นโยบาย Soft Power ของไทยได้เดินหน้าอย่างมีทิศทางและเป็นรูปธรรม โดยมีการบูรณาการทุกภาคส่วนให้ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมให้มีเป้าหมายเดียวกัน ให้หลายหน่วยงานสามารถทำงานร่วมกันได้ มีการบูรณาการงบประมาณเพื่อใช้ตรงจุด ไม่ซ้ำซ้อน และกำหนดบทบาทของแต่ละฝ่ายชัดเจนมากขึ้น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราทำสำเร็จ การเปลี่ยนบทบาทของภาครัฐให้เป็นผู้สนับสนุนเปิดทางให้เอกชนที่เข้าใจอุตสาหกรรมของตัวเอง ได้เป็นผู้นำในการขับเคลื่อน วันนี้เอกชนนำ รัฐสนับสนุน เป็นแนวคิดสำคัญที่ทำให้นโยบาย Soft Power ของเราเดินหน้า

นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวว่า เมื่อรากฐานเริ่มมั่นคง ขั้นต่อไปของเราคือการยกระดับจากจุดเริ่มต้นที่เน้นภายในประเทศ สู่การมองให้ไกลขึ้น กว้างขึ้น และเชื่อมกับโลกให้มากขึ้น โดยมีเป้าหมายใหญ่ดังนี้


โดยเริ่มจากอาหารไทย ซึ่งจุดแข็งที่ทั้งโลกหลงรัก เราไม่ได้แค่จะขายรสชาติ แต่จะขายประสบการณ์ของความเป็นไทย เราจะยกระดับอาหารไทยให้เป็นแบรนด์ระดับโลกและเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทาง ด้วยโมเดลร้าน”Thai Cuisina” (ไทยคูซิน่า)  ซึ่งจะครอบคลุมถึงขั้นตอนสุดท้ายหรือ Last mile ของ supply chain อาหารไทย คือ เราจะรวมร้านอาหารไทย 4 ภาค และซุปเปอร์มาร์เก็ตขายผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปที่มีคุณภาพไว้ในที่เดียวกัน รวมทั้งยังจะเป็นศูนย์ค้าส่งกระจายผลิตภัณฑ์อาหารไทยในต่างประเทศอีกด้วย เราวางแผนว่าจะให้มีร้าน  Thai Cuisina ไปอยู่ตามเมืองใหญ่ทั่วโลก  

พร้อมกันนี้ จะต้องยกระดับการท่องเที่ยวในการต้อนรับนักเดินทางสายกิน ด้วยประสบการณ์แบบ Thai Culinary Tourism อย่างจริงจัง ทั้งคลาสเรียนทำอาหาร ทัวร์แหล่งวัตถุดิบท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการสร้างมาตรฐาน “Thai Select” ให้สามารถเทียบเคียงได้กับ รางวัลทางอาหารอื่นๆ เช่น Michelin Star โดยจะการันตี รสชาติอาหารที่เป็นไทย และใช้วัตถุดิบไทย

สอง “มวยไทย” จะไม่ใช่แค่กีฬาอีกต่อไป แต่มวยไทยจะกลายเป็นไลฟ์สไตล์ใหม่ของชาวโลก เราจะสร้าง Muay Thai Bootcamp ให้เป็นเทรนด์ใหม่ที่ใครก็อยากทำที่ได้ทั้งความฟิตสุขภาพดี และได้ Detox พบกับความสงบ ออกมาจากโลกที่วุ่นวาย รวมทั้งพัฒนาลีกอาชีพให้แข็งแรง มีการแข่งขันที่มีคุณภาพ ดูสนุก และยกระดับมาตรฐานมวยไทยในทุกมิติ

นอกจากนี้ ยังมีเรื่อง “Thai Wellness” คือโอกาสใหม่ในยุคที่คนทั่วโลกแสวงหาความสมดุล เราจะผสานนวดไทย สมุนไพร อาหารสุขภาพ และสมาธิ ให้กลายเป็นประสบการณ์แบบองค์รวม สร้าง Thai Retreat Chain ให้ครบทุกมิติมีทุกอย่าง ตั้งแต่การบำบัดร่างกายจนถึงการพักใจ สร้างมาตรฐานสปาและ therapist แบบไทย พร้อมผลักดันยกระดับสมุนไพรไทยและนวดไทยที่รองรับด้วยการวิจัยทางการแพทย์ พร้อมสำหรับการทำเป็นสินค้าส่งออกและส่งเสริมร้านนวดไทยเพื่อสุขภาพแบบมืออาชีพไปทั่วโลก

รวมถึง “ภาพยนตร์ไทย” คือเวทีที่เราจะเล่าเรื่องของเราให้โลกฟัง เราจะสนับสนุนคนทำหนังไทยให้กล้าฝันและกล้าสร้าง ผ่านพื้นที่ทดลองอย่าง writer’s room และ creative labด้วยการสนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อสร้างหนังไทยที่มีเอกลักษณ์ ให้ต่างชาติเข้าใจความบันเทิงแบบไทย

โดยจะสนับสนุนภาพยนตร์ไทยด้วยสิทธิประโยชน์คืนเงิน หรือ Cash Rebate เช่นเดียวกับที่เราให้กองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ พร้อมดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศผ่านกองทุน co-production และจะจัดงาน “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ Bangkok International Film Festival” ให้เป็นเทศกาลภาพยนตร์สำคัญของโลก เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านภาพยนตร์และสร้างตลาดการซื้อขายภาพยนตร์นานาชาติที่กรุงเทพฯ

ขณะเดียวกัน “อัญมณี” ถือเป็นอุตสาหกรรมส่งออกอันดับต้นๆ ของเรา ซึ่งเกิดจากทักษะสร้างสรรค์ของคนไทย พร้อมยกตัวอย่าง เมื่อ 20 ปีที่แล้ว มียอดส่งออกอัญมณีประมาณ 50,000 ล้าน ซึ่งเพิ่มขึ้น 10 เท่า และเพียง 5 เดือนแรกของปีนี้ส่งออกไปแล้ว 380,000 ล้าน และมีคนในอุตสาหกรรมนี้ถึง 1 ล้านคน ดังนั้น เราจะฝึกอบรมนักออกแบบ ช่างเจียรนัยเพชร ช่างทอง ช่างเงิน จำนวนมาก และยกระดับจากช่างให้เป็นศิลปิน มีค่าตอบแทนสูง และเราจะใช้มาตรการต่างๆ ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าส่งออกอัญมณีให้ถึง 1 ล้านล้านบาทภายใน 5 ปี
 
นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวว่า ตนเชื่อว่สโครงการทั้งหมดจะสามารถสร้างรายได้ใหม่ๆให้กับคนในประเทศได้ ที่จะทำให้คนไทยมีทั้งรอด ซึ่งไม่ใช่แค่ทางออกเพียงทางเดียว แต่เป็นทางรอด ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่เรามองเห็นโอกาส ยังมีอีกหลายเรื่องหลายด้าน ที่เราจะได้มองเห็นอนาคตของอุตสาหกรรม Soft Power ไทยในหลายรูปแบบ ได้แลกเปลี่ยนกับนักสร้างสรรค์จากทั่วโลก ได้ร่วมฟังวิสัยทัศน์จากผู้นำในอุตสาหกรรม ซึ่งจะจุดประกายไอเดียใหม่ๆ ที่เปลี่ยนอนาคตของประเทศไทยไป .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย