ทนายกองทัพธรรม แถลงโต้อดีตไวยาวัจกรกล่าวหาเจ้าอาวาสวัดโกงเงิน

กรุงเทพฯ 4 ส.ค. – ทนายกองทัพธรรม เปิดวัดสุทธิวราราม แถลงโต้ปมไวยาวัจกรกล่าวหาเจ้าอาวาสโกงเงินวัดเกือบ 100 ล้านบาท


พระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม พร้อมทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายกองทัพธรรม แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่นายชาญณรงค์ เพียรดี อดีตไวยาวัจกรวัดสุทธิวราราม ร้องเรียนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร, เจ้าคณะเขตสาทร, เจ้าคณะแขวงสาทร ตามลำดับชั้น และผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เหตุเกิดช่วงกลางปี 2562-มิถุนายน 2565 ว่า เจ้าอาวาสวัด ยักยอกเงินวัดฯ จำนวน 95 ล้านบาท และนำศพของวัดที่เผาไม่หมดแล้วเอาศพไปโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา

ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่าที่เข้ามารับทำคดีนี้เพราะเห็นว่าพระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดสุทธิวรารามถูกกลั่นแกล้ง เนื่องจากอดีตไวยาวัจกร ยื่นหนังสือร้องเรียนตามหน่วยงานดังกล่าวถึง 3 ครั้ง 3 ครา ครั้งแรกทำหนังสือร้องเรียนว่า พบความไม่โปร่งใสในการเบิกจ่ายเงินของวัด และการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของพระสุธีรัตนบัณฑิต กรณีปล่อยให้พระครูสังฆรักษ์ อนุสร อบอุ่น ดูแลการเงินฌาปนกิจของวัดและส่อไปในทางทุจริต เอาเงินค่าเช่าที่ดินวัดรายปีเข้าบัญชีเบิกจ่ายแต่ผู้เดียว เงินค่าเช่าตึกของวัดซึ่งผู้ร้องเป็นคู่สัญญาผู้ให้เช่ากับผู้เช่า แต่ไม่ได้รับรู้เรื่องเงินว่าได้เท่าไร และเงินไปอยู่ที่ไหน เจ้าอาวาสเอาเงินของวัดไปซื้อที่ดินที่จังหวัดเชียงราย นำศพที่เผาไม่หมดไปโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา และขอให้ตรวจสอบการสร้างเสมาโบสถ์ ราคา 6 ล้านบาท


ต่อมาในวันที่ 10 ก.ค.62 ยังได้ทำหนังสือถึงเจ้าคณะแขวงยานนาวา ขอถอนคำร้อง ระบุว่าไม่พบการทุจริตตามที่ร้องเรียน โดยเชิญสื่อมวลชนหลายสำนักมาแถลงข่าวในวันที่ 9 ม.ค.63 ว่าจะร้องเรียนเรื่องนี้ต่อเป็นครั้งที่ 2 จากนั้นวันที่ 4 ก.พ.63 ได้ทำหนังสือถึงสำนักนายกรัฐมนตรี จากเรื่องที่เคยร้องเรียน 6 เรื่อง ลดเหลือ 3 เรื่อง คือ เจ้าหน้าที่เผาศพไม่หมดแล้วนำศพไปโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ทำบัญชีรายรับรายจ่ายไม่ถูกต้องมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตจนเป็นเหตุให้เงินของวัดสูญหายไป 95 ล้านบาท และนำเงินของวัดไปสร้างรีสอร์ตส่วนตัวที่ จ.เชียงราย

ต่อมา พระธรรมสุธี รักษาการแทนเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ได้ทำหนังสือถึง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อ 12 ธ.ค.63 ว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ไม่ปรากฏความผิดตามที่มีร้อง แต่เพื่อความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ทางคณะสงฆ์จึงตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ถึง 2 ครั้ง ในวันที่ 11 มี.ค.2564 และช่วงปลายปี 2564

หลังจากทราบผลการตรวจสอบของคณะสงฆ์ ทำให้อดีตไวยาวัจกรไม่พอใจโทรตามสื่อมวลชนหลายสำนักให้มาทำข่าวเป็นครั้งที่ 3 เมื่อ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าพระสุธีรัตนบัณฑิต ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ทุจริต ยักยอก เงินของวัด 95 ล้านบาท, นำเงินไปซื้อที่ดิน สปก.ที่ จ.สระบุรี และ จ.เชียงราย มูลค่ากว่า 3.8 ล้านบาท รวมถึงเรื่องการเผาศพไม่หมดแล้วนำไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา


ทนายอนันตชัย ยืนยันพระสุธีรัตนบัณฑิต ไม่เคยมีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหา และมีการทำบัญชีเบิกจ่ายเงินของวัดตามระเบียบคณะสงฆ์ ส่วนกรณีศพเผาไม่หมดแล้วนำไปโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาก็ไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมาทางวัดสุทธิวราราม ดำเนินการตามระเบียบของกรุงเทพมหานครอย่างเคร่งครัด และไม่เคยมีญาติของผู้เสียชีวิตมาร้องในเรื่องนี้ ส่วนที่ดิน สปก. ปัจจุบันใช้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมของวัดสุทธิวราราม ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นทางคณะสงฆ์ได้สอบสวนอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือพระสุธีรัตนบัณฑิต แต่อย่างใด

ทั้งนี้ การกระทำของอดีตไวยาวัจกร เข้าข่ายหมิ่นประมาทพระสุธีรัตนบัณฑิต ทำให้พระสุธีรัตนบัณฑิต ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากประชาชนที่ไม่ทราบความจริง อาจเข้าใจผิดว่า พระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม ซึ่งถือเป็นเจ้าพนักงานนั้น เป็นพระที่ไม่ดี มีเจตนาทุจริต ยักยอกเงินวัด นับเป็นการพยายามกลั่นแกล้ง เพื่อให้พระสุธีรัตนบัณฑิตสึก ส่วนสาเหตุที่ร้องเรียนน่าจะมาจากความไม่พอใจที่อดีตไวยาวัจกรคนดังกล่าว ถูกตัดอำนาจการเบิกถอนเงิน หรือเก็บเงินที่จอดรถ และถูกปลดจากไวยาวัจกร เพราะประพฤติตัวไม่เหมาะสม ชอบด่าพระเณร และเจ้าหน้าที่ภายในวัด อีกทั้งทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล และยิ่งไปกว่านั้น ร้านนวดแผนโบราณภายในวัด ที่ภรรยาของอดีตไวยาวัจกรเป็นเจ้าของถูกสั่งปิด จึงทำให้ไม่พอใจ และผูกใจเจ็บตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

พระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัด เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้นายชาญณรงค์ ทำอาชีพขับรถแท็กซี่ ก่อนที่จะขอเข้ามาขับรถให้ทางวัด จากนั้นนายชาญณรงค์ ก็ขอมาดูแลบัญชีกับทางวัดและเป็นไวยาวัจกร ก่อนจะค่อย ๆ ก่อเหตุดังกล่าว ทำให้ทางวัดต้องปลดออก ก่อนที่จะไปร้องเรียนหลายรอบ ที่ผ่านมาก็ต้องไปชี้แจงต่อคณะสงฆ์ตลอดมา เมื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้วก็ไม่มีมูลความจริง และขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายชาญณรงค์

เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม ยังระบุว่า เหตุการณ์นี้คิดว่าเป็นความแค้นส่วนตัวของนายชาญณรงค์ ที่ไม่พอใจจากการถูกปลดออกจากตำแหน่ง และพยายามไปให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าว และก็คาดว่าจะมีการทำเป็นขบวนการที่ทำให้ทางวัดเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่คิดจะดำเนินคดีกับนายชาญณรงค์ แต่ภายหลังก็ยังพบว่ามีการพยายามใส่ร้ายจนทำให้เกิดความเสียหาย จึงได้มอบอำนาจให้นายนฤเบศ ปั่นแก้ว เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร กับพวก ในข้อหา “ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จโดยรู้อยู่แล้วว่า มิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเพื่อจะกลั่นแกล้งให้ได้รับโทษ หรือรับโทษหนักขึ้น, หมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา”. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับรถขนส่งยาบ้า 10 ล้านเม็ด คนขับงง! ใบรายการระบุสินค้าลำโพงขนาดใหญ่

30 มิ.ย. – จับรถบรรทุก 6 ล้อ ขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกซ่อนในลำโพง คนขับเผยเป็นพนักงานขับรถบริษัทขนส่ง บริษัทส่งรายการให้ไปรับสินค้าที่ อ.เวียงสา จ.น่าน นำไปส่งที่ จ.ลพบุรี ใบรายการระบุสินค้าลำโพงขนาดใหญ่ ด้าน รอง ผบช.ภาค 5 สั่งขยายผลตามหาผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงตรวจสอบผู้ว่าจ้าง ที่ด่านตรวจเอกซเรย์ยาเสพติด ม.4 ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ พ.ต.ท.ทัตเทพ โชติเดโชชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการประจำด่านตรวจ ตรวจค้นรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนมหาสารคาม ขับเข้าด่านตรวจ โดยมีนายคำวัง ชาวมหาสารคาม เป็นคนขับ หลังตรวจเอกซเรย์แล้วพบสิ่งของต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงค้นพบเป็นลำโพงขนาดใหญ่ มีผ้าใบคลุมมิดชิด ปรากฏว่าภายในลำโพงซุกซ่อนกระสอบบรรจุยาบ้าเม็ดสีส้ม มีสัญลักษณ์ wy จำนวน 1,000 ห่อ แต่ละห่อมียาบ้า 10,000 เม็ด รวมยาบ้ามากถึง 10,000,000 เม็ด คนขับรถให้การว่า […]

เพลิงไหม้หอพักพยาบาล รพ.ศิริราช

กทม. 29 มิ.ย. – เพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว ช่วยผู้ติดค้างออกมาได้อย่างปลอดภัย วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 12.30 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่วมไทร เหตุเพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล (แปดไร่) โรงพยาบาลศิริราช ถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ สปภ.กทม. ถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณชั้นใต้ดิน จึงทำการตรวจสอบและอพยพผู้ที่ติดค้างด้านบนลงมา เวลา 12.55 น. พบจุดต้นเพลิงบริเวณชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำทำการดับ มีผู้ติดค้างภายในลิฟต์ชั้นที่ 12 เจ้าหน้าที่และช่างลิฟต์ประจำอาคาร ได้ทำการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย เวลา 13.04 น. เพลิงสงบ .-สำนักข่าวไทย

น้องสาว ผกก.โจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการตายของพี่ชาย

กทม. 29 มิ.ย.-น้องสาวอดีตผู้กำกับโจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการเสียชีวิตของพี่ชาย และเร่งทำคดี เพื่อให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรม หลังผ่านมา 4 เดือน คดียังไม่คืบ ส่วนบรรยากาศงานฌาปนกิจวันนี้ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า เวลา 15.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ นายธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรลักษณ์มหาวิหาร หลังเก็บศพมานานกว่า 4 เดือน บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้าของบุคคลในครอบครัว ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น ตลอดจนอดีตผู้บังคับบัญชาอย่างพลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือ ป.ส. และผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าที่สนิทสนม ได้เดินทางมาร่วมในพิธีฌาปนกิจวันนี้ด้วย ขณะที่ นางสาวศรัญญา อุทธนผล อายุ 34 ปี น้องสาวของผู้กำกับโจ้ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า หลังจากตนพร้อมแฟนสาวของผู้กำกับโจ้ เดินทางยื่นคำร้องขอให้ DSI รับคดีการเสียชีวิตของพี่ชายเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากติดใจสาเหตุการการตายของพี่ชาย จนถึงขณะนี้นาน 4 เดือนแล้ว คดียังไม่คืบหน้า ซึ่งล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม […]

พระกระหน่ำยิงพระร่วมวัดมรณภาพคาห้องน้ำ

ภูเก็ต 29 มิ.ย. – พระกระหน่ำยิงพระร่วมวัดดังภูเก็ตมรณภาพคาห้องน้ำ อ้างถูกรังแกบ่อยครั้ง ฟางเส้นสุดท้าย เปิดมือถือเสียงดังรบกวนในห้องน้ำ เกิดเหตุพระลูกวัดดังใน จ.ภูเก็ต ก่อเหตุกระหน่ำยิงพระในวัด มรณภาพคาห้องน้ำ เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ควบคุมตัวพระจารึก อายุ 47 ปี พระผู้ก่อเหตุกระหน่ำยิงพระนิวัฒน์ อายุ 36 ปี ได้ในที่เกิดเหตุ พร้อมอาวุธปืน ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนขนาด .38 บรรจุอยู่ในลูกโม่ 6 นัด และยังมีกระสุนขนาดปืน.38 ซุกซ่อนอยู่ในกุฏิอีก 14 นัด จากนั้นคุมตัวพระจารึกไปสึก ก่อนนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองภูเก็ต และดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุอ้างว่า พระที่มรณภาพชอบข่มเหงรังแกอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ พระผู้ตายได้เข้าห้องน้ำโดยไม่ได้ล็อกกลอนประตู และเปิดมือถือเสียงดังรบกวน จึงเดินถือปืนไปเปิดประตูห้องน้ำพร้อมกระหน่ำยิงพระผู้ตายจนมรณภาพคาห้องน้ำ ก่อนจะบรรจุกระสุนใหม่อีก 6 นัด แล้วนำปืนไปซ่อนในกุฏิของตนเอง จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในเวลาต่อมา .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ รับควบ รมว.วัฒนธรรม กังวลปมศาล รธน.

ทำเนียบ 30 มิ.ย.-นายกฯ รับควบ รมว.วัฒนธรรม อยากผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ บอกกังวลปมศาล รธน. จะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ชี้ไม่อยากให้งานสะดุด ลั่นพร้อมรับฟังโพลทุกสำนัก มองผลโพลดีเป็นกำลังใจ ส่วนผลลบต้องพัฒนาตัวเอง ย้ำม็อบชุมนุมมีสิทธิ์แสดงออก ขอเน้นเรื่องการทำงาน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่าในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้ นายกฯ จะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมด้วยใช่หรือไม่ ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ และที่จะต้องดูกระทรวงวัฒนธรรมด้วยเนื่องจากต้องดูเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ไม่ว่ากระทรวงวัฒนธรรมจะเป็นเกรดบี หรือเกรดซี แต่เป็นกระทรวงที่สำคัญ เพราะเป็นกระทรวงที่สามารถแนะนำวัฒนธรรมของไทยได้ และส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ของไทยได้จริงๆ เมื่อถามว่าสาเหตุที่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นเพราะส่วนหนึ่งมาจากความกังวลต่อคำร้องที่ขอให้ศาลวินิจฉัยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรีนิ่งคิด ก่อนบอกว่า “ไม่เกี่ยวนะคะ” แต่เป็นเรื่องที่จะต้องเน้นซอฟต์พาวเวอร์ไปด้วย ทำให้ต้องควบวัฒนธรรมด้วย ส่วนต้องการเน้นอะไรในกระทรวงวัฒนธรรม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องไปดูในกระบวนการต่างๆ ว่ามีอะไรที่สามารถผลักดันเพิ่มเติมได้หรือไม่ เพราะวัฒนธรรมของไทยมีความเข้มข้นและน่าผลักดันอีกเยอะ ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งไปด้วยกันได้ เมื่อถามถึง กระทรวงกลาโหม ที่มีรายงานว่า จะมีการเว้นว่างตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไว้ก่อน นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้รอดู ขณะนี้ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการขอให้จบขั้นตอนทุกอย่าง ก็จะเห็นรายชื่อออกมา […]

ลุยตรวจวัดตรีทศเทพฯ หลังอดีตเจ้าอาวาสลาสึกปริศนา

30 มิ.ย. – ป.ป.ท.-ปปป.-ป.ป.ช. เข้าพบรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพฯ เพื่อร่วมตรวจสอบทรัพย์สินของวัด หลัง “เจ้าคุณอาชว์” ลาสึกปริศนาที่ จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ท. บก.ปปป. และ ป.ป.ช. เดินทางเข้าพบรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพฯ เขตพระนคร กทม. เพื่อร่วมตรวจสอบทรัพย์สินต่าง ๆ ของทางวัด ภายหลังจากพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขา (สึก) แล้ว ที่ จ.หนองคาย ซึ่งการลาสิกขาดังกล่าวยังเป็นปริศนาว่ามีที่มาเป็นอย่างไร โดยก่อนหน้ามีรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ติดต่อขอเข้ารับทราบข้อเท็จจริง ภายหลังมีการร้องเรียนเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องทุจริตเงินของวัดฯ แต่เจ้าคุณอาชว์ ปฏิเสธการเข้าพบ ก่อนที่จะหลบไปทำพิธีลาสิกขาดังกล่าว ทั้งนี้ มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) มีคำสั่งเจ้าคณะภาค […]

นายกฯ เผยผลสอบตึก สตง.ถล่ม ออกแบบ-ก่อสร้างผิด กม.

ทำเนียบ 30 มิ.ย.- นายกฯ เผยผลสอบตึก สตง.ถล่ม ครบ 90 วัน เกิดจากการออกแบบและวิธีการก่อสร้าง ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผนังช่องลิฟต์-บันไดไม่ได้มาตรฐาน เตรียมส่งข้อมูลให้ ดีเอสไอ-ตำรวจ ชี้คนผิด ยันเรื่องนี้ต้องไม่เงียบ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีอาคารที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม เข้าร่วมประชุมด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเปิดประชุมว่า วันนี้ (30 มิ.ย.) ก็ครบ 90 วัน หรือ 3 เดือนพอดีหลังเกิดเหตุการณ์ จากนั้น นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมว่า การแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม […]

ครอบครัวเหยื่อเก๋งแดง เศร้ารับศพไปบำเพ็ญกุศล

กรุงเทพฯ 30 มิ.ย. – ครอบครัวเศร้ารับศพสาวเหยื่อเก๋งแดง ซิ่งชน จยย.รับจ้าง แล้วหนี ส่วนคนขี่ จยย.รับจ้าง บาดเจ็บสาหัส อาการยังโคม่า ไม่รู้สึกตัว ภาพกล้องวงจรปิดบริเวณปากซอยเพชรเกษม 19 จะเห็นรถจักรยานยนต์ขี่มาในเลนซ้ายตามปกติ ก่อนรถเก๋งสีแดงคาดดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ที่ขับตามหลังมาในเลนเดียวกันจะพุ่งมาด้วยความเร็ว ชนรถจักรยานยนต์อย่างแรง จนร่างนายดุลยวัต อายุ 27 ปี คนขี่จักรยานยนต์ และนางสาวจิตติมา อายุ 30 ปี คนซ้อนท้าย ลอยไปไกลหลายเมตร อาการสาหัส ขณะที่นางสาวจิตติมาเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนรถเก๋งแดงกลับขับรถหลบหนีโดยไม่ลงมาดู ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามหารถคันนี้พบว่าหลบหนีมาจอดทิ้งไว้ที่คอนโดฯ ย่านถนนเพชรเกษม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก พบแต่รถยนต์ แต่ไม่พบผู้ก่อเหตุ ซึ่งตำรวจไปพบจอดอยู่ในคอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านเพชรเกษม คาดว่าน่าจะอยู่ในคอนโดฯ นี้ จึงเจรจากับนิติบุคคลคอนโดฯ นำรถมาที่สถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ และตามเจ้าของรถมาดำเนินคดีตามกฎหมาย นางสาวไพริน อายุ 41 ปี แฟนของผู้บาดเจ็บ เล่าทั้งน้ำตาว่า สามีมีอาขีพขี่ จยย.รับจ้างและโบลท์ […]