fbpx

3 สาวร้องกองปราบฯ ตกเป็นเมียน้อยไม่รู้ตัว

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – “ทนายรัชพล” พา 3 หญิงสาวตกเป็นเมียน้อย ชายวัย 61 ปี โดยไม่รู้ตัว ลงบันทึกประจำวันกองปราบฯ ไว้เป็นหลักฐาน หลังฝ่ายชายระบุเมียหลวงเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากที่เป็นเมียน้อย


ทนายรัชพล ศิริสาคร พาหญิงสาว 3 ราย เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อลงบันทึกประจำวัน แสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีเจตนาเป็นเมียน้อยผู้ใด หลังถูกชายวัย 61 ปี หลอกว่า ได้หย่าร้างกับภรรยาเก่านานกว่า 8 ปี ปัจจุบันสถานะโสด ไร้ลูกเมีย จนมีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อ ปัจจุบันทราบตัวแล้ว 13 ราย

ทนายรัชพล กล่าวว่า ได้นำหญิงสาวมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังพบว่าทางผู้ชายวัย 61 ปี มีภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย และยังไม่ได้หย่าร้างตามที่อ้างกับหญิงสาว อีกทั้งมีข้อมูลว่า ฝ่ายภรรยาหลวง เตรียมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากกลุ่มภรรยาน้อย สำหรับกรณีนี้ พบชายวัย 61 ปี ได้หลอกหญิงสาวให้อยู่ในสภาพอนุภรรยาโดยไม่รู้ตัว รวมล่าสุด 13 ราย โดยรายสุดท้าย เพิ่งติดต่อมาหาเมื่อเช้าที่ผ่านมา ซึ่งรู้ตัวว่าถูกหลอกให้เป็นเมียน้อย หลังมีข่าวทางสื่อมวลชน โดยการลงบันทึกประจำวันครั้งนี้ เพื่อต้องการป้องกันปัญหาในอนาคต หากเกิดการฟ้องในชั้นศาล จะได้นำบันทึกดังกล่าวไปเป็นหลักฐานว่าทั้งหมดตกเป็นเหยื่อ โดยไม่มีเจตนา ส่วนการดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าว ยอมรับเป็นเรื่องยาก


ด้าน นางสาวเอ หนึ่งในผู้เสียหาย ระบุส่วนตัวคุยกับชายคนดังกล่าวมานานกว่า 1 ปี โดยมีสถานะเพียงแฟน ยังไม่มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งฝ่ายชายบอกว่า ได้หย่าร้างกับภรรยามานานกว่า 8 ปี และต้องการแต่งงานกับตัวเอง พร้อมไปใช้ชีวิตที่ภาคใต้ และมีความพยายามนัดเจอเพื่อออกมารับประทานอาหารร่วมกัน แต่ตัวเองยังไม่ปักใจเชื่อ จึงปฏิเสธที่จะไปตามนัดหมาย อย่างไรก็ตาม ตัวเองกับชายคนดังกล่าว รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก ยอมรับที่รู้ตัวว่ากำลังถูกหลอก เพราะอดีตภรรยาน้อย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย โทรศัพท์มาบอกว่า ชายคนดังกล่าวมีครอบครัวแล้ว

ด้านนางสาวบี อดีตภรรยาน้อย ระบุส่วนตัวได้เลิกกับชายคนดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2564 หลังอยู่กินมาร่วม 2 ปี โดยไม่รู้ตัวว่า ถูกหลอก ซึ่งระหว่างที่คบหากัน ไม่พบพิรุธใดที่บ่งบอกว่า ฝ่ายชายมีครอบครัวแล้ว ซึ่งฝ่ายชายอยู่กินกับตัวเองปกติ สังคมรอบข้างรับรู้ ยอมรับเริ่มสงสัยในชายคนดังกล่าว หลังพบภาพอดีตสามีไปเที่ยวกับครอบครัวและญาติในเฟซบุ๊ก ตัวเองตัดสินใจโทรศัพท์ไปหา แต่ฝ่ายชายไม่รับสาย จึงส่งข้อความทางเฟซบุ๊กไปหา พร้อมสืบค้นข้อมูลต่าง ๆ เพื่อหาข้อเท็จจริง จนพบภาพภรรยาและลูกของฝ่ายชาย ตัวเองจึงตัดสินใจตัดความสัมพันธ์ทันที กระทั่งพบพฤติกรรมว่า ฝ่ายชายได้เข้ากดไลก์นางสาวเอบ่อยครั้ง รวมถึงมีการแสดงความเห็นเชิงจีบฝ่ายหญิง ตัวเองจึงโทรศัพท์ไปหาฝ่ายหญิง เพื่อบอกเรื่องราวทั้งหมด

ขณะที่นางสาวซี อีกหนึ่งผู้เสียหาย ยืนยันเพิ่งคบชายคนดังกล่าวมา 8 เดือน ซึ่งตลอดเวลาที่คบหากัน ฝ่ายชายไม่มีพฤติกรรมบ่งบอกว่า มีครอบครัวแล้ว ส่วนตัวเพิ่งมาทราบจากข่าวว่า ตัวเองตกเป็นเหยื่อของผู้ชายคนนี้ จึงโทรศัพท์หา นางสาวเอ เพื่อรวมตัวกันมาลงบันทึกประจำวัน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่พวกตัวเองทั้ง 3 คน ไปออกรายการดัง ชายคนดังกล่าว ยังอ้อนวอนขอให้ตัวเองยืนเคียงข้าง โดยอ้างจะไปหย่ากับภรรยา และอยู่กินอย่างเปิดเผย แต่ตัวเองปฏิเสธ พร้อมระบุไม่เชื่อ. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

ยังระดมฉีดน้ำ-โฟม สกัดเพลิงไหม้โกดังสารเคมี

เหตุเพลิงลุกไหม้โกดังเก็บสารเคมี ที่จังหวัดระยอง ผ่านมากว่า 30 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้เพลิงสงบ ขณะที่ล่าสุด จ.ระยอง ประกาศให้พื้นที่ 2 ตำบล เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว

ร้อนทะลุ 42 องศาฯ จนท.ดับไฟป่า ฮีทสโตรก 3 ราย

อากาศร้อนทะลุ 42 องศาฯ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เข้าดับไฟป่า เกิดฮีทสโตรก หัวใจหยุดเต้น 3 ราย ต้องทำ CPR ก่อนหามลงเขาสูงชันกว่า 4 กม. ขึ้นรถส่งโรงพยาบาล