กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบ.ตร.ยอมรับยังไม่ได้ข้อสรุปบังคับใช้กฎหมายแม่บทควบคุมกัญชา อยู่ระหว่างใช้กฎหมายอื่นบังคับร่วม ขณะที่ฝ่ายกฎหมาย กองบัญชาการตำรวจนครบาล ชี้การสูบกัญชาในสถานบันเทิง ช่วงที่เปิดให้บริการ ถือว่าเป็นความผิด
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมกับตำรวจนครบาล ตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ และวิดีโอคอนเฟอร์เรนต์ไปยังสถานีตำรวจ 88 แห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างความเข้าใจถึงการบังคับใช้กฎหมาย หลังปลดล็อกกัญชากัญชงออกจากบัญชียาเสพติด รวมถึง สถานการณ์การชุมนุม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการ Smart Safety Zone
พล.ต.อ.สุวัฒน์ ระบุว่าแม้จะมีการปลดล็อกกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติด แต่ยังสามารถใช้กฎหมายอื่น ควบคุม กำกับดูแลได้ เช่น หากมีการสูบในที่สาธารณะก่อความเดือดร้อนรำคาญ ก็จะเข้าข่ายความผิดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฯ หรือหากมีการตั้งแผงค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็จะผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด หรือกรณียุยงส่งเสริมให้เกิดอันตราย อาจเข้าข่ายความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็ก ส่วนการแปรรูปกัญชาจะต้องขออนุญาตหรือไม่นั้น ยังไม่ได้ข้อยุติ ต้องรอความชัดเจนข้อกฎหมายก่อน เช่นเดียวกับการจัดโซนนิ่งพื้นที่ขายกัญชา ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ
ด้าน พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า หลังจากนี้หากมีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับพืชกัญชา ตำรวจจะเข้าไปเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ หากพบมียาเสพติดชนิดอื่นผสม ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายยาเสพติด ซึ่งขณะนี้มีการเก็บตัวอย่างไปแล้ว 8-9 ร้าน
ขณะที่ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบด้านการสอบสวน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันผู้ที่จะจำหน่ายพืชกัญชาจะต้องขออนุญาตปลัดกระทรวงสาธารณสุขตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท ส่วนจำหน่ายกัญชา หรือสูบกัญชาในที่สาธารณะไม่สามารถทำได้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งการสูบกัญชาในผับ บาร์ สถานบันเทิง ที่อยู่ระหว่างเปิดให้บริการ ก็ถือเป็นพื้นที่สาธารณะ ไม่สามารถทำได้เช่นกัน โดยผู้ประกอบการอาจเข้าข่ายความผิดฐานทำให้เสื่อมเสีย หรือเกิดอันตรายต่อสุขภาพ พนักงานท้องถิ่นมีอำนาจประสานเจ้าหน้าที่ออกคำสั่งบังคับยับยั้ง ห้ามใช้สถานที่ ปิดสถานที่ จนกว่าจะมีการแก้ไข และถ้าตำรวจตรวจพบสามารถดำเนินคดี และส่งเรื่องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขได้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นับตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน ตำรวจไม่มีการจับกุมคดีกัญชา ส่วนของกลางกัญชาที่ตรวจยึดก่อนหน้านี้ จะมีการทำลายตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย