กทม. 4 เม.ย.- ทนายษิทรา ชี้แจงปมเผยแพร่คลิปเสียง “เสกสกล” เพื่อต้องการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงิน 15 ล้าน ที่นำไปใช้ในการเลือกตั้ง รวมถึงการจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ยืนยัน มีการตัดต่อหรือไม่
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้ชี้แจงถึงกรณีคลิปเสียงที่อ้างว่า เป็นการสนทนาระหว่าง นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กับ นางจุรีพร สินธุไพร สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และข้าราชการการเมืองประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในลักษณะมีการเสนอให้เอื้อประโยชน์ขอโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยเปิดเผยว่า คลิปเสียงดังกล่าว ได้มาจากเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มไลน์ของตำรวจ ที่มีความน่าเชื่อถือ และก่อนจะเผยแพร่ได้มีการพูดคุยกับนายเสกสกลแล้ว โดยได้รับคำตอบว่า คลิปเสียงดังกล่าวได้มาไม่ครบ แต่นายเสกสกล ยืนยันว่าเป็นเสียงของตนเองจริง แต่เป็นการพูดคุยหยอกล้อกันเท่านั้น ส่วนคลิปดังกล่าว จะมีการตัดต่อหรือไม่ ส่วนตัวไม่ยืนยัน
สาเหตุที่นำมาเผยแพร่เพราะต้องการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงิน 15 ล้าน ที่นำไปใช้ในการเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับกฎหมายของ ป.ป.ช. หรือไม่ อีกทั้งในคลิปเสียงยังมีพาดพิงไปถึงการจับกุมบริษัทที่ซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ หลายแห่ง ซึ่งรวมไปถึง การจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล ส่วนประเด็นเงินจำนวน 15 ล้านบาท ที่มีการพาดพิงว่า มีการขอยืมเงินไปใช้ในการเลือกตั้ง นายษิทรา อ้างว่าเป็นของคนชื่อ น๊อต ผู้บริหารกองสลากพลัส เพราะก่อนหน้านี้นายเสกสกล รู้จักกับน็อตมาก่อน
นายษิทรา ระบุว่าในวงการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล มีโควตาการจัดสรรที่ไม่เป็นธรรม มีเจ้าพ่อเจ้าแม่ ที่ดูแลโควตาหวย และยืนยันว่าการออกมาเผยแพร่ข้อมูลนี้ ไม่กังวลว่าจะถูกฟ้อง แต่ทำเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ค้าสลากฯ รายย่อย และยังบอกว่ามีคนโทรศัพท์มาขอให้ลบคลิปเสียงดังกล่าวออกจากเพจ และได้ยืนยันว่าไม่สามารถลบคลิปดังกล่าวได้ เพาาะจะทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมกับยอมรับว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทะเลาะกับนักการเมืองระดับชาติ ที่ผ่านมามีเพียงทะเลาะกับตำรวจเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ยังปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่า นอกเหนือไปจากเงิน 15 ล้านที่ยืมมาจากกองสลากพลัส นายเสกสกล จะมีการยืมเงินจากผู้ค้าสลากออนไลน์เจ้าอื่น อีกหรือไม่ ส่วนประเด็นที่ นายเสกสกล จะดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่นั้น นายษิทรา ยืนยันว่า คงไม่สามารถดำเนินคดีกับเพื่อนของตัวเอง ที่ส่งต่อข้อมูลนี้ได้ เพราะก่อนหน้านี้นางจุรีพร อ้างว่าลูกน้องตัวเองแอบอัดเสียง ส่วนในกรณีนี้คงไม่ส่งต่อให้กับหน่วยงานอื่นแต่เชื่อว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปต่อยอดขยายผลได้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นายเสกสกล และนางจุรีพร พร้อมทนายความ ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจนครบาลดุสิต เพื่อให้ดำเนินคดีกับ “นายกิ๊ก” บุคคลที่แอบบันทึกการสนทนา ซึ่ง นายเสกสกล ระบุว่า มีการพูดคุยกันในเรื่องโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล จริง แต่เป็นไปในลักษณะหยอกล้อจากความสนิทสนิมกัน และได้ยืนยันไปแล้วว่า ทุกคนต้องเข้าสู่ระบบที่รัฐจัดไว้ให้เหมือนกันไม่มียกเว้น
สำหรับคดีตำรวจร่วมกันอุ้มรีดรับเงินผู้เสียหายที่เล่นพนันออนไลน์ ขณะนี้ ยังไม่สามารถติดต่อกับผู้เสียหายได้โดยตรง แต่มีการพูดคุยกับแม่และพี่สาวของผู้เสียหาย และประสานข้อมูลตลอด เชื่อว่า ผู้เสียหายคนนี้กังวลในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งได้มีการหารือกับตำรวจแล้วว่าจะช่วยเหลือในเรื่องของความปลอดภัยของผู้เสียหาย และได้ประสานกับครอบครัวของผู้เสียหายว่าจำเป็นต้องเข้าให้การเพิ่มเติม ชี้ตัวผู้ก่อเหตุ เพื่อให้คดีนี้ดำเนินต่อไปได้
ส่วนคดีนี้เชื่อว่า ตำรวจที่ชื่อ พันตำรวจตรี คม รอดเภา สารวัตร (สอบสวน) กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 เป็นตัวการสำคัญใหญ่ที่สุดในขบวนการนี้
นายษิทรา ยังระบุว่า ตำรวจน่าจะรู้ข้อมูลบัญชีคนที่เล่นพนันออนไลน์ ส่วนตัวเชื่อว่า พันตำรวจตรีคม น่าจะทำงานให้กับเจ้าของเว็บไซต์พนัน และอาจเป็นไปได้ว่า อาจจะรับจ้างไปทวงเงินให้ด้วย หรือไม่อย่างไร แต่ในส่วนของผู้เสียหายนั้นยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจการพนัน หรือ ธุรกิจสีเทา แต่เป็นนักเล่นการพนันตัวยงที่สามารถหารายได้จากการเล่นพนันออนไลน์เป็นเงินจำนวนมากเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย