ทวงความคืบหน้า ถูกอดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย หลอกร่วมลงทุน สูญกว่า 1.4 ล้าน

อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย หลอกร่วมลงทุน

กทม. 8 ม.ค. – นักธุรกิจชาวเกาหลี และภรรยาชาวไทย ถูกอดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ ​พรรคเพื่อไทย หลอกลวงร่วมลงทุนธุรกิจแก๊สหุงต้ม ใน สปป ลาว สูญเงินกว่า 1.4 ล้านบาท ร้องสื่อช่วยติดตามคดี หลังพบข้อมูล​อดีต ส.ส.คนดังกล่าวมีคดีฉ้อโกงติดตัวถึง 2 คดี


เมื่อเวลา 13.00 น. ว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์​ บำรุง​วงศ์ ทนายความ​กลุ่มทนายใจดี พร้อมด้วย น.ส.จุฑาวรรณ โช อายุ 28 ปี และนายเคยัน โช อายุ 35 ปี 2 สามีภรรยา เดินทางมา สน.สายไหม เพื่อติดตามคดี และนำหลักฐานมอบให้กับพนักงานสอบสวน หลังถูกนายพิสิฐ หรือ วิทยากร ทองเสน อายุ 60 ปี อดีต ส.จ.กาฬสินธุ์ และ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย หลอกให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจแก๊สหุงต้ม และร้านของชำ ที่ สปป ลาว มูลค่าความเสียหาย 1,450,000 บาท

นายชัชวาลย์​ ทนายความ เผยว่าคดีเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 63 เข้าแจ้งความครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2564 คดีนี้ล่วงเลยมาเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ประกอบกับพนักงานสอบสวนอ้างว่าได้ออกหมายเรียกนายวิทยากร แต่ยังไม่มีการตอบรับ ซึ่งทีมทนายได้ตรวจสอบประวัติของนายวิทยากร พบเคยมีคดีติดตัวมาแล้ว 2 คดี คือ เมื่อปี 2558 มีโทษจำคุก ความผิดตามพระราชบัญญัติการค้าข้าวและฉ้อโกง และปี 2563 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” หลอกสั่งซื้อไวน์ในสตอกมีผู้เสียหายมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 คดี เป็นคดีฉ้อโกงทั้งสิ้น ตนจึงเกรงว่า นายวิทยากรที่อ้างว่ายังคงทำงานให้กับพรรคเพื่อไทย มีผู้หลักผู้ใหญ่สนับสนุนให้การช่วยเหลือเยอะ เกรงว่าผู้เสียหายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และเชื่อยังมีเหยื่ออีกหลายคน


และในฐานะทนายความ เมื่อผู้เสียหายเกิดความไม่ไว้วางใจ และเคลือบแคลงสงสัยในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ตนจึงได้ทำหนังสือถึง ผกก. สน.สายไหม ขอทราบความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่าขณะนี้มีการออกหมายเรียกนายวิทยากร จริงหรือไม่ พร้อมทั้งขอให้ดำเนินการตรวจสอบกรมการค้าภายใน เรื่องการจดทะเบียนบริษัทประกอบธุรกิจแก๊สหุงต้มที่ต่างประเทศ ตามที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นประธานบริษัทจริงหรือไม่ ซึ่งจะให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานในการตรวจสอบเป็นเวลา 7 วัน หากยังไม่มีความคืบหน้า ผู้เสียหายจะเดินทางไปร้องเรียนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อติดตามคดีอีกครั้งหนึ่ง พฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหามีคดีติดตัวมาแล้วถึง 2 คดี ประกอบกับคดีนี้เข้าข่ายความผิดถึง 2 ข้อหา คือ คดีฉ้อโกง และกู้ยืมเงิน ซึ่งมีโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 3 ปี ซึ่งทางตำรวจสามารถออกหมายจับได้ทันที ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียก

ด้าน น.ส.จุฑาวรรณ ผู้เสียหาย ได้ขอให้สื่อมวลชนช่วยติดตามความคืบหน้าในคดีดังกล่าวให้ด้วย หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะผู้ถูกกล่าวหามักอ้างเสมอว่ายังคงทำงานให้พรรคเพื่อไทย มีผู้หลักผู้ใหญ่ให้ความเมตตาคอยช่วยเหลือตลอด ไม่หวั่นหากต้องถูกดำเนินคดี แล้วอยากให้สื่อตรวจสอบไปยังพรรคเพื่อไทยว่าผู้ถูกกล่าวหายังคงเป็นสมาชิกพรรค และทำงานให้กับพรรคเพื่อไทยจริงหรือไม่. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ