กทม.23 มี.ค.- โฆษก บช.สอท. แจงการเอาผิด ผู้อยู่เบื้องหลัง “การระรานทางไซเบอร์” ทั้งการใช้เเพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย หรือสื่อออนไลน์
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. และ โฆษก บช.สอท. ชี้แจงกรณีดำเนินคดีผู้อยู่เบื้องหลัง “การระรานทางไซเบอร์(Cyberbullying)” ประกอบด้วยการใช้เเพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย หรือสื่อออนไลน์ ในปัจจุบันทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคนไปแล้ว ซึ่งหากใช้อย่างถูกต้องก็จะก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย ในทางกลับกันหากใช้ในทางไม่ถูกต้องก็จะก่อให้เกิดผลร้ายตามมามากเช่นกัน อย่างการระรานทางไซเบอร์ หรือ Cyberbullying หมายถึง การกลั่นแกล้ง การให้ร้าย การด่าว่า การข่มเหง หรือการรังแกผู้อื่นทางสื่อสังคมต่างๆ เช่น Facebook, Twitter เป็นต้น
การระรานทางไซเบอร์(Cyberbullying) นอกจากจะส่งผลร้ายในด้านของจิตใจและอาจส่งผลต่อร่างกายของผู้ที่ถูกกระทำแล้ว ผู้ที่กระทำความผิดก็อาจจะถูกดำเนินคดีในหลายข้อหาเช่น ความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา, ความผิดฐานนำเข้าข้อมูลที่บิดเบือนหรือเป็นเท็จ ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ ในส่วนของผู้ที่ชักชวนให้ผู้อื่นมาร่วมกระทำความผิดอาจจะมีความผิดฐานโฆษณาหรือประกาศให้บุคคลทั่วไปกระทำความผิด หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในฐานความผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อส่วนตัว หากต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ผู้เสียหายจะต้องมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป โดยที่ผ่านมาทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดในลักษณะเช่นนี้มาแล้วหลายราย
สำหรับกรณีที่ปรากฎบนสื่อสังคมออนไลน์ว่าบุตรสาวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ถูก Cyberbullying หลายรูปแบบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดอย่างถึงที่สุดต่อไป ซึ่งเป็นขั้นตอนตามปกติทางกฎหมายเช่นเดียวกับการดำเนินการในคดีอื่นๆ
รองโฆษก ตร. และโฆษก บช.สอท. ยังฝากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนทุกคนให้ใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างมีสติ หากพบเห็นการ Cyberbullying ก็อย่าแชร์ต่อ อย่าคอมเมนต์ อย่าไปยุ่งเกี่ยวไม่ว่าจะทางใด เพื่อให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันปัญหาและทำให้สังคมออนไลน์เป็นสังคมที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย