รอง ผบช.น.ติดตามคดีผู้ชุมนุมบุกทำลายทรัพย์สิน สน.ดินแดง

กรุงเทพฯ 1 มี.ค. – รอง ผบช.น. ติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้ชุมนุมบุกทำลายทรัพย์สินราชการ สน.ดินแดง ได้รับความเสียหาย


เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ (1 มี.ค.) ที่ สน.ดินแดง พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อม พ.ต.อ.พงศ์จักร จักษุรักษ์ รอง ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.รัฐชัย ศรีวิชัย ผกก.สน.ดินแดง ประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้ชุมนุมที่เข้ามาทุบทำลายทรัพย์สินราชการ อาคาร สน.ดินแดง จนได้รับความเสียหาย ในคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ได้มาติดตามผลการตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น 3 ส่วน คือ 1. การจับกุมผู้ชุมนุมหน้ากรมทหารราบที่ 1 หลายสิบราย และ 2. การทำลายทรัพย์สินที่ สน.ดินแดง พบว่ามีรถกระบะ รถจักรยานยนต์ของราชการ รวมถึงตัวอาคารที่ได้รับความเสียหาย โดยรถยนต์ถูกเผาจนใช้การไม่ได้ และยังมีทรัพย์สินเอกชนและประชาชนโดยรอบได้รับความเสียหาย ก็จะต้องตามตัวเจ้าของมาแจ้งความร้องทุกข์ พร้อมประเมินค่าความเสียหาย โดยกำลังตรวจสอบผู้กระทำผิด ซึ่งเข้าข่ายความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์ซึ่งสาธารณประโยชน์ และ 3. เรื่องการทำร้ายร่างกายสารวัตรสืบสวน สน.ดินแดง ที่สืบสวนหาข่าวใน ถ.วิภาวดีฯ ต้องแยกอีกสำนวน กำลังตรวจสอบหาผู้กระทำผิด ซึ่งพบว่ามีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ 8-10 คน มีคนทำร้าย 2-3 คน ที่เข้าไปผลักจนล้มและรุมทำร้าย ต้องดูว่าทั้งหมดเกี่ยวข้องกันหรือไม่


พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานที่พบ เชื่อว่าผู้ที่เข้ามาทำลายทรัพย์สินของ สน.ดินแดง เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาจาก ถ.วิภาวดีฯ ทั้งนี้ ขอเตือนว่า การชักชวนโฆษณาและผู้ชุมนุมล้วนมีความผิดทั้งหมด เพราะมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ กทม.เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด นอกจากนี้ยังมีชาวเมียนมาหลายคนที่ขึ้นรถขยายเสียงมาร่วมชุมนุมด้วย กำลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและจะดำเนินคดีด้วย หากในอนาคตจะมาชุมนุมร่วมกับชาวไทย ต้องยอมรับสภาพการถูกดำเนินคดี

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า กรณีตำรวจเข้าควบคุมตัวนักข่าวสำนักหนึ่ง เนื่องจากขณะนั้นตำรวจไม่สามารถแยกแยะจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้ หากไม่มีการแสดงตัวหรือเครื่องหมายสัญลักษณ์สื่อมวลชนที่ชัดเจน หากพิสูจน์ตัวบุคคล มีหลักฐานระบุตัวตนว่าเป็นสื่อมวลชน พนักงานสอบสวนจะสั่งไม่ฟ้อง หากไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นสื่อจริง ก็ต้องทำตามกระบวนการ ไม่ใช่เฉพาะผู้สื่อข่าว แต่ยังรวมถึงประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าไปร่วมชุมนุม

ส่วนกรณีมีนักข่าวถูกกระสุนยางยิงใส่นั้น ตำรวจไม่สามารถแยกแยะได้ว่าใครคือสื่อมวลชน ม็อบ หรือกลุ่มแพทย์อาสา จึงขอความร่วมมือสื่อที่เข้าติดตามเหตุการณ์ ให้ลงทะเบียนเพื่อรับปลอกแขนสื่อมวลชน ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ตำรวจนครบาล ซึ่งสัญลักษณ์ปลอกแขนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอบรมจะสามารถแยกแยะได้ว่าใครเป็นใคร หากคนกลุ่มนี้ถูกลูกหลง ก็จะได้รับการเยียวยา. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.เพื่อไทย

“อนุสรณ์” ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.พรรคเพื่อไทย เชื่อมนต์ขลัง “ทักษิณ”-ผลงานรัฐบาลแพทองธาร เป็นปัจจัยความสำเร็จ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม