การพุ่งเฉียดโลกของดาว Apophis ในปี 2029

29 เมษายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


หนึ่งในดาวเคราะห์น้อยที่เคยได้รับการคาดหมายว่ามีโอกาสจะพุ่งชนโลกมากที่สุดได้แก่ Apophis ดาวเคราะห์น้อยที่นักดาราศาสตร์เคยเชื่อว่าจะพุ่งชนโลกในปี 2029 ทำสถิติเป็นดาวเคราะห์น้อยที่มีความเสี่ยงพุ่งชนโลกตามมาตรวัดความเสี่ยงของ Torino scale สูงที่สุดในระดับที่ 4

Apophis ถูกค้นพบในปี 2004 ตั้งชื่อในภาษากรีกตามเทพเจ้าแห่งความชั่วร้ายและความตายของอียิปต์ (Apep)


Apophis เป็นดาวเคราะห์น้อยชนิด S-type (โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นซิลิกาหรือหิน) มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 340 เมตร ความยาวสูงสุดประมาณ 450 เมตร มีรูปร่างคล้ายถั่วลิสง ความสูงเทียบเท่าตึกเอ็มไพร์สเตตในนิวยอร์ก

Apophis อยู่ในกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Aten เดินทางด้วยความเร็ว 107,928 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 29.98 กิโลเมตรต่อวินาที

การค้นพบดาวเคราะห์น้อย Apophis นับเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความแปลกใจให้กับวงการดาราศาสตร์โลก เพราะโอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่เช่นนี้จะโคจรมาใกล้โลกมีเพียง 1 ครั้งในรอบ 800 ปี และโอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่เช่นนี้จะพุ่งชนโลกมีเพียง 1 ครั้งในรอบ 80,000 ปี


หากเกิดการพุ่งชนบนโลก พลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจะเทียบเท่าแรงระเบิด TNT ปริมาณ 1,200 ล้านตัน หรือจำนวนระเบิดนิวเคลียร์ที่ทิ้งลงไปในเมืองฮิโรชิมะและเมืองนางาซากิรวมกันกว่าสามหมื่นลูก

เว็บไซต์ Space.com หากเกิดการพุ่งชนในเมืองใหญ่ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีหลายล้านคน

Apophis เคยมีความเสี่ยงชนโลกสูงสุด

Apophis เคยเป็นดาวเคราะห์น้อยที่ทำสถิติมีความเสี่ยงพุ่งชนโลกสูงสุด หลังเคยได้รับการจัดอันดับตามมาตรวัดความเสี่ยง Torino scale สูงที่สุดในระดับ 4 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2004 หลังพบว่าดาวเคราะห์น้อย Apophis มีความเสี่ยงจะพุ่งชนโลกในวันที่ 13 เมษายน 2029

แต่ภายหลังมีการปรับความเสี่ยงลดลง หลังมีการยืนยันว่า ดาวเคราะห์น้อย Apophis จะแค่เดินทางเฉียดโลกในวันที่ 13 เมษายน 2029 เท่านั้น และไม่มีโอกาสชนโลกในวันดังกล่าวแต่อย่างใด

ปัจจัยเปลี่ยนวงโคจรจาก Yarkovsky Effect และ Gravitational Keyhole

Yarkovsky Effect คือแรงที่เกิดกับเทหวัตถุที่หมุนรอบตัวเอง เมื่อพื้นผิวได้รับพลังงานแสงจากดาวฤกษ์ทำให้เกิดการแผ่รังสี ส่งผลให้การเคลื่อนที่ของเทหวัตถุเปลี่ยนไป หากปรากฏการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงวงโคจรของเทหวัตถุนั้น ๆ แต่จะเกิดกับเทหวัตถุขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 กิโลเมตรลงไปเท่านั้น

Gravitational Keyhole คือพื้นที่ในอวกาศที่แรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์จะดึงดูดดาวเคราะห์น้อยที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้วงโคจรเปลี่ยนแปลงและเพิ่มโอกาสการพุ่งชนดาวเคราะห์ในอนาคต

เคยมีความเชื่อว่า การพุ่งเฉียดโลกในปี 2029 ของดาวเคราะห์น้อย Apophis ทำให้ Apophis มีโอกาสหลุดเข้า Gravitational Keyhole ของโลก และพุ่งชนโลกในวันที่ 13 เมษายน 2036

หรือแบบจำลองที่เชื่อว่า Yarkovsky Effect จะทำให้ดาวเคราะห์น้อย Apophis หลุดเข้า Gravitational Keyhole ของโลกระหว่างการพุ่งเฉียดโลกในปี 2029 ส่งผลให้ Apophis โคจรมาใกล้โลกอีกครั้งในปี 2051 และจะหลุดเข้า Gravitational Keyhole อีกครั้งในปี 2051 ส่งผลให้ดาวเคราะห์น้อย Apophis พุ่งชนโลกในปี 2068

Apophis จะไม่ชนโลกในอีก 100 ปี

อย่างไรก็ดี การตรวจสอบเบื้องต้นโดยเครือข่ายอวกาศห้วงลึก Goldstone Deep Space Communications Complex ในแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2013 พบว่า โอกาสที่ดาวเคราะห์น้อย Apophis จะพุ่งชนโลกในปี 2036 มีเพียง 1 ในล้าน ส่วนโอกาสที่จะเกิด Yarkovsky Effect มีเพียง 2 ในล้าน ส่งผลให้โอกาสที่ดาวเคราะห์น้อย Apophis จะพุ่งชนโลกในปี 2068 แทบเป็นไปไม่ได้เช่นกัน

การตรวจสอบด้วยสัญญาณเรดาร์ในปี 2021 ช่วยยืนยันวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย Apophis ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยห้องปฏิบัติ Jet Propulsion Laboratory หน่วยงานขององค์การ NASA จะยืนยันในเดือนมีนาคม 2021 ว่า โลกจะไม่ต้องกังวลต่อโอกาสที่จะถูกดาวเคราะห์น้อย Apophis พุ่งชนไปอีก 100 ปีข้างหน้า พร้อมปรับอันดับความเสี่ยงตามมาตรวัด Torino scale เหลือแค่ 0 ในปัจจุบัน

การพุ่งเฉียดโลกของดาว Apophis ในปี 2029

ในวันที่ 13 เมษายน 2029 ดาวเคราะห์น้อย Apophis จะโคจรมาใกล้โลกที่สุดในระยะทางเพียง 38,000 กิโลเมตรจากพื้นโลก ซึ่งใกล้กว่าระยะทางจากโลกกับดวงจันทร์ถึง 10 เท่า หรืออยู่ใกล้โลกพอ ๆ กับดาวเทียมค้างฟ้าซึ่งอยู่ในความสูงระดับ 35,786 กิโลเมตรจากพื้นโลก

พื้นที่ที่มีโอกาสเห็นการเยือนโลกของดาวเคราะห์น้อย Apophis มากที่สุดได้แก่ซีกโลกตะวันออก ซึ่งคาดว่าความสว่างของดาวเคราะห์น้อย Apophis ระหว่างการเยือนโลกจะสว่างมากพอจนสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า

การเปลี่ยนกลุ่มดาว Apophis จากการเยือนโลก

แม้จะมีการยืนยันว่า การโคจรใกล้โลกของดาวเคราะห์น้อย Apophis ในวันที่ 13 เมษายน 2029 จะไม่ส่งผลต่อทุกชีวิตบนโลก แต่คาดว่าการมาเยือนโลกที่จะมีขึ้นในอีก 4 ปีข้างหน้า จะส่งผลต่อการโคจรของดาวเคราะห์น้อย Apophis ในอนาคตอย่างมาก

สิ่งที่นักดาราศาสตร์เฝ้าสังเกตในระหว่างการมาเยือนของดาวเคราะห์น้อย Apophis คืออิทธิพลของแรงดึงดูดโลกที่จะมีต่อการเคลื่อนที่ของ Apophis ทั้งแรงดึง แรงหมุน และแรงบิดจากแรงดึงดูดโลกอาจส่งผลต่อการโคจรรอบดวงอาทิตย์ของดาวเคราะห์น้อย Apophis

ปัจจุบัน Apophis อยู่ในกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Aten ที่ใช้เวลาเดินทางรอบดวงอาทิตย์สั้นกว่าโลกที่ 0.9 ปีต่อรอบ แต่อิทธิพลของแรงดึงดูดของโลกในอีก 4 ปีข้างหน้า จะทำให้วงโคจรรอบดวงอาทิตย์ของดาวเคราะห์น้อย Apophis เปลี่ยนไป ทำให้ Apophis เดินทางรอบดวงอาทิตย์นานขึ้นเป็น 1.2 ปี และเปลี่ยนสถานะของ Apophis จากกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Aten กลายเป็นกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Apollo ซึ่งเป็นกลุ่มดาวเคราะห์น้อยที่เดินทางรอบดวงอาทิตย์นานกว่าโลกในที่สุด

ภารกิจสำรวจ Apophis

การเยือนโลกของดาวเคราะห์น้อย Apophis ถือเป็นโอกาสครั้งแรกในรอบสหัสวรรษที่วงการวิทยาศาสตร์จะได้เรียนรู้พฤติกรรมของดาวเคราะห์น้อยอย่างใกล้ชิด

องค์การอวกาศยุโรป (ESA) ได้ก่อตั้งภารกิจ Rapid Apophis Mission for Space Safety (RAMSES) เพื่อเตรียมส่งยานอวกาศไปสำรวจดาวเคราะห์น้อย Apophis โดยจะเดินทางออกจากโลกช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2028 และจะเดินทางถึง Apophis ในเดือนกุมภาพันธ์ 2029 หรือก่อนการพุ่งเฉียดโลกเพียง 2 เดือน เพื่อศึกษาปฏิกิริยาที่ Apophis มีต่อแรงดึงดูดของโลก

ส่วนภารกิจ OSIRIS–Apophis Explorer (APEX) ขององค์การ NASA จะใช้ยานอวกาศสำรวจดาวเคราะห์น้อย Apophis ด้วยการโคจรรอบ Apophis จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2030 เพื่อศึกษาวงโคจรของ Apophis ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหลังจากการเยือนโลกมากน้อยแค่ไหน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://science.nasa.gov/solar-system/asteroids/apophis-facts/
https://www.forbes.com/sites/jamiecartereurope/2025/04/13/god-of-chaos-asteroid-its-four-years-until-the-rarest-space-event-of-our-lives/
https://en.wikipedia.org/wiki/99942_Apophis
https://www.facebook.com/watch/?v=830827260974198
NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย