รอง ผบช.น.แถลงผลทลายแก๊งอ้างตัวเป็นตำรวจ ปล้นทรัพย์ชาวต่างชาติ

สน.ลาดพร้าว 29 พ.ย. – “พล.ต.ต.นพศิลป์” รอง ผบช.น. แถลงผลทลายแก๊งอ้างตัวเป็นตำรวจ ปล้นทรัพย์ชาวต่างชาติ โดยจับกุมคนร้ายได้ในพื้นที่พระนครศรีอยุธยา 2 คน เหลืออีก 1 ที่ยังหลบหนี


พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 พ.ต.ท.ธรรศพงศ์ พัฒนกิตติสกุล รรท. ผกก.สน.ลาดพร้าว และตำรวจ บก.สส.บก.น.4 และตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว จับกุม 3 ผู้ต้องหาแอบอ้างเป็นตำรวจปล้นทรัพย์นักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบด้วย 1.นายกิตติชัย หรือ กุ่ย/โน้ต ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 5782/2567 ในข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น” โดยจับกุมได้ที่โรมแรมแห่งหนึ่ง ใน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และนายพงษ์พัฒน์ หรือ ฟี่ หมายจับศาลอาญา 5783/2567 ในข้อหาเดียวกัน ส่วนอีก 1 ราย ที่ยังหลบหนี คือ นายฐิติพงษ์ หรือ ปาล์ม หมายจับศาลอาญา 5781/2567

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีผู้เสียหายชาวต่างชาติ 2 คน ซึ่งได้เดินทางมาจากประเทศเวียดนาม เพื่อจะท่องเที่ยวในประเทศไทย และได้นัดเจอกับเพื่อนชาวไทยเพื่อให้พานำเที่ยวในประเทศไทย โดยนัดหมายที่ร้านนิมมาน ถนนคลองลำเจียก ซอยคลองลำเจียก 31 แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ เพื่อมารอรับรถ ระหว่างที่นั่งรอเพื่อนชาวไทยได้มีคนร้ายไม่ทราบชื่อ จำนวน 3 คน ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว แต่งกายคล้ายตำรวจ สวมเสื้อเกราะ เสื้อคลุม และห้อยบัตรเจ้าพนักงาน อีกทั้งยังพกพาวิทยุสื่อสารและอาวุธปืน เข้ามาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อมาทำการตรวจค้น โดยอ้างว่ารถยนต์ดังกล่าวเป็นรถยนต์ที่ถูกใช้ในการขนส่งยาเสพติดจำนวนหลายครั้ง และเจ้าหน้าที่ได้ติดตามเฝ้าดูมาโดยตลอด และจะขอตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว


ทั้งนี้เนื่องจากผู้เสียหายทั้ง 2 เป็นชาวเวียดนาม ไม่สามารถฟังและเข้าใจภาษาไทยได้ โดยสื่อสารผ่านทาง “กูเกิ้ลทรานสเลท” ด้วยความกลัวของผู้เสียหาย ซึ่งไม่เคยมีประวัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จึงยินยอมให้คนร้ายทั้ง 3 ทำการตรวจค้น คนร้ายทั้ง 3 ขอตรวจสอบพาสปอร์ตและได้ตรวจค้นกระเป๋าสะพาย ซึ่งภายในมีเงินสด 120,000 บาท และกุญแจรถยนต์

จากนั้นนายกิตติชัย หรือ กุ่ย ซึ่งเป็น 1 ในคนร้าย ทำการยึดกระเป๋าของผู้เสียหาย และเดินออกจากห้องไป โดยให้คนร้าย 2 คน ที่เหลือ เฝ้าจับตาดูผู้เสียหาย อีกทั้งยังมีการนำอาวุธปืนลูกโม่มาถือไว้ในมือ ผู้เสียหายทั้ง 2 จึงไม่กล้าขัดขืน จนกระทั่งนายกิตติชัย นำกุญแจรถยนต์จากกระเป๋าของผู้เสียหายไปไขรถยนต์ คันดังกล่าว และขับขี่หลบหนีไปทันทีโดยใช้เส้นทาง ถ.เกษตร-นวมินทร์ จากนั้นคนร้าย 2 คน ที่คุมตัวผู้เสียหายไว้ ได้เดินออกจากห้องที่เกิดเหตุ คนร้ายข่มขู่ผู้เสียหายด้วยว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างปฎิบัติหน้าที่เกี่ยวกับยาเสพติดหากขัดขืนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการใช้กำลัง

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า หลังจากก่อเหตุเสร็จคนร้ายทั้ง 2 ได้เดินออกไปและขึ้นรถยนต์โตโยต้า ของคนร้ายหลบหนีไป ตาม ถ.เกษตร-นวมินทร์ จนกระทั่งผู้เสียหายรอเป็นเวลานาน จึงออกจากห้องมาดู พบว่ารถยนต์และเงินสดจำนวน 120,000 บาท ถูกคนร้ายนำไปแล้ว เมื่อเพื่อนชาวไทยของผู้เสียหายมาถึง และทราบเรื่องที่เกิดขึ้น จึงพามาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว โดย ฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ จนได้ตำหนิรูปพรรณของคนร้าย 3 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุปล้นทรัพย์สินชาวเวียดนาม และตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายมาโดยตลอด


ตำรวจได้ติดตามหาข้อมูลจนกระทั่งได้พยานหลักฐานพอสมควรที่จะออกหมายจับ จึงยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอออกหมายจับ และสามารถสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย อีก 2 รายหลบหนี และจะเร่งรัดจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายจนครบทุกราย

จากการสอบสวนนายกิตติชัย ให้การว่า วันเกิดเหตุ นายฐิติพงษ์ และนายพงษ์พัฒน์ ได้ชวนตัวเองไปยังร้านนิมมาน เพื่อตั้งใจไปปล้นทรัพย์ชาวเวียดนาม ซึ่งเห็นว่ากำลังขาดแคลนเงิน และผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติ ไม่น่ามาแจ้งความต่อตำรวจ หลังก่อเหตุได้เงินส่วนแบ่ง จำนวน 40,000 บาท ส่วนรถยนต์ของผู้เสียหาย นำไปส่งให้นายใหญ่ ที่ตลาดย่านสายไหม จากนั้นได้แยกย้ายกันหลบหนี จนกระทั่งถูกจับกุมในที่สุด

สำหรับกรณีดังกล่าวส่งผลให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหายอย่างมากและส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยวโดยตรง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายกลุ่มนี้ไม่ใช่ตำรวจแต่เป็นเพียงพลเรือนที่มีการแอบอ้างเท่านั้น ขอให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นในความปลอดภัยและประเทศไทยพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวในทุกๆ ชาติ ซึ่งทางตำรวจได้มีมาตราการในการป้องกันดูแลนักท่องเที่ยว โดยมีการบูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงาน อาทิ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจนครบาล เพื่อดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามายังประเทศไทย.-419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย