กทม. 21 ธ.ค. – พบหน้ากากอนามัยปรับขึ้นราคารายชั่วโมง เดิมขาย 20 บาท พุ่งเป็น 100-120 บาท ประชาชนกลัวโควิดรอบใหม่แห่ซื้อจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรกาศซื้อ-ขายหน้ากากอนามัย ย่านสำเพ็งคึกคักมาก มีประชาชนทยอยมาเลือกซื้อหน้ากากอนามัยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ร้านค้าต่าง ๆ มีการปรับราคาขายสูงขึ้นทุกร้าน จากเดิมมีร้านขายหน้ากากฯ 5 – 6 ร้าน วันนี้ เพิ่มเป็นกว่า 100 ร้านค้า ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งของจีน ญี่ปุ่น และไทย ผู้ใหญ่และเด็ก หลากสีสัน เช่น สีฟ้า เขียว ชมพู ลายการ์ตูน ทั้งบรรจุอยู่ในกล่อง และใส่ถุงพลาสติกซีลไว้
แม่ค้าขายหน้ากากอนามัยรายหนึ่ง เล่าว่า ก่อนที่จะมีข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หน้ากากอนามัยบรรจุ 50 แผ่นขาย 20 บาท ตอนนี้โรงงานส่งปรับราคาขึ้นเป็นรายชั่วโมง ทำให้ต้องปรับราคาขายหน้าร้านตาม ล่าสุด ขายแพคละ 50 แผ่น ราคา 100-120 บาท ช่วง 2-3 วันนี้มีประชาชนมาเลือกซื้อคึกคัก มากว่าเท่าตัวตลอดทั้งวัน พร้อมฝากให้ช่วยตรวจโรงงานที่ปรับขึ้นราคารายชั่วโมง เนื่องจากไม่อยากขายของแพง ลูกค้าในช่วงวิกฤต
ชายวัย 30 ปี ชาวกรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าจะมีการระบาดรอบใหม่ เคยซื้อหน้ากากอนามัย แพคละ 50 แผ่น ราคา 30 บาท ตอนนี้ราคาพุ่งกว่าร้อยบาท แต่ก็ต้องซื้อเพราะต้องออกไปทำงานทุกวัน รวมถึงซื้อเผื่อคนในครอบครัวด้วย กังวลเหมือนกันไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ระบาดอีก
ส่วนบริเวณอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นศูนย์กลางกรุงเทพฯ ในวันนี้ร้านค้าต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ตลาดค่อนข้างเงียบเหงา ไม่ค่อยมีคนเลือกซื้อสินค้า คนหายไปกว่า50 % ตั้งแต่มีข่าวโควิดระบาดใหม่
ส่วนร้านค้าที่ขายหน้ากากอนามัย ต่างยอมรับมีการปรับขึ้นราคาสินค้า เพราะโรงงานที่รับมาปรับราคาขึ้นมีทั้งขายเป็นกล่องละ100 บาท 50 ชิ้น และแบ่งขาย 3 ชิ้น 20 บาท ส่วนข้างกล่องหน้ากากอนามัยส่วนใหญ่พบว่า ผลติจากประเทศจีน หรือ made in china
นางบังอร บุญสืบ อายุ 63 ปี เจ้าของร้านขายหน้ากากอนามัย เล่าว่า ที่ร้านขายหน้ากากอนามัย และแบบหน้ากากผ้า สายคลัองหน้ากาก ตั้งแต่เกิดโควิด-19 พอเกิดการระบาดใหม่ทำให้ลูกค้ามาหาซื้อหน้ากากจำนวนมากขึ้นกว่าเท่าตัว
ส่วนราคาหน้ากากมีการปรับตัวขึ้นจริง จากเดิมขายกล่องละ 80 บาท เป็น 100 บาท เนื่องจากโรงงานประกาศขึ้นราคาเมื่อเช้านี้ อีกกล่องละ 20 บาท แต่หน้ากากผ้ายังขายอันละ 20 บาท เท่าเดิมเนื่องจากเป็นงานฝีมือของกลุ่มแม่บ้านในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายธนศักดิ์ จันทร์ อายุ 51 ปี โชเฟอร์ขับรถตู้สายธรรมศาสตร์- อนุเสาวรีย์ เปิดเผยว่า ผู้โดยสารลดลงกว่าครึ่งเนื่องจากกลัวโควิด-19 กังวลหากต้องล็อกดาวน์ปิดเมืองอีกครั้ง คงต้องหยุดขับรถตู้ส่งผลกระทบต่อรายได้หาเลี้ยงครอบครัว ส่วนคิวรถตู้จะมีการเน้นย้ำมาตรการป้องกันโควิด มีแอลกอฮอล์ไว้ฉีดทำความสะอาดภายในรถ มีเจลแอลกอฮอล์ให้ล้างมือ และหากผู้โดยสารคนใดไม่มีหน้ากากอนามัยจะไม่อนุญาตให้ขึ้นรถโดยเด็ดขาด.- สำนักข่าวไทย