กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – ตำรวจ สน.หลักสอง ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุยิงถล่มกันภายในซอยย่านบางแค ว่ามาจากปมขัดแย้งเรื่องหน้ากากอนามัยอย่างเดียวหรือไม่ ส่วนคนขับรถปอร์เช่สีเหลืองปรากฏตัวแล้ว อ้างว่าอยู่เซฟเฮาส์ และย้ำว่าไม่ได้เปิดฉากยิง แต่กลับถูกยิงแทน
ความคืบหน้ากรณีนายอธิป ขวัญบุญ พร้อมพวกรวม 7 คน เดินทางไปหานายธนกฤต สถิจชวา หรือ “เสี่ยตี๋” อายุ 44 ปี ที่บ้านพักในซอยพุทธมณฑล สาย 2 แยก 11 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ เพื่อเคลียร์ปัญหา ก่อนถูกกระหน่ำยิงปืนใส่รถปอร์เช่สีเหลือง จนมีผู้บาดเจ็บ 1 คน คือ นายอภิรักษ์ คลังแสง อายุ 27 ปี เบื้องต้นคาดว่ามีปมความขัดแย้งเรื่องธุรกิจหน้ากากอนามัย
ล่าสุด พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยว่า ได้แบ่งสำนวนคดีเป็น 2 ส่วน คือ 1. คดีของ “เสี่ยตี๋” ที่แจ้งความว่าถูกประทุษร้ายด้วยการยิงปืนเข้ามาภายในบ้าน ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไม่พบรอยกระสุนในบ้าน “เสี่ยตี๋” นั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวน และ 2. คดีนายอภิรักษ์ คลังแสง ซึ่งนั่งมาในรถปอร์เช่สีเหลือง พร้อมกับนายอธิป ขวัญบุญ ก่อนถูกยิงบาดเจ็บ ตำรวจได้สอบปากคำและขยายผลว่า นายอภิรักษ์ถูกใครยิง ส่วนนายอธิป ที่กำลังถูกสังคมจับตาว่า เหตุใดยังไม่มาให้ปากคำ ทั้งที่อ้างว่าไม่ได้เป็นฝ่ายผิดนั้น มองว่า นายอธิปอาจยังตกใจ แต่หากพร้อมก็สามารถมาให้ปากคำได้ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมชุดสืบสวนสอบสวนของ สน.หลักสอง ยังไม่ได้สรุปสาเหตุว่า เกิดจากปมขัดแย้งเรื่องหน้ากากอนามัยอย่างเดียวหรือไม่ เพราะฝั่งนายอธิปยังไม่ได้มาให้ปากคำ โดยล่าสุดผู้กำกับการ สน.หลักสอง ให้ข้อมูลว่า นายอธิป ประสานมาว่าจะเข้าให้ปากคำพร้อมกับทนายความ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับนายธนกฤต กรณีถูกยิงปืนใส่
ล่าสุดนายอธิป โพสต์ในเฟซบุ๊ก ชี้แจงว่า หลังคืนวันเกิดเหตุเพียง 1 วัน ได้ถูกประกบยิงและข่มขู่คุกคาม ทำให้ต้องซ่อนตัวในเซฟเฮาส์ และไม่สามารถมาชี้แจงกับสื่อ รวมถึงไม่สามารถให้ปากคำกับตำรวจได้ ส่วนในวันเกิดเหตุไม่ได้มีปืน หรือยิงถล่มอีกฝ่าย พร้อมอ้างว่า ก่อนหน้านี้ “เสี่ยตี๋” เคยขับรถบิ๊กฟุตมาเบิ้ลเครื่องใส่หน้าบ้าน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ขณะที่เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (3 ส.ค.) นางวนิดา คุ้มธนกิจ แม่ของนายอธิป ได้เข้าแจ้งความที่ สน.บึงกุ่ม หลังพบว่ามีรถตู้ลึกลับมาซุ่มดูที่หน้าบ้านหลังเกิดเหตุที่ลูกชายถูกยิงถล่มรถปอร์เช่ จึงรู้สึกไม่ปลอดภัยและหวาดกลัว ก่อนแจ้งความให้ตำรวจเข้าไปช่วยคุ้มครองความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย