หลานชายคลั่ง กระทืบน้าชาย-น้าสะใภ้ปางตาย คาดเมายา

          กรุงเทพฯ 31 ก.ค.- หลานชายคลั่ง กระทืบน้าชายและน้าสะใภ้ปางตาย คาดเมายา ก่อนหลบหนีหวั่นย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำ จึงโพสต์ภาพขณะถูกทำร้ายเป็นเบาะแสตามหาแหล่งกบดาน


           นี่คือภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด ขณะนายพิทยา สุขารมณ์ อายุ 32 ปี ทำร้ายร่างกายนายวิชัย และ นางพิชยา พุ่มอ่ำ อายุ 57 ปี บริเวณหน้าบ้านพัก ในหมู่บ้านราศรีธรรม แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ เมื่อช่วงเวลา 22:00 น.ของวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา

        นางพิชญา ที่วันนี้สภาพร่างกายยังบอบช้ำ ตาขวายังบวมปิด หน้าผากซ้ายเย็บ 4 เข็ม และมีรอยฟกช้ำทั่วศีรษะ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ช่วงเย็นวันเกิดเหตุ  นายพิทยาซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆของสามี มาดื่มสังสรรค์ที่บ้านญาติ ใกล้ๆกัน ก่อนที่พากันเดินมาที่บ้าน  ระหว่างนั้นตนได้ยินเสียงสามีพูดกับหลานชาย เรื่องที่หลานชายพยายามขอแหวนพระ  ก่อนลงมือทำร้ายร่างกาย ด้วยการชกเข้าที่ใบหน้าจนสามีล้มลงและเตะซ้ำหลายครั้งจนสลบไป ตนพยายามเข้าไปห้าม แต่กลับถูกหลานชายทำร้ายด้วยการชกเข้าที่ใบหน้าและเตะซ้ำหลายครั้ง แล้วยังพยายามนำกระถางต้นไม้หน้าบ้านทุ่มใส่ตน แต่มีเพื่อนบ้านห้ามไว้ได้ทัน ก่อนจะหลบหนีไป


        โดยหลังเกิดเหตุผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงขณะตน ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ผู้ก่อเหตุยังหวนกลับมาที่บ้านและพยายามทำร้ายสามีตนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีญาติคอยห้ามไว้ได้

         หลังเกิดเหตุตนได้ไปแจ้งความที่ สน.ภาษีเจริญ พนักงานสอบสวนบอกว่าให้ไปขอใบแพทย์ที่โรงพยาบาล และนัดหมายไปสอบปากคำ อีกครั้งในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ทำให้คดียังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

         นางพิชญา ยอมรับว่ารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก กลัวว่าผู้ก่อเหตุ จะหวนกลับมาทำร้ายตนและคนในครอบครัวอีก ลูกสาวจึงนำคลิปเหตุการณ์เผยแพร่ทาง facebook ให้คนรู้จักเบาะแสช่วยแจ้ง เพราะไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุพักอาศัยอยู่ที่ไหน เนื่องจากครอบครัวไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว โดยพ่อ แม่ของผู้ก่อเหตุเสียชีวิตไปแล้ว พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือขัดแย้งกับหลานชายมาก่อนเข้าใจว่าหลานชายน่าจะเมาสุราหรือเมายาเสพติดอย่างอื่น จนก่อเหตุทำร้ายร่างกายตนและสามีซึ่งเป็นน้าชายแท้ๆและยังเป็นคนแก่ได้ลง         


พันตำรวจโท ยงยุทธ ทองเต็ม รองผู้กำกับการ สอบสวน สน.ภาษีเจริญ ระบุว่าคดีนี้ทราบว่ามีการเข้ามาแจ้งความไว้แล้ว และมีการนัดผู้เสียหายมาสอบปากคำแล้ววานนี้ แต่ผู้เสียหายติดภารกิจงานในช่วงกลางวัน และเข้ามาพบพนักงานสอบสวนในเวลา 3 ทุ่ม พนักงานสอบสวนจึงมีการนัดสอบปากคำอีกครั้งในวันจันทร์ ที่ 3 สิงหาคมนี้ แต่ในส่วนของใบตรวจร่างกายได้มีการส่งมอบให้แล้ววานนี้ ส่วนภาพวงจรปิดและข้อมูลเบื้องต้น ได้นำมามอบให้ในวันแรกเป็นที่เรียบร้อย ต่อจากนี้จะกำชับให้เร่งรัดสอบปากคำและติดตามตัวคนร้ายในคดีนี้มาดำเนินคดี คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะมีข้อมูลระบุตัวบุคคลได้อย่างชัดเจน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

ซ่อมรถบัสทิพย์

บุกจับ 7 จนท.กองกีฬาฯ จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์เสียหาย 2.7 ล้าน

ป.ป.ช. สนธิกำลังปฏิบัติการร่วม ปปท. และ ป.ป.ป. จับกุม 7 เจ้าหน้าที่สังกัดสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ เสียหายกว่า 2.8 ล้านบาท

สว.ยื่นเอาผิดทวี

“105 สว.” ​ยื่นเอาผิด “ทวี-อธิบดีดีเอสไอ” กลั่นแกล้งฮั้ว สว.

“105 สว.” ลงชื่อ​ยื่น​ป.ป.ช. เอาผิด​ม. 157 “ทวี” – “อธิบดีดีเอสไอ” กลั่นแกล้งเรื่องฮั้วสว. แขวะความยุติธรรมในประเทศไม่เกิด มีแต่ระส่ำเพราะผู้นำจิตวิญญาณคุมฝ่ายการเมือง​ได้ เปรียบ​ อ.ดีเอสไอ เป็นแมว ที่มีคนเลี้ยงคอยกระตุกคอให้จับหนู แต่สุดท้ายอาจต้องตาย เพราะไปจับปลาแต่ว่ายน้ำไม่เป็น​

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อน-ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนและฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศร้อน และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม.-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง 30%