กรุงเทพฯ 28 ก.พ.- ผบ.ตร.รุดสอบปากคำ 1 ในคนร้ายชิงเงินรถขนเงิน บ.บริงค์ส หน้าห้างสรรพสินค้า ย่านเพชรเกษม ค้นที่พักพบเงินสด 3 ล้าน 6 แสนบาทซุกซ่อนอยู่ รับเคยก่อเหตุชิงเงิน 6 ล้านย่านบางใหญ่ ปี 60 พร้อมตั้งรางวัลนำจับ 5 หมื่นบาทผู้ให้เบาะแสคนร้ายที่หลบหนี
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าสอบปากคำนายจิรายุส สวนมิ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลตลิ่งชัน
ในคดีจี้ชิงเงินจากพนักงานรถขนเงิน หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านถนนเพชรเกษม (บิ๊กซี เอ็กตร้า) ได้เงิน 7 ล้าน2 แสนบาท หลังตำรวจจับกุมไว้ได้ที่เก็สเฮ้าส์ ย่านบางบอน และถูกควบคุมตัวมาสอบสวน ที่ สน.หนองค้างพลู เมื่อคืนที่ผ่านมา
จากการสอบสวนนายจิรายุส รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเกิดเหตุตนและนายทักษ์ดนัย เหนี่ยวรั้งใจ ผู้ต้องหาอีกคนที่หลบหนีอยู่ ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาดูลาดเลาบริเวณหน้าห้างดังกล่าว กระทั่งทราบเวลาที่พนักงานขนเงินทั้งสองคนจะนำรถยนต์มาจอด และขึ้นไปเบิกเงินจากธนาคารก่อนขนมาเก็บไว้ที่รถ จึงตัดสินใจก่อเหตุ โดยนำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีฟ้าของนายทักษ์ดนัย โดยอำพรางสีโดยใช้พลาสติกใสแปรรูปอาหารพันคลุมรอบตัวรถจักรยานยนต์ก่อนจะใช้สีสเปรย์สีดำพ่นทับ หลังก่อเหตุเสร็จได้ลอกเอาพลาสติกใสที่คลุมทับไว้ออก เพื่อ ป้องกันการถูกเจ้าหน้าที่ติดตาม
นายจิรายุส รับอีกว่า ขณะเกิดเหตุตนเป็นผู้ซ้อนท้ายและใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงานขนเงินเอง โดยก่อนหน้านี้ตนพร้อมกับนายทักษ์ดนัย เคยร่วมกันก่อเหตุลักษณะเดียวกัน รถขนเงินของบริษัทรักษาความปลอดภัย BRINKS จำกัด เช่นกัน ขณะนั้นได้เงินกว่า 6 ล้านบาท เกิดเหตุภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต พื้นที่จังหวัดนนทบุรี เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นตนได้รับส่วนแบ่งจากการก่อเหตุ จำนวน 1 ล้านบาท เมื่อยังไม่ถูกจับกุมจึงย่ามใจชักชวนกันมาก่อเหตุอีกครั้งจนกระทั่งมาถูกทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ดังกล่าว
ขณะที่ นางขนิษฐา นาถะภักติ วัย 35 ปี มารดาของนายจิรายุส มาสังเกตการณ์สอบปากคำลูกชาย พร้อมเปิดเผยว่าตนและสามีแยกทางกัน โดยนายจิรายุสไปอาศัยอยู่กับย่า ปกติพวกตนไม่ค่อยได้ติดต่อกัน เจอครั้งสุดท้ายสัปดาห์ที่แล้ว และยังขอเงินไปตัดผม 200 บาท วินาทีแรกที่ทราบเรื่องตนช็อคมากไม่คิดว่าลูกชายจะก่อเหตุถึง 2 ครั้ง แต่เชื่อว่าลูกจะไม่ทำสิ่งไม่ดีหากไม่มีคนชักชวน ตอนนี้อยากกอดลูก และอยากให้ลูกยอมรับผิดโทษจะได้เบาลง
มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายทักษ์ดนัยผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี เคยเป็นพนักงานขับรถให้กับบริษัท BRINKS ก่อนถูกปลดพ้นสภาพเนื่องจากขาดงานตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี 60 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ขณะที่เป็นพนักงานอยู่นั้นได้แอบปั๊มลูกกุญแจสำรองของรถขนเงินเอาไว้ ประกอบกับมีความโกรธแค้นที่ถูกไล่ออกจึงก่อเหตุเมื่อปี 2560 และรู้ลู่ทางในการเดินรถขนเงินเป็นอย่างดี จึงตัดสินใจชักชวนนายจิรายุส มาร่วมกันก่อเหตุ
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธข่มขู่ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิด ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและยิงปืนโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้าน ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ และค้นบ้านพักย่านบางบอนที่นายทักษ์ดนัยเช่าไว้เก็บเงินพบเงินสดจำนวน 3 ล้าน 6 แสนบาท ซุกซ่อนอยู่ ส่วนที่เหลือคาดว่านายทักษ์ดนัยนำติดตัวหลบหนีไปด้วย
นอกจากนี้ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ได้ตั้งรางวัลนำจับ นายทักษ์ดนัย ผู้ต้องหาอีกหนึ่งคนที่ยังหลบหนี เป็นจำนวนเงิน 5 หมื่นบาท โดยขอให้ประชาชนที่พบเห็นชายที่ปรากฎตามภาพถ่าย โทรศัพท์มาที่เบอร์ 062-879-2453 เพื่อแจ้งเบาะแสกับตำรวจ และขอให้ประชาชนระมัดระวังบุคคลดังกล่าว เนื่องจากมีการพกพาปืนตลอดเวลา .-สำนักข่าวไทย
