กทม. 2 มิ.ย. – ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาปล้นบุหรี่ไฟฟ้าในโกดังกรมศุลกากร ก่อนขับรถชน รปภ.ดับ ด้านพนักงานสอบสวนหิ้วนายเจ ทำหน้าที่รับของโจร ไปฝากขังศาล เจ้าตัวฝากถึงเพื่อนรัก “เจอที่ไหน ตายแน่”
ความคืบหน้าล่าสุดที่ สน.ท่าเรือ มีรายงานว่าเมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) ตำรวจสามารถคุมตัวนายดิศรณ์ หรือ นายเจ อายุ 41 ปี ซึ่งมีหน้าที่รับฝากของจากกลุ่มผู้ก่อเหตุ 6 คนมาสอบปากคำ และแจ้งข้อหารับของโจร โดยจากการสอบปากคำนายเจ ทำให้สามารถขยายผลไปถึงผู้ก่อเหตุอีก 6 คนได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไปยื่นขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 6 คน ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่มกันบุกรุก และมีข้อหาอื่นๆ อีกที่ต้องพิจารณา ซึ่งตำรวจเชื่อว่าตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน ยังอยู่ในกรุงเทพมหานคร ไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 อยู่ หากหมายจับออกก็จะสามารถจับกุมบางรายได้ทันที
ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดนั้นสามารถได้ภาพแค่ตอนที่ชนผู้ตาย แต่ไม่สามารถจับภาพขณะปล้นได้ ส่วนกรณีที่จะมีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น มีรายงานว่าไม่มี โดยคาดว่าคนชี้เป้าน่าจะเป็นคนในชุมชน ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ ยังบอกไม่ได้
ต่อมาเวลา 09.30 น. พนักงานสอบสวน ควบคุมตัวนายดิสรณ์ อายุ 41 ปี หรือ นายเจ ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพฯใต้ฝากขัง ในข้อหารับของโจร โดยระหว่างที่ควบคุมตัวขึ้นรถ ผู้ต้องหาได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมบอกว่าตนไม่ผิด ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุตนก็รู้จักแค่นายจีเพียงคนเดียว โดยหลังเกิดเหตุนายจีกับพวกอีก 2 คน ก็ได้เอาบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 2 กล่องมาฝากไว้ที่ตน โดยไม่ได้ให้ค่าจ้าง เพราะว่าตนรู้จักกับนายจีตั้งแต่สมัยยังเด็ก ตอนนี้รู้สึกโกรธแค้นนายจีเป็นอย่างมาก ถึงกับลั่นวาจาว่า “ถ้าหากเจอที่ไหน ตายแน่ เพราะทำให้ตนต้องมาติดคุกแบบนี้ ตนอยากจะประกันตัว แต่ไม่มีเงิน” อีกทั้งยังรู้สึกเสียใจที่ถูกเพื่อนทำแบบนี้ อยากให้มอบตัว มาติดคุกแทนตน เนื่องจากรู้สึกเป็นแพะรับบาป
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ตำรวจยังสามารถคุมตัวนายเบิร์ด ที่เป็นผู้ต้องสงสัย 1 ใน 6 ผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ ขณะนี้ตัวนายเบิร์ดยังถูกสอบปากคำที่ สน.ท่าเรือ .-414-สำนักข่าวไทย