“ภูมิธรรม” ซัด “พริษฐ์” ท้ายุบสภา เอาความต้องการตัวเองเป็นหลัก

ทำเนียบ 2 ก.ย.-“ภูมิธรรม” ถามพรรคประชาชน ภูมิใจไทย ไว้ใจได้แค่ไหน ซัด “พริษฐ์” ท้ายุบสภา เอาความต้องการตัวเองเป็นหลัก ไม่เข้าใจกระบวนการรวมเสียงตั้งรัฐบาล ชี้การเมืองยังไม่ถึงเดดล็อก ยุบสภาอยู่ที่สถานการณ์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ (2 ก.ย.) ว่า ยังไม่เห็นว่ามีวาระการแต่งตั้งโยกย้ายด้วยหรือไม่ แต่ ครม.สามารถทำได้ แม้ขณะนี้ไม่มีนายกรัฐมนตรี แต่ตนปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ตำแหน่งรักษาราชการแทน เช่นเดียวกับรัฐมนตรีคนอื่นๆก็สามารถเซ็น เอกสารในฐานะรัฐมนตรีได้ทั้งหมด เพราะยังมีอำนาจเต็ม รวมถึงในเรื่องของการยุบสภาก็มีอำนาจ


ส่วนในที่ประชุมวันนี้ (2 ก.ย.) จะมีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการยุบสภาหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่หารือ เนื่องจากขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการจัดตั้งรัฐบาลจนกว่าจะมีการประกาศชัดเจนในการจับมือร่วมรัฐบาล หรือ เข้าสภาจนได้นายกรัฐมนตรี

ส่วนที่ดูท่าทีพรรคประชาชนเหมือนไม่ได้ไว้ใจทั้งพรรคการเมืองสีแดงและสีน้ำเงิน นายภูมิธรรม ย้อนถามกลับว่า แล้วจะทำอย่างไร เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยกให้ใครเลยก็แบ่งเป็นสามขั้ว


ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลจะมีโอกาสไหลไปรวมกับขั้วเดิมของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล หากไปพูดถึงความเป็นไปไม่ได้แล้วจะคุยกันอย่างไร พร้อมย้ำว่าตอนนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าพรรคประชาชนจะไม่เลือกใครเลย ตนคิดว่ารอให้การประชุมชัดเจนก่อน อย่าไปใช้คำว่า“ถ้า”เลย เพราะหากเริ่มต้นด้วยคำว่า “ถ้า” ก็จะทำงานไม่ได้

สำหรับกรณีที่ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าถ้าเกมจบไม่ลง พรรคเพื่อไทยจะไปดึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมา นายภูมิธรรม มองว่าไปไกลเกินไป นายเทพไทอย่าตัดสินใจแทนพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่า เรื่องยุบสภายังมีเวลาตัดสินใจใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าเรื่องนี้อยู่ในกระบวนการอยู่แล้ว ขณะนี้อยู่ในกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล มีการช่วงชิง มีการพูดคุย และมีการทำความเข้าใจจึงอยู่ที่ข้อสรุปที่จะตกลงกันร่วมรัฐบาลว่าจะเป็นอย่างไร แต่วันนี้ยังไม่มีอะไรที่เป็นคำตอบที่ชัดเจน เพราะพรรคประชาชนยังไม่ได้บอกว่าจะไม่เอาพรรคเพื่อไทย หรือไม่เอาพรรคภูมิใจไทย ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพราะพรรคประชาชนยังไม่มีข้อสรุปและ สส.ในพรรคก็ยังเห็นต่างอยู่ รอให้เขาตัดสินใจให้ชัดเจน แต่หากบ้านเมืองไม่มีทางออกก็ยังมีกลไกตามขั้นตอนของประชาธิปไตย จะเลือกตรงไหนก็ได้ แต่ตอนนี้การเจรจายังไม่ได้ข้อยุติ ว่าจะเสนอใครไปโหวต แล้วโหวตแล้วจะได้หรือไม่ได้ก็ยังไม่รู้ วันนี้พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ จนกว่าจะมีการตกลงร่วมกันชัดเจนและเสนอชื่อเข้าสภาแล้วโหวตจนสำเร็จ


ส่วนกรณีที่พรรคประชาชน ยังไม่ไว้ใจเพราะเคยถูกหักหลังมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า หักหลัง หรือไม่หักหลังอยู่ที่พรรคประชาชนตัดสินใจ

ส่วนจะให้ความมั่นใจกับพรรคประชาชนอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราพูดชัดเจนและประกาศต่อสาธารณะไปแล้วว่าจะทำอะไรบ้าง ก็รอเพียงคำตอบจากพรรคประชาชน ส่วนจะเลือกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ก็อยู่ที่ดุลยพินิจว่า จะเลือกเพื่อไทย หรือจะร่วมตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย หรือจะเลือกพรรคภูมิใจไทย ไม่ต้องอุบอิบและเข้าไปร่วมเป็นรัฐบาลขอกระทรวงไหนพรรคภูมิใจไทยก็ฟังอยู่แล้ว หากขอกระทรวงมหาดไทยก็เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยยอม ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับพรรคประชาชนว่าจะตัดสินใจอย่างไร

เมื่อถามย้ำว่า ข้อเสนอของพรรคประชาชนคือต้องการเลือกนายกรัฐมนตรีเพื่อมายุบสภา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยก็เหมือนกัน แต่ข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยเพื่อแก้วิกฤต จะเอาไม่เอาก็ขึ้นอยู่กับประชาชน และที่บอกว่าพรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์ความเป็นจริงก็ไม่ใช่ เพราะที่เคยตกลงว่าจะสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยก็ยกมือทั้งพรรคให้ทั้งสองครั้ง

ส่วนเสียงสนับสนุนจาก สว. พรรคก้าวไกลขณะนั้น ก็ระบุเองว่าจะเป็นผู้ดูแล สว.เอง ที่จะเชิญชวนให้มาเลือกนายพิธา แต่ผลออกมาไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะฉะนั้นจะมาว่าเราไม่ได้ แต่ยอมรับว่าเงื่อนไข 10 เดือนของพรรคก้าวไกล เพื่อไทยเห็นต่าง เพราะมองว่า10 เดือนมากเกินไป ปัญหาประเทศรอไม่ได้ ก็กล่าวหาว่าเพื่อไทยฉีก MOU ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ได้เชิญทุกพรรคการเมืองมาพูดคุยเรื่องตั้งรัฐบาล ซึ่งทุกพรรคพูดชัดเจนว่าไม่เอา ม.112 ไม่เอาพรรคก้าวไกลเข้าร่วมเงื่อนไข ก็ชัดเจน ถ้าถามว่าเรื่องนี้ทำให้พรรคก้าวไกล กินแหนงแคลงใจกับพรรคเพื่อไทย ก็มีสิทธิ์ที่จะคิดได้ แต่อะไรที่ผิดไปตนก็ขอโทษ เพราะวันนี้ปัญหาประเทศคือเรื่องใหญ่ และถ้าบอกว่าวันนี้ไม่มีอะไรไว้ใจพรรคเพื่อไทยแล้วถามว่าพรรคภูมิใจไทยมีอะไรให้ไว้วางใจ ที่ผ่านมาก็โหวตคัดค้าน รัฐธรรมนูญมาโดยตลอด พูดชัดเจนมาโดยตลอด หรือแม้แต่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ก็พูดกลางที่ประชุม แต่ตนไม่ขอลงรายละเอียด ให้กลับไปย้อนดูคลิปได้

“เพราะฉะนั้นสิ่งที่พรรคประชาชนต้องคิด ไม่มีเหตุผลว่าจะไว้ใจใครหรือไม่ไว้ใจใคร ถ้าจะไม่ไว้ใจพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทยน่าไว้ใจหรือ แล้ววันนี้ถ้าหากพรรคภูมิใจไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล ใช้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะพรรคประชาชนบอกว่าจะไม่เป็นรัฐมนตรี ยุติเรื่องเขากระโดง ก็แสดงว่าเราไม่สามารถเอาที่หลวงกลับคืนมาได้ และสว. ก็สามารถสั่งได้ในกลไกต่างๆ และอะไรคือความมั่นใจของพรรคประชาชน อยากให้พูดให้ชัดเพื่อไทยไม่มีอะไรด้อยกว่าพรรคภูมิใจไทย ประวัติเรื่องประชาธิปไตยเพื่อไทยชัดเจนกว่ามาโดยตลอด เรื่องนี้ไม่ได้เอามาพูดเพื่อกลบเรื่องอื่นๆ แต่หากพรรคประชาชนจะร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ตนก็มองว่าเป็นสิทธิ แต่อย่ามาบอกว่าเพื่อไทยไม่น่าไว้ใจ และอยากให้พูดให้ชัดว่า มีอะไรที่พรรคภูมิใจไทยน่าไว้ใจ เพื่อไทยก็จะยอมรับ”นายภูมิธรรม ระบุ

เมื่อถามว่าการเดินเกมของพรรคประชาชนขณะนี้ต้องการบีบให้ยุบสภาหรือไม่ นายภูมิธรรม ถึงกับร้อง โอย พร้อมบอกว่า ไปมองแบบนั้นก็มองพรรคประชาชนร้ายเกินไป แสดงว่าที่พรรคประชาชนเดินเกมมาทั้งหมด ไม่สนใจความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นแล้วจะเป็นปัญหาต่อประเทศอย่างไร ตนไม่เชื่อว่าพรรคประชาชนจะคิดถึงขนาดเอาเกมส่วนตัวมาแก้ปัญหา หรือสร้างผลกระทบให้กับประเทศชาติ

เมื่อถามต่อว่า แกนนำพรรคประชาชนอย่างนายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ โฆษกพรรคประชาชน ก็ออกมาพูดว่า ถ้าหากจะยุบสภาก็ยุบได้เลยไม่ต้องรอการตัดสินใจของพรรคประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้านายพริษฐ์ พูดแบบนั้นแสดงว่าไม่เข้าใจกระบวนการประชาธิปไตย เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือเพื่อตั้งรัฐบาล อยู่ๆจะให้ยุบสภา แสดงว่าเอาความต้องการของตนเองเป็นหลัก วันนี้ยังไม่ใช่เรื่องที่จะต้องตัดสินใจในกระบวนการอื่นๆของประชาธิปไตย ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเสียงตั้งรัฐบาล ถ้าภูมิใจไทยบอกว่าขณะนี้รวมเสียงได้มากกว่า 280 ก็แสดงว่ารวมเสียงของพรรคประชาชนเข้าไปด้วย และมั่นใจว่าได้ตกลงกับพรรคประชาชนเรียบร้อยแล้ว แสดงว่ากระบวนที่กำลังเกิดขึ้นเป็นการเล่นละครอยู่หรือไม่ ถ้าเป็นแบบนั้นพรรคประชาชนก็ต้องรับผิดชอบ แต่ตนเชื่อว่าทุกฝ่ายกำลังพิจารณาในกระบวนการตั้งรัฐบาล จะไปพูดเรื่องอื่นและยุให้ยุบสภา แสดงว่ามีเจตนาที่จะยุบสภาอย่างเดียว แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ใช่เรื่องที่จะยุบสภา วันนี้ขอให้สวมหัวใจนักประชาธิปไตย อย่าใช้ความโกรธเกลียด แต่ที่พูดว่าไม่ใช้ความโกรธเกลียด แต่จำได้ก็อยากถามว่าพรรคภูมิใจไทยดีกว่าพรรคเพื่อไทยตรงไหน ถึงจะไปตัดสินใจยกมือให้ ตนฝากถามไปยังพรรคประชาชน นายภูมิธรรม ยิ้มและหัวเราะ พร้อมกับย้ำว่า ไม่ได้โกรธ แค่พูดให้ฟัง

ส่วนในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทยที่จะรวบรวมเสียงไปโหวตนายกในสภายังมั่นใจใช่หรือไม่ว่าการเมืองจะไม่ถึงทางตัน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้สื่อก็ยังเห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลจับมือกันอยู่ อาจจะมีบางเสียงที่สื่อไปตีความว่าทะแม่งๆ ทางโน้นก็บอกง่าที 280 -300 เสียงแล้ว พรรคประชาชนยกมือให้ พรรคประชาชนบอกว่ายังไม่ตัดสินใจเลย ยังไม่ได้ยกให้ใคร ท่านจะเชื่อใครดีล่ะ มันต้องมีใครหลอก โกหกสักคนหรือสองคน หรือสามคน หรือโกหกหมดก็ได้ ตนว่าอย่าเพิ่งไปสรุปกับเสียงที่แว่วๆมา เพราะวันนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันกำลังเป็นการหาทางออกเพื่อสร้างผู้นำประเทศและเลือกรัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤต พร้อมฝากถึงสื่อมวลชนว่าหากเรื่องไหนไม่มีความชัดเจนอย่าเอามาพูดให้เกิดความไม่มั่นใจในเสถียรภาพรัฐบาล ตนคิดว่าเรื่องนี้สำคัญ ไม่อย่างนั้นตนคงอยู่ประชุม ก.ตร. คงไม่ไปหรอก

ส่วนพรรคประชาชนได้บอกหรือไม่ว่าจะให้คำตอบเมื่อไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าพรรคประชาชนบอกจะประชุมเมื่อวาน (1 ก.ย.) และไม่แน่ใจว่าจะได้คำตอบ ซึ่งตนก็บอกว่าไม่เป็นไร ทำให้ชัดเจน แต่ขอให้แจ้งพรรคเพื่อไทยด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่แจ้งมาแล้วจะให้ตนไปคิดว่าเขาไม่ทำได้อย่างไร

ส่วนรู้สึกอย่างไรที่เดินทางไปพรรคประชาชนเพื่อเทียบเชิญร่วมรัฐบาลแต่กลับมีคนมาตะโกนไล่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่เป็นไร ตนคิดว่าไม่ใช่พรรคประชาชนเป็นคนทำ เป็นด้อม เป็นผู้สนับสนุน แม้จะยืนอยู่ในพรรคแล้วตะโกนว่ามา ก็เป็นสิทธิ์ เราเป็นบุคคลสาธารณะ เรารับฟังได้ ไม่มีปัญหา ทั้งหมดจะเป็นอย่างไร เหมาะสมหรือไม่ สายตาผู้คนก็เห็นอยู่

ส่วนที่พรรคประชาชนมองว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำตอนนี้ไม่ได้แสดงถึงความจริงใจถึงที่สุด แต่ทำเพื่อดึงเสียงสส.ของพรรคและบางส่วนของพรรคร่วมที่ไปรวมกับภูมิใจไทยกลับมา ซึ่งอาจนำไปสู่การปฏิวัติ หรือยุบสภา นายภูมิธรรมกล่าวว่า อย่าโยนความผิดมาให้พรรคเพื่อไทย คำถามนี้ไม่สร้างสรรค์ ทำไมไม่คิดกลับกันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้มีการให้เวลา ดึงเวลา เพื่อดึงคนพรรคเพื่อไทยออกไป ตนว่าคิดได้ทั้ง 2 อย่าง

ส่วนอะไรจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ตัดสินใจยุบสภา นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยู่ที่สถานการณ์ทางการเมือง อะไรที่ทำให้เกิดเดดล็อกไปไม่ได้ กระบวนการทางประชาธิปไตยมีทางเลือกอีกหลายทาง ตนยังไม่ได้คิดว่าจะยุบสภา จริงๆยังไม่ได้คิดอยู่ในหัวเลย มันมีกระบวนการอยู่แล้ว ยุบสภาเป็นกระบวนการหนึ่ง แต่วันนี้ยังคุยกันว่าจะตั้งรัฐบาลร่วมกัน ส่วนเรื่องอื่นไกลจากสถานการณ์ที่ยังเป็นอยู่.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ชนกัน 10 คันรวดทางลอดอุโมงค์แยกดาราสมุทร จ.ภูเก็ต

ภูเก็ต 23 ก.ย.-รถพ่วง 18 ล้อบรรทุกเสาเข็มเบรกแตก พุ่งชนระเนระนาดในอุโมงค์ดาราสมุทร จ.ภูเก็ต รถเสียหาย 10 คัน บาดเจ็บ 4 คน คนไทย 3 คนและชาวมาเลเซีย 1 คน เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 กันยายน 2568 ศูนย์วิทยุพิทักษ์วิชิตได้รับแจ้งเหตุรถชนกันหลายคันภายในอุโมงค์ทางลอดแยกดาราสมุทร ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต มีรถได้รับความเสียหายจำนวนมากและมีผู้บาดเจ็บ พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิต พร้อมด้วย พ.ต.ท.วุฒิวัฒน์ เลี้ยงบุญจินดา รอง ผกก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบการจราจรติดขัดอย่างหนัก รถไม่สามารถผ่านอุโมงค์ได้ทั้ง 2 เลน เบื้องต้นตรวจสอบพบรถชนกันเสียหายรวม 10 คัน มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย อาการแน่นหน้าอก เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตแล้ว ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า […]

ผลตรวจยืนยัน “น้องข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง โครงสร้างผิดปกติตั้งแต่เกิด

สุพรรณบุรี 23 ก.ย. – ทีมสัตวแพทย์สรุปผลตรวจ “น้องข้าวต้ม” ลูกช้างป่าเพศเมียแรกเกิดที่พลัดหลงจากแม่ในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พบความผิดปกติทางโครงสร้างร่างกายตั้งแต่เกิด เร่งวางแผนการดูแลรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากทีมสัตวแพทย์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าซึ่งร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ตรวจสุขภาพ “น้องข้าวต้ม” อย่างละเอียด โดยผลมีดังนี้ สัตวแพทย์สรุปว่า “น้องข้าวต้ม” มีภาวะโครงสร้างร่างกายผิดปกติตั้งแต่กำเนิดในลูกสัตว์ นอกจากนี้จากภาวะร่างกายที่อ่อนแอ จำเป็นต้องเอาตัวรอด รวมถึงความพยายามช่วยประคับประคองโดยฝูงทำให้เกิดการบาดเจ็บมากขึ้น เบื้องต้นทีมสัตวแพทย์ได้ฉีดยาลดปวดและลดอักเสบให้แล้ว พร้อมวางแผนรักษาตามอาการระยะยาว โดยเน้นการให้อาหารและเสริมโภชนาการควบคู่กับการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ลูกช้างป่าสามารถยืนและเคลื่อนไหวได้ในอนาคต หากอาการไม่ฟื้นตัวดีเท่าที่คาด จะตรวจ X-ray และ Ultrasound ซ้ำอีกครั้ง ลำดับเหตุการณ์การช่วยเหลือลูกช้างป่าตัวนี้ • 21 ก.ย. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงูได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบลูกช้างเพศเมียนอนอยู่เพียงลำพังในสภาพอ่อนแรงและบาดเจ็บที่ขาหลัง จึงรีบประสานทีมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เข้าช่วยเหลือและเคลื่อนย้ายมาดูแลที่ทำการอุทยานฯ โดยเบื้องต้นได้ป้อนน้ำข้าวต้มเพื่อให้พลังงาน […]

กต.ยันบังคับใช้กฎหมายไทยในดินแดนไทย จี้ “เขมร” หยุดปลุกระดม

ก.ต่างประเทศ 23 ก.ย.- กต.ยันบังคับใช้กฎหมายไทยในดินแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน และปฏิบัติตามหลักสากล ใช้ตํารวจควบคุมฝูงชน ไม่ใช่กําลังทหาร จี้ “เขมร” หยุดปลุกระดม-บิดเบือนประชาคมโลก ส่งผลสัมพันธ์ร้าวลึก นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการบังคับใช้กฎหมายไทยต่อพลเมืองกัมพูชา ที่รุกล้ำเข้ามาประท้วงในบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว โดยยืนยันว่า ไทยบังคับใช้กฎหมายภายในของไทยกับบุคคลที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือน ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวของฝ่ายไทยเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักอธิปไตยของรัฐและเป็นไปตามหลักสากลที่ทุกประเทศยอมรับ สําหรับกรณีที่กัมพูชากล่าวหาว่าไทย จงใจบิดเบือนแผนผัง ที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตําแหน่ง หลักเขตแดนที่ 42 และ43 ว่าเป็นเขตแดนจริงนั้นขอเรียนยืนยันว่าฝ่ายไทยไม่เคยระบุ แผนผังดังกล่าวกําหนด เส้นเขตแดนเพราะการเจรจาเส้นเขตแดนอยู่ภายใต้อาณัติ ของกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี ทั้งนี้แผนผังที่ไทยนําแสดงดังกล่าว เป็นเพียงการนําพิกัดหลักเขตแดน ไปทําภาพจําลองเส้นเขตแดน บนแผนที่แบบไม่เป็นทางการเท่านั้นเพื่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไป โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวถึง สําหรับข้อกล่าวหาที่กัมพูชาระบุว่าไทยละเมิดเอ็มโอยู 2543 ว่าด้วยการสํารวจและการจัดทําหลักเขตแดนทางบกนั้น กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาเองที่เป็นฝ่ายละเมิดโดยปล่อยให้มีการสร้างอาคาร บ้านเรือนชุมชนทั้งในเขต พื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์และในเขต ขณะที่เป็นอธิปไตยของไทยซึ่งฝ่ายไทยได้ทําการประท้วงในกรอบเอ็มโอยูแล้วกว่า 500 ครั้ง ในห้วง 20ปีที่ผ่านมาแต่ฝ่ายกัมพูชากลับเพิกเฉยและไม่ยอมแก้ไข ส่วนกรณีที่กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรม ที่บ่อนทําลายความพยายามลดความตึงเครียด ข้อตกลงหยุดยิงนั้น นายนิกรเดช กล่าวย้ำว่าประเทศไทยมุ่งมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง […]

นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว กลัวกลับมาไม่ทันแถลงนโยบาย

ภูมิใจไทย 23 ก.ย. – นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว เหตุเงื่อนเวลาไม่เอื้อ หวั่นกลับมาไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ไม่เสียโอกาสแจงเรื่องอธิปไตย เชื่อชาวโลกรู้ไทยมีนโยบายชัดเจน ยันร่างนโยบายปกน้ำเงินเสร็จแล้ว นำเข้า ครม.นัดพิเศษ พรุ่งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำโลก UNGA ครั้งที่ 78 ว่า ได้มีการหารือกับฝ่ายคนใหม่แล้ว ซึ่งจากการดูเวลา กลัวจะไม่ทันการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ทั้งนี้ก็จะมีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่สำคัญมีเรื่องของอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ด้วย ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ดี มีความคิดเห็นหลากหลาย ทั้งไปได้และไปไม่ได้ แต่ทั้งนี้มีแนวทางที่ชัดเจน ไม่ได้มีการลงนามในข้อตกลง แต่แนวทางของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลนี้เข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นที่เรียบร้อย ก็มีความชัดเจนที่จะบริหารสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างไร ส่วนจะเป็นการเสียโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าความเชื่อมั่นอยู่ที่การจัดการและการได้รับการสนับสนุนจากประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและกองทัพ ซึ่งความเชื่อมั่นอยู่ตรงจุดนี้ ไม่ใช่อยู่ที่เวทีไหน เพราะเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ขณะที่ทุกฝ่ายในบ้านเรามีความพร้อม ประชาชนให้การสนับสนุนนโยบายต่างๆ นโยบายของกองทัพและรัฐบาล นี่ต่างหากคือความเชื่อมั่น ส่วนกรณีที่กฤษฎีกาชี้ว่า หากมีเหตุที่จำเป็น ก็ถือว่าดำเนินการได้ นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่าจำเป็นคืออะไร อย่างสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ไม่จำเป็นจะต้องชี้แจงกับใคร เพราะประชาคมโลกก็รับทราบสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว […]