กรุงเทพฯ 1 มิ.ย. – คนร้ายบุกขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางจากตู้คอนเทนเนอร์กรมศุลกากร ก่อนซิ่งรถหนีชน รปภ.เสียชีวิต 1 คน ล่าสุดตำรวจรวบตัวได้แล้ว 1 คน
เมื่อคืนที่ผ่านมา (1 มิ.ย.) ช่วงตี 1 กลุ่มคนร้ายขับรถตู้เข้าไปงัดและขโขมยของในตู้คอนเทนเนอร์ โกดังสเตเดียมการท่าเรือ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร กลุ่มเจ้าหน้าที่ รปภ. ต่างสกัดจับโดยขี่รถจักรยานยนต์ปิดล้อมประตู ผู้ก่อเหตุแหกด่านออกมา และจอดเปิดประตูด้านหน้าอีกรอบก่อนออกไป แล้วถอยหลังมาชนนายบุญนาค อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ. ที่คร่อมรถจักรยานยนต์อยู่จนเสียชีวิต ตำรวจ สน.ท่าเรือ เร่งสืบไม่ถึง 10 ชั่วโมง ทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุอย่างรวดเร็ว จนสามารถจับตัวได้ 1 ราย คือ นายเบิร์ด
จิตอาสาที่ช่วยดูแลพื้นที่ เล่าว่า ประมาณตี 1 รับแจ้งจากพลเมืองดีที่นอนอยู่ในรถว่าได้ยินเสียงคนงัดตู้คอนเทนเนอร์ จึงรีบแจ้ง รปภ. และมาร่วมช่วย ซึ่งทาง รปภ. ไปปิดประตูทางเข้า-ออก ส่วนตนไปซุ่มดู แต่กลุ่มคนร้ายไหวตัวทันพยายามจะหนี และคนขับรถตู้อ้างว่าเข้ามาจอดรถนอน ระหว่างนั้นตนเอาไฟฉายไปส่องในรถตู้พบกล่องกระดาษสีน้ำตาล 1 ลัง ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้า แต่ถ่ายรูปทะเบียนรถไว้ จู่ๆ คนขับรถตู้ก็ขับรถแหกด่าน รปภ. ที่จอดขวางออกไปด้วยความเร็ว และไปติดตรงประตู รปภ. ปิดไว้ คนร้ายก็ลงมาเปิดประตู แล้วขับออกไป ตอนนั้นมีคนร้าย 2 คน ขึ้นรถไม่ทันก็วิ่งออกไปตามถนน จู่ๆ รถตู้ก็ถอยหลังมาชนนายบุญนาค แล้วขับหนีไป ทิ้งเพื่อนที่วิ่งริมถนนให้แยกไปคนละทาง เพราะคงหันมาเห็นตนจึงไม่ทันจอดรับ ส่วนตัวตนคิดว่ากลุ่มคนร้ายเกลือเป็นหนอน อาจจะเป็นคนงานที่เคยเข้ามาขนของ ที่รู้ว่าของในคอนเทนเนอร์คืออะไร เพราะขนาดตนดูแลที่นี่ยังไม่เคยรู้เลยว่าของในตู้เป็นอะไรบ้าง รู้แค่ว่าเป็นของกลางกรมศุลกากรตรวจยึดเก็บรักษาไว้
ด้านพยานอีก 1 คน ล่าว่า เห็นรถตู้คันต้องสงสัยจอดอยู่คันเดียว ก่อนจะเข้าไปสอบถามและเปิดรถเจอบุหรี่ไฟฟ้า ประแจ อุปกรณ์ตัดตู้คอนเทนเนอร์ ตนพยายามเอาเหล็กตีที่รถตู้จนรถเขาขับหนี ขณะที่รถตู้ขับหนีไปติดที่อีกประตู นายเบิร์ด ซึ่งตนพอจะคุ้นหน้า ก็ลงมากับพวกเพื่อเปิดประตู รถตู้ก็ขับออกไป นายเบิร์ดกับพวกก็วิ่งตามไป ก่อนรถตู้จะถอยกลับมา และขับไปรับพวกที่เหลือ มีบางคนขึ้นไม่ทันก็วิ่งกระจายออกไป
หัวหน้าผลัดรักษาความปลอดภัย เล่าว่า ปกติบริเวณโกดังดังสเตเดียม การท่าเรือ จะปิดประตูรั้วเลื่อนไว้ทั้ง 2 ฝั่ง ไม่มี รปภ.ประจำจุด แต่จะขี่รถลาดตระเวน เมื่อคืนนี้มีการแข่งขันฟุตซอล ทำให้ต้องเปิดประตูไว้ น่าจะเป็นช่องโอกาสให้กลุ่มผู้ก่อเหตุเข้ามา และที่ผ่านมาไม่เคยไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น รู้สึกเสียใจมากที่ต้องเสียลูกน้องที่ดีไป 1 คน
มีรายงานเพิ่มเติมว่า พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยว่าคดีนี้มีผู้ก่อเหตุ 6 ราย ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบวงจรปิดและเส้นทางการหลบหนี โดยพบรถก่อเหตุจอดอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 คาดว่าวันนี้จะได้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด บางคนมีประวัติลักทรัพย์ขณะนี้ตั้ง 6 ข้อหาแล้ว คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันปล้นซับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน สถานที่ราชการ และร่วมกันบุกรุก ส่วนนายเบิร์ด เจ้าของรถ ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และจะมีความผิดหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และกำลังออกหมายจับนายคิง หนึ่งในผู้ก่อเหตุอีกรายแล้ว
นอกจากนี้ตำรวจคุมตัวนายเจ เพื่อนของหนึ่งในกลุ่มก่อเหตุ มาสอบสวน นายเจให้การว่าเมื่อคืนอยู่บ้าน แต่หนึ่งในผู้ก่อเหตุมาหาพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน บอกขอฝากบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งตนไม่ได้ถามว่าเอามาจากไหน แล้วเขาก็ไป จากนี้ตำรวจจะเร่งสอบปากคำนายเจ และอาจแจ้งข้อหาสนับสนุนอำพรางของกลาง ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่ สน. หลังทราบว่าจับผู้ต้อหาได้
ทั้งนี้ กรมศุลกากร ได้เช่าพื้นที่การท่าเรือเพื่อเก็บของกลาง และไม่ได้มีการแปะป้ายบอกถึงสินค้า โดยมีตู้คอนเทนเนอร์ 55 ตู้ เมื่อคืนผู้ก่อเหตุตัดกุญแจตู้ไป 5 ตู้ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเป็นของกลางจากหลายพื้นที่กว่า 2 แสนชิ้น เป็นหลักฐานระหว่างการพิจารณาคดี ส่วนจะเป็นการชี้เป้าหรือไม่ ตำรวจจะสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียด.-สำนักข่าวไทย