สน.ท่าเรือ 4 มิ.ย. – ฝากขัง 5 ผู้ต้องหา บุกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ด้าน ผบก.น.5 เผยคุมตัวคนชี้เป้ามาสอบปากคำอยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่ม
ตำรวจ สน.ท่าเรือ ได้เตรียมรถควบคุมตัวผู้ต้องหามาจอดไว้ที่บริเวณหน้า สน.ท่าเรือ เพื่อเตรียมนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังยังศาล โดยวันนี้จะฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วยนายนรินทร์ หรือเบิร์ด อายุ 46 ปี, นายธนทร หรือจี อายุ 41 ปี, นายภียกร หรือคิง อายุ 27 ปี, นายเอกชัย หรือเอกบอด อายุ 42 ปี, นายสุวัฒน์ หรือเล็ก อายุ 42 ปี ในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และซ่องโจร โดยนายสุวัฒน์ หรือเล็ก ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม คือข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ทั้งนี้จะนำตัวทั้งหมดฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ท้ายคำร้องคัดค้านการประกันตัว
นายคิง เปิดเผยว่า เพิ่งทำครั้งแรก ไม่ขอพูดถึงเรื่องส่วนแบ่ง ยอมรับว่าเต็มใจไปทำเอง ไม่มีใครบังคับ ส่วนนายเบิร์ด ก็ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ทุกคนเข้าใจผิดกัน ตนไม่ได้เป็นลูกน้องของตำรวจตามที่สื่อนำเสนอ เพราะถ้าตนเป็นลูกน้องตำรวจจริงก็คงไม่ต้องมาติดคุกแบบนี้ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีแค่มาทำความสะอาดและซื้อของให้เท่านั้น ไม่ได้ทำงานอะไรที่เกี่ยวกับการสืบสวน ตอนนี้รู้สึกเสียใจ และอยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตเช่นเดียวกับนายเล็กก็ตะโกนออกมาว่า ผมเสียใจครับ
ในระหว่างการฝากขังผู้ต้องหา ก็มีเหตุการณ์ชุลมุน ระหว่างญาติของผู้ต้องหาและญาติของผู้เสียชีวิต ได้มีการด่าทอกันไปมา ก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ซึ่งญาติของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนแค่อยากมาดูหน้าเพื่อนเก่าอย่างนายเบิร์ด และนายคิง ทันทีที่ตนตะโกนเรียกชื่อ ผู้ต้องหา 2 คนนี้ ญาติของผู้ต้องหา ก็ปรี่เข้ามาจะเอาเรื่อง ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมต้องทำกันแบบนี้ เพราะตนมาแค่คนเดียวจะไปทำร้ายใครได้ แค่อยากจะทักทายเพื่อนเก่าก็เท่านั้น รวมทั้งอยากให้ครอบครัวของผู้ต้องหา แสดงความเสียใจหรือแสดงความรับผิดชอบให้มากกว่านี้
ด้าน พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นกับ “นายเล็ก” เพิ่มเติม เนื่องจากอยู่บนรถขณะที่ถอยหลังชนลุง รปภ.เสียชีวิต ซึ่งจนถึงตอนนี้นายแบงค์ ยังอ้างว่าใส่เกียร์ผิดนั้นจนไปชนลุง รปภ. ทำให้เสียชีวิต ส่วนตัวมองว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างไรก็ได้ แต่ค่อนข้างผิดวิสัยกับความเป็นจริง
ส่วนนายสน ที่นายแบงค์อ้างว่า เป็นคนชี้เป้าให้เข้าไปขโมยบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยันว่ามีตัวตนอยู่จริงได้มีการเรียกตัวมาซักถามแล้ว ซึ่งขณะนี้พนักงานสืบสวนกำลังสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนพฤติการณ์มองว่าก็ร่วมกันทำทั้งหมด อย่างนายเบิร์ด ก็เป็นคนตัดกุญแจในที่เกิดเหตุ
ในวันนี้จะฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน ส่วนนายแบงค์ ยังถูกคุมตัวไว้สอบปากคำ เพื่อขยายผลก่อน เพราะยังมีอำนาจในการควบคุมตัว ก่อนจะคุมตัวไปฝากขังในวันพรุ่งนี้
ในส่วนของกรมศุลกากร คาดว่าวันนี้จะต้องเรียกเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเข้ามาให้ข้อมูลกับเรื่องที่เคยถูกขโมยของกลางไปก่อนหน้านี้ เพราะเขามีข้อมูลอยู่แล้วว่าของในโกดังนั้นเท่าไหร่. -419- สำนักข่าวไทย