กทม. 16 เม.ย.-DSI ร่วม สตช. จับกุม “กชพร” สาวโบรกเกอร์ของหมอบุญได้แล้ว หลังหลบหนีจากไทยตั้งแต่ ก.ย.67
ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร.ต.อ.ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว และ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รองผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.เดโช โสสุวรรณากุล รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.กชพร ซึ่งต้องหาว่าร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญาได้ที่สนามบินนานาชาติดอนเมือง โดย น.ส.กชพร เดินทางหลบหนีออกจากประเทศไทย ตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา

ในคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองกิจการอำนวยความยุติธรรม ได้รับโอนสำนวนการสอบสวนคดีอาญาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 มีผู้กล่าวหาและผู้เสียหาย จำนวนกว่า 605 ราย ปรากฏมูลค่าความเสียหาย 16,100,602,806 บาท ได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมอายัดทรัพย์และส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าวไปยังพนักงานอัยการ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 มีความเห็นควรสั่งฟ้องนายแพทย์บุญกับพวก รวม 16 ราย มีผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย หลบหนีไปยังต่างประเทศ
DSI จึงได้แจ้งไปยังองค์การตำรวจสากล หรือ INTERPOL ออกประกาศตำรวจสากลสีแดง หรือ Red Notice ซึ่งก่อนหน้านี้ ในวันที่ 7 เมษายน 2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ฐิติพร ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ของนายแพทย์บุญ เช่นเดียวกันได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
สำหรับ น.ส.กชพร เป็นผู้ต้องหารายที่ 15 ที่ถูกจับกุมตัวในคดีพิเศษที่ 136/2567 มีพฤติการณ์เชิญชวนให้ประชาชนร่วมลงทุนโดยการนำเงินมาให้นายแพทย์บุญ กับพวกกู้ยืม ต่อมาไม่จ่ายผลตอบแทนและไม่คืนเงินต้น จึงเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ติดตามจับกุมตัวนายแพทย์บุญ ที่ยังหลบหนีอยู่เพื่อนำมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย