ตำรวจ CIB เผยผลโหวต 12 คดีดังรอบปี โดนใจ ปชช.

29 ธ.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) มัดรวม 12 คดีดังรอบปี รวบผู้ต้องหากว่า 4 หมื่นคดี โดนใจประชาชน


​ตลอดปีที่ผ่านมาตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) มีการจับกุมคดีและผู้ต้องหาทั้งที่เป็นอาชญากรรมทุกรูปแบบ โดยแต่ละปีพบว่ามีสถิติความเสียหายอย่างต่ำ หลักร้อยถึงหลักพันล้าน บางปีสูงสุดเกือบหมื่นล้าน ในจำนวนนั้นเกินกว่าครึ่งเป็นความสูญเสียที่เกิดจากอาชญากรรมออนไลน์ อย่างปี2567 ได้มีการเผยผลงานการจับกุมคดีทั้งหมดกว่า 41,091 คดี ได้ตัวผู้ต้องหากว่า 43,329 คน ซึ่งในจำนวนนี้ทำให้เกิดความเสียหาย เฉพาะอาชญากรรมออนไลน์ที่แฝงมาในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พบเสียหายร่วม 1,000 ล้านบาท และดูทีท่าความเสียหายยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เริ่มเห็นปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หนักข้อขึ้นทุกวัน มีการคิดกลโกง รูปแบบวิธีการหลอกเหยื่อ โดยอาศัยความรู้สึกพื้นฐานอย่าง รัก โลภ โกรธ หลง เป็นหลัก ในการขยี้ปมจนเหยื่อหลงกล สูญเงินไปเป็นจำนวนมาก พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.จึงยกระดับทีมประชาสัมพันธ์ จากเมื่อครั้งตนเป็นผู้การกองปราบปราบ ขยับเป็นทีมPR. ของหน่วยหลักอย่าง ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สื่อสารกับประชาชนโดยตรง เริ่มทยอยสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อใช้สื่อสารกับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มจาก Fanpage Facebook X (Twitter) , Instagram ,Youtube และล่าสุด Tiktok ที่มียอดผู้ติดตามกว่า 2 ล้าน 4 แสนคน นำมาสู่การได้รับรางวัล TikTok Awards Thailand 2023 สาขา “Social Impact Partner of the Year” : พาร์ทเนอร์ผู้ขับเคลื่อนสังคมดีเด่นแห่งปี และ รางวัลจาก COP MAGAZINE ประจำปี 2023 ที่มอบให้ทีมประชาสัมพันธ์ ตำรวจสอบสวนกลาง โดยเฉพาะหัวหน้าทีมประชาสัมพันธ์ อย่างพ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รองผบก.ปอท. ที่ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่มักจะมีไอเดียเจ๋งๆคอยเป็นแรงผลักดัน และดูแลให้เกิดไอเดียทำรายการที่จะสามารถสื่อสารกับประชาชนได้แบบเรียลไทม์ ชัดเจน และตรงไปตรงมา เกิดเป็นรายการ “CIB ทราบแล้วเปลี่ยน” เป็นการสตรีมมิ่งผ่าน 3 แพลตฟอร์ม FACEBOOK , TIKTOK และ YOUTUBE ทุกวันพุธ เวลา 17.00 น. ซึ่งวันแรกที่รายการออกอากาศมีผู้ชมเพียงหลักสิบ แต่ในระยะเวลาเกือบ 3 ปี ตอนนี้มีผู้ชมต่อครั้งหลักร้อย – หลักพัน


หนึ่งในกิจกรรมที่รายการ CIB ทราบแล้วเปลี่ยนทำมาต่อเนื่องและได้รับความนิยมจากแฟนๆ คือการโหวตคดีเด่น คดีดังในแต่ละเดือน สำหรับผลโหวตของเดือน มกราคม ที่ได้รับจากประชาชน สูงสุด เป็นคดีของ บก.ปปป. ร่วมกับ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “หยุด เถอะ ครับ” รวบ นักร้องชื่อดัง ยกคณะ หลังเรียกเงินจากอธิบดีในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแลกกับการไม่เข้าร้องเรียน โดยอ้างว่าภายในกรมมีเรื่องการทุจริตซุกซ่อนอยู่ แต่ฝ่ายอธิบดียืนยันไม่ได้ทำผิด เหตุใดต้องจ่าย เป็นที่มาของการเข้าแจ้งความกับตำรวจ บก.ปปป.เร่งด่วน นำไปสู่ปฏิบัติการดังกล่าว

ขณะที่คะแนนโหวต เดือนกุมภาพันธ์ ที่ได้รับสูงสุดจากประชาชน คือ บก.ทล. รวบหนุ่มลักลอบขนยาบ้า 3.3 ล้านเม็ดซุกลังน้ำแข็งบรรทุกท้ายกระบะคลุมด้วยผ้าใบ มิหนำซ้ำยังเจออาวุธสงครามและกระสุนครบมือ ผู้ต้องหาสารภาพรับปืนสงครามจากชายแดน จ.หนองคาย ขณะที่รับยาบ้ามาจาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เตรียมส่งต่อ จ.นครศรีธรรมราช ทำมาแล้ว 5 ครั้ง ค่าจ้างต่อครั้งร่วม 100,000 บาท แต่ครั้งนี้ไม่รอดจนมุมถูกตำรวจทางหลวงรวบทันควัน

คะแนนโหวต สูงสุด เดือนมีนาคม คือ บก.ทล. รวบหนุ่มหมายจับติดตัวคลั่ง ปฏิเสธการไม่ให้ตำรวจตรวจสอบบัตรประชาชนก่อนรีบวิ่งขึ้นรถ พร้อมซิ่งเก๋งขับหนี พุ่งชนรถตำรวจทางหลวงยับ ก่อนถูกรวบทันควัน กลางถนน


สำหรับคดีที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสูด ประจำเดือนเมษายน คือบก.ปอท. รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปลอมเว็บไซต์ CIB ก่อนใช้ Elite visa แฝงตัวฟอกเงินในไทย พบเงินหมุนเวียนกว่า 7 หมื่นล้านบาท

คดีโหวตสูงสุดของเดือน พฤษภาคม คือ บก.ปอศ. ที่เปิดปฏิบัติการ CIB Operation Nominee Sweep ล้างบางเครือข่ายนอมินีต่างชาติในภูเก็ต พบรัสเซียร่วมร้อยลักลอบทำธุรกิจที่ไม่ได้รับอนุญาต ถือครองที่ดินมูลค่ากว่าพันล้านบาท

สำหรับคดีที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด ประจำเดือน มิถุนายน คือ บก.ปอศ. ร่วม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดปฏิบัติการตัดตอน “โจรออนไลน์” ตรวจยึดอุปกรณ์ STARLINK กว่า 58 ชุด ที่ใช้ รับ-ส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ต ผ่านดาวเทียม ก่อนส่งข้ามแดนกัมพูชา-เมียนมา

คดีที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดประจำเดือน กรกฎาคม เป็นของ บก.ปอท. ทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ Lock Star รวบนักธุรกิจเบื้องหลังเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังนำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร เชียงราย นนทบุรี ปทุมธานี จนสามารถจับกุมกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเครือข่ายหลอกลงทุนออนไลน์ ไฮบริดสแกม (Hybrid Scam) ตั้งแต่ระดับหัวหน้าที่ควบคุมสั่งการศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และคนที่ดูแลเรื่องฟอกเงินได้ทั้งหมด

สำหรับเดือน สิงหาคม คดีที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด ได้แก่ บก.ป. ที่เปิด “ปฏิบัติการ TAKEDOWN MAFIA Ep.2 ตรวจค้นพร้อมจับกุม 14 จุด ในพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สตูล รวบผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่น รวม 4 คน หลังมีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนสงคราม 3 กระบอก ดักถล่มยิงอย่างอุกอาจ จนมีผู้เสียชีวิต ญาติเครียด หวั่นความปลอดภัย จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบ

ขณะที่เดือน กันยายน เองก็มีคดีที่ได้รับการโหวตสูงสุด คือ บก.ทล. ที่ร่วมกับตำรวจบช.ปส. ที่สามารถสกัดจับยาไอซ์กว่า 250 กก.อัดแน่นในรถบรรทุก คาด่านตรวจทางหลวงสุราษฎร์ธานี โดยผู้ต้องหาสารภาพว่ารับมาจาก จ.เชียงราย เพื่อนำไปส่งยัง จ.สงขลา มีรถเก๋งโตโยต้าเป็นรถนำคอยสอดส่องดูด่าน แต่ไม่รอดพ้นสายตาตำรวจทางหลวง โดนรวบในที่สุด

ขณะที่คดีที่ได้รับผลโหวตจากประชาชน ประจำเดือน ตุลาคม เป็นคดีของ บก.ป. และ บก.ทล. ที่สกัดรถพ่วงขนยาบ้าซุกในตะกร้าผลไม้กว่า 13 ล้านเม็ด ขณะรถคันดังกล่าวเตรียมมุ่งหน้าลงใต้ จากนั้นเตรียมส่งออกต่อประเทศที่สาม

ส่วนเดือน พฤศจิกายน เป็นคดี ของบก.ป. หลังเดินหน้าทำสำนวน รวบรวมพยานหลักฐานจนศาลออกหมายจับ และตำรวจติดตามจับกุมทนายตั้ม พร้อมภรรยา ฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน หลังเจ๊อ้อย เดินหน้าหอบหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจว่าถูกหลอกลวงให้โอนเงินให้ทนายคนดังจำนวนมาก

และล่าสุด คดีประจำเดือน ธันวาคม ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด ได้แก่ คดีที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เปิดยุทธการทลายรังมังกรเทา CIB Nominee sweep ep.2 ตรวจค้น 46 จุดทั่วประเทศ ดำเนินคดีกับนิติบุคคล 442 บริษัท ผู้ต้องหากว่า 1,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวจีนกว่า 250 ราย พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท .-415-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย ย้ำกัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กทม. 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย คุย “ฮุน มาเนต” หยุดยิงเป็นเรื่องแรก และต้องแสดงให้เห็นว่าจริงใจ ยันไม่มีเรื่องแผนที่ 1 : 200,000 พร้อมยึดหลักอธิปไตยและทรัพย์สินของประชาชนเป็นที่ตั้ง และก่อนไปหารือกองทัพแล้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นายภูมิธรรม กล่าวว่าวันนี้จะพบกันในเวลาประมาณ 15.00 น. จะมีการคุยกับนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเป็นการยกระดับการคุยในระดับผู้นำประเทศในระดับนายกรัฐมนตรี โดยมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นโฮส มีผู้เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์2 ประเทศคือสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน […]

มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์

กทม. 28 ก.ค.-มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์ ทหารถือรูปภาพ ข้อความ RIP หวังทำลายขวัญกำลังใจ ยันจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ลูกน้อง ดูแลความปลอดภัยประชาชน ในการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ภายหลังกัมพูชามีการรายงานและเผยแพร่รูปทหารถือภาพของตนเอง พร้อมข้อความ RIP ว่า เป็นข่าวปลอม หวังทำลายขวัญกำลังใจทหารแนวหน้าและคนไทย ยืนยันว่า ปัจจุบันนี้ตนยังต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เจ้าหน้าที่ทหารทุกคนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการปกป้องอธิปไตยของไทยต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และประชาชนมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง พล.ท.บุญสิน ระบุต่อว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อมูล โดยการปล่อยข่าวเท็จ สร้างความสับสนในหมู่ของคนไทย ดังนั้น อยากให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้.-313.-สำนักข่าวไทย

จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเร่งอพยพชาวบ้านกลางดึก

แพร่ 28 ก.ค.-จ.แพร่ น้ำป่าไหลหลากในช่วงกลางดึก พื้นที่ ม.9 และ ม.1 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชน แต่ในระหว่างอพยพ กระแสน้ำไหลเชี่ยว ทำให้ชาวบ้านที่กำลังข้ามน้ำถูกพัดออกไปติดอยู่อีกฝั่ง โชคดีชาวบ้านโยนเชือกช่วยเหลือไว้ได้ทัน ขณะน้ำเมื่อคืนไหลแรงมาก ชาวบ้านเก็บของไม่ทัน มีรถยนต์ ของใช้ที่ได้ถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต สำหรับฝนที่ตกลงมาใน จ.แพร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลห้วยโรง และตำบลไผ่โทน เมื่อเวลา 20.00 น. มีปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด 130 มม. สำหรับแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่บริเวณ Y20 สถานีวัดระดับน้ำบ้านห้วยสักวัดได้ 7.58 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.00 ม. เมื่อตอนเวลา 22.00 น. หากฝนยังคงตกต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำยมสูง อาจส่งผลให้น้ำท่วมระลอกที่ 2 ได้.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำตักบาตรถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สนามหลวง 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” รักษาราชการแทนนายกฯ และภริยา เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร ถวายเครื่องไทยธรรมและผ้าไตรแด่สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ก่อนจะตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์และสามเณร 174 รูป เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568 บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหน่วยราชการในพระองค์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรในครั้งนี้ด้วย จากนั้น เวลา 08.00 น. รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี […]