เลขาฯ ป.ป.ส.เปิดประชุมร่วมผู้ว่าฯ 77 จังหวัด เร่งรัด บำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพทางสังคม

ป.ป.ส. 4 ธ.ค. – พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการติดตามเร่งรัดการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด หรือ ศปก.ครส. เปิดการประชุม ศปก.ครส. ครั้งที่ 1/2567 ร่วมกับคณะที่ปรึกษาของ ศปก.ครส. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ สำนักงาน ป.ป.ส. และผ่านระบบออนไลน์ไปยังศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร


พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และได้มอบนโยบายการแก้ปัญหายาเสพติด ระบุว่าปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยรัฐบาลจะยกระดับการแก้ปัญหายาเสพติดให้เด็ดขาดและครบวงจรมากยิ่งขึ้น ทั้งการตัดเส้นทางลำเลียงยาเสพติด และยึดทรัพย์ของขบวนการค้ายาเสพติดอย่างเด็ดขาด รวมถึงจะแก้ปัญหาบำบัดผู้เสพยาเสพติดเพื่อให้กลับเข้าสู่สังคมได้ โดยรัฐบาลจะขยายผลการแก้ไขปัญหายาเสพติดจาก 10 จังหวัดนำร่อง สู่ทั่วประเทศ โดยคาดหวังให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดสีขาวปลอดจากยาเสพติด ในปี 2568 และจัดการยาเสพติดตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน ตนได้หารือการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2568 และจังหวัดต้นแบบ 12 จังหวัด ได้แก่ 1.น่าน (ท่าวังผาโมเดล) 2.ร้อยเอ็ด (ธวัชบุรีโมเดล) ขยายพื้นที่ต้้นแบบ 10 จังหวัด 1.เชียงใหม่ 2.ประจวบคีรีขันธ์ 3.ระยอง 4.สกลนคร 5.นราธิวาส 6.ปทุมธานี 7.อุทัยธานี 8.นครพนม 9.นครศรีธรรมราช และ 10.ตรัง ร่วมกับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย โดยขอความร่วมมือในการรองรับการขับเคลื่อนดังกล่าว ขณะเดียวกันเห็นว่าความยั่งยืนของการแก้ไขปัญหายาเสพติดอยู่ที่กลไกภาคประชาชนในพื้นที่ที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนมองเห็นเป็นปัญหาร่วมกัน โดยมีกองทุนแม่ของแผ่นดิน ที่พร้อมรองรับการส่งต่อความยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมมุ่งขยายเพิ่มกระบวนการจัดการความรู้ EF เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีภูมิคุ้มกันตั้งแต่เด็ก

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรก ของศูนย์ปฏิบัติการฯ (ศปก.ครส.) โดยจะมีแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เน้นใน 6 จุด ได้แก่ 1.การนำผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ผู้เสพยาเสพติดที่มีอาการทางจิต และผู้ถูกคุมความประพฤติคดียาเสพติด เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพทางสังคม เพื่อไม่ให้กลับไปสู่วงจรยาเสพติดและคืนคนคุณภาพกลับสู่สังคม 2. การสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อยุติแหล่งผลิต และการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติด 3. การปราบปรามนักค้ายาเสพติด ด้วยมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ และใช้มาตรการทางทรัพย์สินเพื่อทำลายโครงสร้างการค้ายาเสพติด 4.การขจัดปัจจัยเสี่ยง/พื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของยาเสพติด ตลอดจนแก้ไขปัญหากลุ่มเสี่ยงกลุ่มเปราะบาง 5.ขยายการมีส่วนร่วมของชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และ 6.การขับเคลื่อนกลไกในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นเอกภาพ ตามการปฏิบัติ 8 เป้าหมายหลักในการดำเนินงาน 47 แนวทางการดำเนินงาน 15 แนวทางการปฏิบัติ และมีตัวชี้วัดที่กำกับการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย 21 ตัวชี้วัด ภายใต้ 5 ตัวชี้วัดหลัก


นอกจากนี้ ยังได้กำหนดพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ตามมาตรา 5(10) เพิ่มเป็น 14 จังหวัด 51 อำเภอ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน ตาก นครพนม หนองคาย บึงกาฬ มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี เลย และกาญจนบุรี สำหรับการประชุมครั้งต่อไปได้กำหนดจะจัดขึ้นในวันพุธที่ 18 ธันวาคม 2567.-119-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน