‘ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง’ ยื่นหลักฐานเพิ่ม เหยื่อดิไอคอนกลุ่มแรก

บช.ก. 24 ต.ค.- ‘ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง’ ยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมของผู้เสียหายคดีดิไอคอน กลุ่มแรก

น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง มายื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมของผู้เสียหายกรณีดิไอคอน กรุ๊ป

น.ส.ชลิดา เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับการประสานจากตำรวจบก.ปคบ. ให้นำเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม เช่น สลิปการโอนเงิน ข้อความแชท ของผู้เสียหายประมาณ 10 คน ที่เป็นผู้เสียหายกลุ่มแรกที่เข้าแจ้งความในคดีนี้เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ผู้เสียหายที่ร้องผ่านตัวเองตอนนี้มีกว่า 2,000 รายแล้ว โดยมีผู้เสียหายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในขณะนี้กำลังรวบรวมผู้เสียหายชาวกัมพูชา เพื่อเข้าแจ้งความเพิ่มเติม

น.ส.ชลิดา เปิดเผยว่า ทั้งนี้ผู้เสียหายมีความกังวลว่าผู้ต้องหาอาจไม่ถูกดำเนินคดี เนื่องจากที่ผ่านมามีกระแสข่าวในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องคลิปเสียงและกรณีเทวดาที่ยังไม่มีความคืบหน้า ทำให้กลุ่มผู้เสียหายรู้สึกกังวล กลัวจะไม่ได้รับเงินคืน แต่ได้แจ้งกับผู้เสียหายว่าต้องเข้าใจการทำงานของตำรวจที่มีระบบขั้นตอน และจะต้องละเอียดรอบคอบรัดกุม อยากให้ผู้เสียหายทุกคนเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอยากให้ระยะเวลากับตำรวจในการทำงาน

สำหรับเรื่องนักร้องที่เป็นกระแสขณะนี้ น.ส.ชลิดา เปิดเผยว่า มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในลิสต์ที่ตกทรัพย์ใคร ยืนยันว่าไม่เคยเรียกรับเงินจากผู้เสียหาย

กรณีที่พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.) มีการเตือนนักร้องให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนมาร้องนั้น น.ส.ชลิดา มองว่าคดีดิไอคอน เป็นคดีที่ใหญ่ แสงเยอะ จึงทำให้มีคนพุ่งชน ซึ่งส่วนตัวมองว่าหลายคนเข้าใจว่าหวังดีอยากช่วยเหลือประชาชนจริง แต่ในมุมส่วนตัวหากมีผู้เสียหายทักเข้ามาจะต้องขอหลักฐานที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบตามมาภายหลัง แต่บางคนอาจจะไม่ทราบ เช่น กรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด อาจจะอยากช่วยผู้เสียหาย แต่คนที่มาแจ้งอาจจะให้ข้อมูลซับซ้อน หรืออาจจะไม่รู้ขั้นตอนทุกอย่าง ต้องคิดว่าเอามาแล้วเป็นประโยชน์หรือไม่ แต่เชื่อว่าเขาไม่ได้จะมีเจตนาทำให้รูปคดีเสียหาย ทั้งนี้อยากให้ทางตำรวจค่อยๆ สอบสวน เพราะเขาอาจจะไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างพยานหลักฐานเท็จ เพียงแค่มีจุดประสงค์ต้องการช่วยเหลือประชาชนเท่านั้น .419 สำนักข่าวไทย