ป.ป.ส.ลุยเผาทำลายยาเสพติด สร้างความมั่นใจ ปชช.

8 ส.ค. – เลขาฯ ป.ป.ส. ลุยเผาทำลายยาเสพติด ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เน้นสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ย้ำรัฐเอาจริง พร้อมเชิญทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม


พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เป็นประธานการทำลายยาเสพติดของกลางของสำนักงาน ป.ป.ส. โดยมี นางสาวเกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ รองประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมผู้แทนคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร Mr.Amit Hillel และ Ms.Noppanat Zeemadee เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานยาเสพติดอิสราเอล ประจำประเทศไทย ร่วมด้วย นายภาคภูมิ เดชหัสดิน เจ้าของเพจหมอแล็บแพนด้า อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง Oppa Thuchy และ Buffet channel ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของกลางในครั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เชิญรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้แทนคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร นักวิชาการ อินฟลูเอนเซอร์ พร้อมสื่อมวลชน เข้าร่วมเป็นสักขีพยานการเผาทำลายยาเสพติดในทุกขั้นตอน เพื่อเป็นตัวแทนของประชาชนในการสร้างความเชื่อมั่นใจและการรับรู้ในวงกว้าง ถึงการดำเนินการต่อยาเสพติดของกลาง ว่าได้ถูกทำลายตามกระบวนการอย่างโปร่งใส พร้อมให้ความมั่นใจกับประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบว่ากระบวนการเผาทำลายยาเสพติดของกลางในครั้งนี้มีระบบควบคุมมลพิษทางอากาศที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม


ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. จัดทำลายยาเสพติดของกลางที่ผ่านการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด ในวันนี้ มีน้ำหนักสุทธิยาเสพติดของกลางรวมกว่า 23.3 ตัน มาจาก 146 คดี ได้แก่ ยาบ้า 18,903 กิโลกรัม (207 ล้านเม็ด) ไอซ์ 2,833 กิโลกรัม คีตามีน 1,086 กิโลกรัม เฮโรอีน 434 กิโลกรัม ยาอี 8 กิโลกรัม และยาเสพติดอื่น ๆ น้ำหนักรวมกว่า 41 กิโลกรัม ซึ่งการทำลายยาเสพติดของกลางภายใต้รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ 17 กันยายน 2566 ถึง ปัจจุบัน (8 ส.ค.67) ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ดำเนินการมาแล้วทั้งสิ้นรวม 5 ครั้ง น้ำหนักสุทธิยาเสพติดของกลางรวม 344.49 ตัน รวม 878,195 คดี (เฉพาะยาบ้ารวม 2,277 ล้านเม็ด) โดยส่วนของสำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการทำลายยาเสพติดของกลางรวม 4 ครั้ง (รวมครั้งนี้) จำนวนยาเสพติดของกลางที่ดำเนินการเผาทำลาย รวมทั้งสิ้น 364 คดี น้ำหนักสุทธิยาเสพติดของกลางรวม 86.75 ตัน (เฉพาะยาบ้า 656 ล้านเม็ด)

ด้านเลขาธิการ ป.ป.ส. ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ถึงการดำเนินการเผาด้วยเตาเผาขยะอันตรายอุณหภูมิสูงกว่า 1,200 องศาเซลเซียส ที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ โดยคณะกรรมการตรวจรับยาเสพติดของกลางของสำนักงาน ป.ป.ส. คณะทำงานทำลายยาเสพติดของกลางด้านตรวจรับ คณะทำงานทำลายยาเสพติดของกลางด้านขนย้าย รักษาความปลอดภัย และทำลาย และคณะทำงานทำลายยาเสพติดของกลางด้านประชาสัมพันธ์ ได้ร่วมกันดำเนินการตรวจรับยาเสพติดของกลางที่ผ่านการตรวจพิสูจน์แล้ว ตรวจสอบชนิด และปริมาณยาเสพติดของกลางที่จะทำลาย ลักษณะของหีบห่อที่บรรจุยาเสพติดของกลางทั้งหมด โดยมีการควบคุมและรักษาความปลอดภัยระหว่างการขนย้ายยาเสพติดของกลางตลอด 24 ชั่วโมง ณ สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด (สวพ.) สำนักงาน ป.ป.ส. (ทุ่งสองห้อง) ดำเนินการขนย้ายมายังบริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีมาตรการดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง และหลังจากนั้นผู้แทนจากพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรปราการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. จะร่วมสุ่มตัวอย่างยาเสพติดของกลาง เพื่อตรวจพิสูจน์เบื้องต้นด้วยวิธี Color’s test ก่อนไปยังเตาเผา ซึ่งเป็นการดำเนินการเผาทำลายยาเสพติดของกลางตามที่กำหนด หลังจากการเผาทำลายแล้วเสร็จ วันที่ 9 สิงหาคม 2567 คณะทำงานทำลายยาเสพติดของกลางด้านขนย้าย รักษาความปลอดภัย และทำลาย จะร่วมกันตรวจสอบความเรียบร้อย พร้อมเก็บตัวอย่างขี้เถ้าจากการเผาทำลายเพื่อส่งตรวจพิสูจน์เพื่อยืนยันว่ายาเสพติดของกลางทั้งหมดถูกทำลายไปแล้วจริงๆ. -119-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]