“บู๊” อ้างสาเหตุลักทรัพย์ “แจ๊ส” เพราะโกรธ ไม่ออกมาปกป้อง

กทม. 22 มิ.ย. – “บู๊” อ้างสาเหตุลักทรัพย์ “แจ๊ส ชวนชื่น” จากสาเหตุขุ่นเคือง “แจง-แจ๊ส” ไม่ออกมาปกป้อง ปล่อยให้ตนกลายเป็นคนเสพยาอาละวาดในสายตาญาติพี่น้อง ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ด้านพนักงานสอบสวน เตรียมฝากขังจันทร์นี้ (24 มิ.ย.)


12.36 น. พันตำรวจตรี ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สารวัตรสืบสวน กองกำกับการ 3 กองบังคับการ สืบสวนสอบสวนนครบาล หรือสารวัตรแจ๊ะ พร้อมชุดจับกุมคุมตัว “บู๊” พี่ภรรยา แจ๊ส ชวนชื่น ส่ง สน. มีนบุรี พื้นที่เกิดเหตุ ไปดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน

โดยในระหว่างเดินทางมาถึง สน.มีนบุรี สื่อมวลชนได้สอบถาม “บู๊” ถึงสาเหตุการก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า ในระหว่างก่อเหตุไม่ได้เสพสารเสพติดแต่อย่างใด แต่ยอมรับมีปัญหา กับน้องสาวและน้องเขยจริง และโกรธที่ทั้งคู่ไม่ยอมพูดความจริงบางเรื่องราว หากสื่ออยากรู้ว่าเรื่องอะไร ให้ไปถาม “แจง” น้องสาวดู


สื่อมวลชนถามว่าทำไปเพราะอิจฉาริษยาน้องสาวทีมีชีวิตดีขึ้นและดีกว่าตัวเองใช่หรือไม่ “บู๊” ระบุ ไม่ได้อิจฉาริษยาที่น้องสาวมีชีวิตที่ดีขึ้นแต่อย่างใด แต่มันเกิดจากความโกรธเคืองจนมีเรื่องบาดหมางกับญาติพี่น้องบางคน แต่แจงน้องสาวและแจ๊ส น้องเขยไม่ยอมออกมาปกป้องตน ปล่อยให้ตนต้องตกอยู่สภาพคนติดยา ขี้เหล่าเมา อาละวาด ในสายตาของสังคม ของคนรอบข้าง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ ตนไม่ได้ติดยา

เมื่อสื่อถามว่าโกรธที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ “บู๊” ระว่าไม่รู้สึกโกรธเคืองอะไร และไม่มีอะไรต้องขอโทษน้องสาวและแจ๊ส น้องเขย แต่บู๊กลับนิ่งเฉยไม่ตอบคำถามสื่อว่า หลังพ้นโทษจะออกมาคุกคามน้องทั้งสองอีกหรือไม่

ด้านพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ระบุเบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เตรียมควบคุมตัวบู๊ ฝากขังต่อศาลอาญามีนบุรี ในวันจันทร์ เวลา 9.00 น. ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล


อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า แจ๊ส ชวนชื่น จะเปิดแถลงข่าว ขอบคุณสืบนครบาลและเปิดเผยความรู้สึกเรื่องดังกล่าว ในอีก 4 วันข้างหน้า โดยในวันนี้ยังไม่สะดวก ปล่อยให้หน้าที่ของตำรวจจัดการไปตามอำนาจ.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี