นครสวรรค์ 6 ม.ค. – สืบนครบาล บุกรวบ “โอ๊ตหนองอีเติ่ง” ขายปืนเถื่อนซุกในขนมปี๊บ อ้างทำกันทั้งหมู่บ้าน ส่งลูกค้าทั่วประเทศ
ตำรวจชุดสืบนครบาลบุกเข้าจับกุมนาย นภัสกร หรือ “โอ๊ตหนองอีเติ่ง” อายุ 23 ปี พ่อค้าขายอาวุธปืนเถื่อนทางโซเชียล ได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใกล้หมู่บ้านหนองอีเติ่ง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ หลังซุ่มสังเกตการณ์ในป่าละเมาะข้างทาง มากว่า 2 วัน โดยตำรวจจับตาตั้งแต่ นายนภัสกรเดินออกจากบ้านก่อนขับรถกระบะออกจากหมู่บ้าน ชุดสืบสวนขับรถติดตามกระทั่งพบว่าชายต้องสงสัยขับรถไปส่งพัสดุ น่าจะเป็นอาวุธปืนเถื่อน จึงนำกำลังปิดล้อมก่อนเข้าชาร์จรวบตัวทันที
ตอนแรกผู้ต้องหาอ้างว่ามาส่งขนม แต่เมื่อเปิดปี๊บขนมและเทของออกมา พบปืนไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก ซุกซ่อนปะปนอยู่กับขนม จึงยอมรับสารภาพ พร้อมให้เบาะแสที่ทำให้ชุดสืบสวนต้องอึ้ง โดยบอกว่าไม่เพียงแต่บ้านของตน แต่ทั้งหมู่บ้านหนองอีเติ่ง ก็ทำปืนเถื่อนขายกันเกือบทั้งหมู่บ้าน บางคนเลิกทำไปแต่เมื่อรายได้ไม่พอก็กลับมาทำใหม่วนไปแบบนี้ ส่วนจะทำมาตั้งแต่สมัยไหนไม่ทราบ แต่เมื่อตนจำความได้หมู่บ้านตนก็เป็นเช่นนี้แล้ว โดยสมัยก่อนยังไม่มีระบบขนส่ง ลูกค้าจะมารับแบบชนมือ บริเวณถนนนอกหมู่บ้าน แต่ปัจจุบันใช้การส่งผ่านระบบขนส่งพัสดุ โดยที่หมู่บ้านลักลอบทำได้มาเป็นเวลานานเพราะรู้ระบบ โดยจะคอยดูข่าว เมื่อใดมีการสั่งระดมกวาดล้างปืนเถื่อนก็จะหยุดขายในห้วงนั้น เวลามีคนแปลกหน้าเข้ามาก็จะมีคนคอยแจ้งเตือน ก็จะหลบเอาของกลางไปซ่อน เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาตรวจก็จะไม่พบอะไร ทั้งยังส่งออกทั่วประเทศ
เบื้องต้นถูกดำเนินคดีข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้อนุญาต จำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณโดยไม่มีเหตุสมควร พร้อมนำตัวและข้องกลางส่ง สภ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ดำเนินคดี
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ เป็นผลจากการขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ค้าปืนเถื่อนมาก่อนหน้านี้หลายราย และฝากเตือนผู้ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ มีความผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ผู้ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายมีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท” .-สำนักข่าวไทย
