“ทนายตั้ม” ให้ปากคำเพิ่ม-มอบหลักฐานสำคัญแก่ ปปป. ปมขบวนการรับส่วย

กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – “ทนายตั้ม” รุดให้ปากคำ พร้อมมอบหลักฐานสำคัญ 175 รายการ ให้ตำรวจ ปปป. ประเด็นขบวนการรับส่วย โยงบิ๊กตำรวจพัวพันบัญชีม้าตัวเป้ง หลัง “บิ๊กต่อ” สั่งทีมกฎหมายถอนฟ้องหมิ่นฯ แย้มวันจันทร์ (1 เม.ย.) ยังเดินหน้าเอาผิดฟอกเงิน “บิ๊กต่อ-ภรรยา-2 บัญชีม้า” ส่วนช่วงบ่ายเตรียมเข้าหารือ “ชัยธวัช” วิปฝ่ายค้าน มอบพยานหลักฐาน แจงไม่มองว่าเป็นการให้ข้อมูลฝ่ายค้านซักฟอกรัฐบาล ติงนายกฯ ควรจัดการปัญหา อย่านิ่งเฉย


จากกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจในการดำเนินคดีและแถลงข่าวชี้แจงของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ออกมาเปิดเผยว่า ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ถอนฟ้องทนายตั้ม หรือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เพื่อเปิดทางให้ทนายตั้มได้ใช้สิทธิในกระบวนการยุติธรรมและเดินหน้าตรวจสอบเต็มที่

ต่อมาทนายตั้ม ระบุว่า ในสัปดาห์นี้เตรียมเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน เพื่อดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. นางนิภาพรรณ หรือมาดามกุ๊กไก่ ภรรยา และบัญชีม้า 2 ราย คือ นายคชาชาญ และนายณัฐพงษ์ ในฐานความผิดร่วมกันฟอกเงิน เนื่องจากพบพยานหลักฐานว่าในช่วงปี 2566 มีเส้นทางการเงิน 2 รายการ จาก 2 บัญชีม้าดังกล่าว ทำธุรกรรมโอนเงินทำบุญกับวัดนครอินทร์ จ.นนทบุรี ได้แก่ ยอดเงิน 700,000 บาท และยอดเงิน 100,000 บาท ภายหลังพบว่าประธานหรือผู้อุปถัมภ์การเป็นเจ้าภาพคือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. อีกทั้งในช่วงนั้นทางวัดยังได้โพสต์กล่าวขอบคุณ ผบ.ตร. ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “วัดนครอินทร์ Wat nakhonin” ในการบริจาคทั้งสองยอด จึงเป็นเหตุให้ทนายตั้มตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงด้วยกันตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น


เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (31 มี.ค.) ที่ชั้น 16 บก.ปปป. อาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บข.ก.) ถ.พหลโยธิน (ข้างแดนเนรมิตรเก่า) “ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เปิดเผยก่อนเข้าให้ปากคำในฐานะผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับคณะพนักงานสอบสวน ว่า วันนี้ตนเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน โดยนัดหมายกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ซึ่งประเด็นที่มีการให้ปากคำในวันนี้จะเกี่ยวกับหลักฐานที่เคยยื่นในวันนั้น แต่วันนี้ตนมาให้การเพิ่มเติม และให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ตนได้ระบุอย่างละเอียดในคำให้การ และให้ตรวจสอบหลักฐานการโอนเงินว่าเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับไหนบ้าง ตั้งแต่ระดับชั้น พ.ต.อ. ชั้นประทวน ไปจนถึงระดับชั้น พล.ต.อ. นอกจากนี้ ในวันจันทร์นี้ (1 เม.ย.) ตนจะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ภรรยา ของ ผบ.ตร. และบัญชีม้า 2 ราย ที่ สน.เตาปูน ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ตามที่เคยนัดหมายไว้

ส่วนเรื่องคลิปวิดีโอเสียงสนทนาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 ราย ซึ่งตนได้โพสต์ลงเพจตัวเองนั้น ทนายตั้ม ระบุว่า เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ส.ค. 65 และเป็นการพูดคุยกันของชุดทีมแม่บ้านตำรวจคอมมานโด และตำรวจ ปคม. ในการเก็บส่วยคาราโอเกะย่านลาดพร้าว ซึ่งปกติทาง ปคม. เก็บอยู่แล้ว อัตราร้านละ 1,000 บาท 3 ร้านก็ 3,000 บาท แต่ภายหลังมีตั๋วคอมมานโดเพิ่มเข้ามา ขอให้เก็บอย่างน้อยร้านละ 500 บาท รวมเป็น 4,500 บาทต่อร้าน

สำหรับประเด็นที่จะเข้าให้การกับพนักงานสอบสวนนั้น ทนายตั้ม ระบุว่า เรื่องมันเกิดขึ้นมาจากบัญชีม้าของ น.ส.พิมพ์พิไล ที่ถูกจับกุมในคดีเว็บพนัน BNK Master และเว็บพนัน VENUS Master รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับดาบยาว หรือ ด.ต.อภิชาติ สังกัด กก.1 บก.สอท.2 และรองฟาง หรือ พ.ต.ท.สุรกุล รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าว บก.สอท.2 สองตำรวจไซเบอร์ ลูกน้องคนสนิทของ ผบ.ตร. เรื่องการรับเงินจากเว็บพนัน และเรื่องเส้นทางการเงินตามที่ตนได้เคยเผยแพร่ไว้ วันนี้ตนมาให้การเพื่อไปสู่การตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงิน และเลขบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ปรากฏในรูปของสำนวนคดี


กรณีการที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้สั่งทีมกฎหมายถอนแจ้งความหมิ่นประมาทฯ มองอย่างไรนั้น ทนายตั้ม ระบุว่า วานนี้ (30 มี.ค.) ตนปากไวไปหน่อยที่พูด ณ วัดนครอินทร์ จ.นนทบุรี แล้วไปพูดว่าจะไปขอหมายศาลเรียกเอกสาร เช่น รายการเดินบัญชี (Statement) พวกเขาคงกังวลว่าตนจะไปเรียกเอกสารสำคัญอะไรมาเลยมีการไปถอนฟ้อง ทำให้ตนไม่สามารถเรียกเอกสารอะไรโดยใช้หมายศาลได้ แต่ไม่เป็นไร ตนได้ระบุกับตำรวจไปแล้วว่าจะมีการเรียกทุกอย่างที่ได้มีการขอไป

อย่างไรก็ตาม การไปถอนฟ้องของคู่กรณีที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้ไปขอให้เขาถอนฟ้อง ไม่เกี่ยวกับการต่อรองอะไรกัน ดังนั้น การที่เขามาฟ้องเองแล้วถอนฟ้องเองก็เป็นสิทธิของเขา แต่เราจะดำเนินการต่อไปตามที่ได้นัดหมายไว้สองเรื่องคือ ดำเนินคดีกับตำรวจ และเรื่องส่วยที่มันสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนทุกหย่อมหญ้า ตนต้องเรียกร้องให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จัดการ อย่านิ่งเฉย เพราะทุกคนรู้เรื่องกันหมด เพราะเป็นผู้นำรัฐบาลแต่ไม่คิดมาแก้ไขอะไรเลย ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่มีดีลลับ รับรองเลยว่าที่นัดหมายทุกคนไว้ว่าพรุ่งนี้จะแจ้งความก็จะไปแจ้งตามเดิม ถ้ามีดีลลับคงไม่ไปแจ้งความ

ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ประสานมาขอหลักฐานเผื่อจะช่วยอะไรได้ ซึ่งตนเห็นถึงความตั้งใจของผู้นำฝ่ายค้าน วันจันทร์นี้ (1 เม.ย) ช่วงเวลา 14.00 น. ตนจะไปพบนายชัยธวัช ที่รัฐสภา เพื่อให้ท่านดูหลักฐานต่างๆ ส่วนมันจะไปเชื่อมโยงกับการอภิปรายแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ในวันที่ 3-4 เม.ย.นี้หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบว่าเขาจะอภิปรายเรื่องอะไรกันบ้าง แต่ถ้าข้อมูลของตนเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ตนก็พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย ไม่ว่าฝ่ายของรัฐบางหรือฝ่ายค้าน แต่เพราะว่าทางหัวหน้ารัฐบาลเขาไม่ได้สนใจเรื่องส่วย ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้านเขาสนใจ จึงประสานตนในเรื่องที่เคยแถลง

ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า สำหรับในเรื่องของความปลอดภัยในวันนี้ยังไม่มีใครมาขับขี่ตามรถของตน แต่ตนก็ยังต้องระมัดระวัง ตนไปเล่นกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีนายตำรวจมากกว่า 100,000 ราย

ทั้งนี้ เมื่อให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ทนายตั้มได้เดินมายังบริเวณด้านหน้าศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยมี พ.ต.ท.พงศ์ปณต บัวแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปปป. ดำเนินการสอบปากคำ และทนายตั้มได้ยื่นเอกสารหลักฐานเรื่องส่วย รวมทั้งหมด 175 รายการ.-114-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทะลักด่านคลองลึก หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา

สระแก้ว 24 มิ.ย. – วุ่นเล็กน้อย วันแรกปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ชาวไทย-กัมพูชาที่ตกค้าง ต่างเร่งรีบเดินทางกลับให้ทันกำหนดเวลา 20.00 น. หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา วันนี้วันเดียว ส่วนนักเรียน-นักศึกษา ยังคงผ่านแดนได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

‘อนุทิน’ ยัน 69 สส.ภูมิใจไทย ยังอยู่ครบ หลังถูกแรงดูด

ภูมิใจไทย 24 มิ.ย. – ‘อนุทิน’ ยัน 69 สส.พรรคภูมิใจไทยยังอยู่ครบ หลังถูก ‘แรงดูด’ ยังอุบเป็นพรรคไหน เผยหลังเป็น ‘ฝ่ายค้าน’ ชาวบ้านชมตัดสินใจถูกต้อง อัดกลับไม่ควรใช้วิธีสกปรก หลังเจอใส่ความ ‘น.หนู’ เบื้องหลังจัดม็อบ-ปล่อยคลิปเสียงหลุด ขอเคลียร์ไม่เคยชวนใครตามออกมา ย้อนถามกลับ ‘พรรคอนุรักษ์นิยม’ คืออะไร นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวมีสส.ของพรรคถูกดูด หลังออกมาทำหน้าที่ฝ่ายค้านว่า สส.ของพรรคยังอยู่ครบทั้ง 69 คน แต่ที่ทราบมาก็มีแรงดูด แต่ก็ดูดไม่ได้ โดยสส.ที่ได้รับการติดต่อมาก็เล่าให้ฟัง ทุกคนยืนยันว่าไม่ได้ไปไหน และไม่เชื่อถือในระบบการเมืองที่มีการดูดสส.กัน ถือว่าเป็นเรื่องดีที่พรรคยึดถือการเมืองรุ่นใหม่ เมื่อถามว่า เขาดูดด้วยอะไร นายอนุทิน กล่าวว่า ก็มีเงื่อนไขอะไรต่างๆหลายอย่าง เมื่อถามว่า เป็นพรรคแกนนำ หรือพรรคร่วมรัฐบาลที่มาดูด นายอนุทิน กล่าวว่า อย่ามาพูดตรงนี้เลย ถ้ามาพูดตรงนี้เดี๋ยวคราวหลังเขาไม่เล่าให้ฟัง เมื่อถามว่าหลังกรณีเกิดคลิปเสียงหลุดระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ชาวบ้านสะท้อนอย่างไรบ้าง หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย […]

รวบทันควันหนุ่มชิงทอง 25 บาท กลางห้างดังหาดใหญ่

สงขลา 24 มิ.ย. – ตำรวจรวบทันควันหนุ่มชิงทอง 25 บาท ร้านทองในห้างดังกลางเมืองหาดใหญ่ อ้างเดือดร้อนเรื่องเงิน ครอบครัวมีหนี้สิน ตำรวจสายตรวจ สภ.หาดใหญ่ ออกตรวจพื้นที่ สามารถจับกุมชายวัย 35 ปีไว้ได้ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 5 เส้น มูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท หลังบุกเดี่ยวชิงทองภายในห้างกลางเมืองหาดใหญ่ และวิ่งข้ามถนนหนีเข้าไปในซอยใกล้เคียง ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายสวมเสื้อฮู้ดคลุมศีรษะเข้ามาก่อเหตุ และไม่ได้ทำร้ายพนักงานร้านทอง เจ้าตัวอ้างว่ากำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน และครอบครัวมีหนี้สิน วันนี้ต้องหาเงินให้ได้ จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว เจ้าหน้าที่คุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.หาดใหญ่.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ รับ ครม.ใหม่ลงตัวแล้ว ยันไม่ควบเก้าอี้ กห.

ทำเนียบ 24 มิ.ย.- นายกฯ ยอมรับคณะรัฐมนตรีใหม่ลงตัวแล้ว ส่งรายชื่อรัฐมนตรีบางส่วนตรวจสอบคุณสมบัติ ยืนยันไม่ควบเก้าอี้กลาโหมแน่นอน มองต้องเป็นคนเหมาะสมดูแลเรื่องชายแดนได้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้มีความลงตัว โดยได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนแล้ว หลังจากนี้จะส่งรายชื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งบางรายชื่อไปตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว เมื่อเรียบร้อยแล้วก็จะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายตามขั้นตอนต่อไป พร้อมยืนยันปัญหาของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้นจบแล้ว ส่วนกระแสข่าวนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กดดันให้ตนเองลาออกนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งได้พูดคุยกันตามปกติ รวมถึงได้พูดคุยกันที่โรงแรมโรสวูด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ยืนยันทุกพรรคร่วมรัฐบาลให้การสนับสนุน และให้กำลังใจ ทำให้ผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนหลังจากนี้จะมีเสียงใครมาเติมให้รัฐบาลหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ขณะนี้เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลยังแข็งแรงอยู่ ขณะที่กระทรวงกลาโหมจะมีปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอยังไม่เปิดเผยรายชื่อ ไว้ได้ข้อสรุปสุดท้ายแล้วจะบอกอีกครั้ง พร้อมยืนยันตนเองจะไม่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแน่นอน สำหรับสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ ยึดหลักการอะไรในการวางบุคคลที่จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกกระทรวงต้องรับมือให้พร้อม เพราะไม่ได้เกิดขึ้นกับกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แต่ต้องช่วยกันอย่างบูรณาการ จึงต้องเป็นคนที่สามารถดูแลเรื่องนี้ได้ ซึ่งทุกวันนี้มีนายภูมิธรรม เวชยชัย […]