สาวร้อง “บิ๊กโจ๊ก” ล่าตัวหนุ่มอเมริกันหลอกให้รัก แอบถ่ายคลิปไปขาย

กทม. 8 ม.ค. – สาวร้อง “บิ๊กโจ๊ก” ล่าตัวหนุ่มอเมริกันที่รู้จักในแอปหาคู่ หลอกให้รัก ซ้อมทำร้าย ลักทรัพย์ ข่มขู่คุกคาม แอบถ่ายคลิปไปขาย ด้านตำรวจเตือนภัยสาวไทยหาคู่ในแอป ตรวจสอบให้รอบคอบ ระวังตกเป็นเหยื่อ


เวลา 10.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาหญิงสาว 1 ใน 3 ราย เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังถูก หนุ่มอเมริกันล่าแต้มในแอปฯ หาคู่ หลอกคบหาสร้างฝันมีครอบครัวที่อบอุ่น ก่อนมีความสัมพันธ์แอบถ่ายคลิป ซ้อมทำร้าย ลักทรัพย์ ข่มขู่คุกคาม และเอาคลิปไปเผยแพร่ขายในกลุ่มต่างๆ โดยขอให้ติดตามตัวหนุ่มอเมริกันรายนี้มาดำเนินคดี เพราะถือเป็นภัยร้ายของผู้หญิง หวั่นเอาคลิปสาวๆ ไปขายกลุ่มลับ คาดยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายไม่กล้าออกมาแจ้งความ 

ผู้เสียหายเล่าว่า รู้จักนายโทมัส อายุ 34 ปี อ้างเป็นทหารปลอดประจำการ ผ่านทางแอปหาคู่ เมื่อ 6 ธันวาคม มีการใช้ภาพเป็นทหาร หน้าตาดี เข้ามาพูดคุย อยากสร้างครอบครัว และ อนาคตด้วย จึงขอแต่งงาน แต่ยังไม่ตัดสินใจ จึงคบหาเป็นแฟนกัน และเคยไปพบฝ่ายชาย ที่บ้านเช่าย่านนนทบุรี แต่ระหว่างคบหากัน พบฝ่ายชายมีอารมณ์ร้อน ถูกทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง จนสุดทน เมื่อขอเลิกก็ถูกทำร้ายร่างกาย กระทั่งโทรไปขอให้ตำรวจ สภ.บางใหญ่ มาช่วยเหลือ นอกจากนี้ฝ่ายชายยังได้เอาโทรศัพท์มือถือของเธอไป แต่ไม่แน่ใจว่ากรณีของเธอถูกแอบถ่ายคลิปไว้ขาย เหมือนกับผู้เสียหาย 2 รายก่อนหน้านี้หรือไม่ หลังเกิดเหตุไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายโทมัสในข้อหาทำร้ายร่างกาย ที่ สภ.บางใหญ่ ทั้งนี้ นายโทมัสจะเน้นหลอกผู้เสียหายเป็นสาวที่อยู่ในประเทศแถบเอเชีย มีการศึกษาดี หน้าตาดี และฐานะดี


นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังเล่าถึงผู้เสียหายรายอื่นอีก 2 ราย ที่ถูกกระทำคล้ายกัน เพราะหลังเกิดเหตุ ได้รวมกลุ่มผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในทวีปเอเชีย ซึ่งผู้เสียหายรายแรก ถูกนายโทมัสหลอกลวงผ่านแอปฯ หาคู่ เช่นเดียวกันในปี 2565 โดยนายโทมัสเดินทางมาที่ประเทศไทยช่วงเดือนเมษายน และคบหากัน 4 เดือน ผู้เสียหายได้เช่า โรงแรมย่านพระโขนง และระหว่างนั้นนายโทมัสได้ทำร้ายพร้อมถ่ายคลิปไว้ ก่อนนำไปประจานผ่านทางโซเชียล ด้วยการสร้างแอคเคาท์ปลอม และส่งคลิปไปยังกลุ่มต่างๆ โดยผู้เสียหายรายที่ 2 ก็ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน แต่รายนี้ถูกหลอกให้จดทะเบียนสมรสด้วย และยังถูกขโมยสร้อยคอทองคำน้ำหนักสองสลึงไปด้วย จึงได้แจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจและพยายามขอฟ้องหย่า ทำให้นายโทมัสไม่พอใจและเอาคลิปไปประจานในพื้นที่ส่วนตัวและที่ทำงาน ทำให้ต้องย้ายไปอยู่ที่ภูเก็ต นอกจากนี้ยังพบผู้เสียหายที่เป็นชาวต่างชาติ เช่น ชาวอินโดนีเซีย และญี่ปุ่น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คนร้ายจะใช้แผนประทุษกรรมเดิมๆ ในลักษณะคล้ายกับแก๊งโรแมนสแกม หลอกให้รักออนไลน์ กรณีนี้เป็นการรู้จักกันผ่านทางแอปหาคู่ เนื่องจากรู้จุดอ่อน กลุ่มคนที่อยู่ในแอป เป็นคนโสดและต้องการผู้ชายมาดูแล มีการสร้างสตอรี่ต่างๆ หลอกสร้างอนาคต หลอกมีความสัมพันธ์ ถ่านคลิปไปขายในเว็บโป๊ ล่าสุดมีรายงานว่านายโทมัส เดินทางออกนอกประเทศแล้ว ปลายทางที่เวียดนาม ตั้งแต่เมื่อวานนี้ จึงสั่งการให้ตำรวจ สภ.บางใหญ่ เร่งรัดในการออกหมายจับ พร้อมประสานอินเตอร์โพลในการล่าตัวมาดำเนินคดี ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เฝ้าระวังการเดินทางเข้าของนายโทมัส หากพบตัวให้จับกุมทันที พร้อมเตือนภัยสาวไทย ให้ตรวจสอบประวัติของชายหนุ่มที่รู้จักกันผ่านแอปหาคู่ ให้ดีก่อนตัดสินใจคบหากัน เพราะอาจตกป็นเหยื่อถูกหลอก ถูกถ่ายคลิปไปประจานเพื่อเรียกร้องทรัพย์สิน หรือถูกนำคลิปแบล็กเมลไปขายในช่องทางต่างๆ

ทั้งนี้ จากการตรวจประวัติ พบนายโทมัส เดินทางเข้าออกไทยตั้งแต่ปี 2565 ใช้วีซ่าท่องเที่ยว เฉลี่ยเดินทางเข้าออกไทย ปีละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 15 วัน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมที่สหรัฐ พบว่ามีประวัติลักทรัพย์. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับรถขนส่งยาบ้า 10 ล้านเม็ด คนขับงง! ใบรายการระบุสินค้าลำโพงขนาดใหญ่

30 มิ.ย. – จับรถบรรทุก 6 ล้อ ขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกซ่อนในลำโพง คนขับเผยเป็นพนักงานขับรถบริษัทขนส่ง บริษัทส่งรายการให้ไปรับสินค้าที่ อ.เวียงสา จ.น่าน นำไปส่งที่ จ.ลพบุรี ใบรายการระบุสินค้าลำโพงขนาดใหญ่ ด้าน รอง ผบช.ภาค 5 สั่งขยายผลตามหาผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงตรวจสอบผู้ว่าจ้าง ที่ด่านตรวจเอกซเรย์ยาเสพติด ม.4 ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ พ.ต.ท.ทัตเทพ โชติเดโชชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการประจำด่านตรวจ ตรวจค้นรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนมหาสารคาม ขับเข้าด่านตรวจ โดยมีนายคำวัง ชาวมหาสารคาม เป็นคนขับ หลังตรวจเอกซเรย์แล้วพบสิ่งของต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงค้นพบเป็นลำโพงขนาดใหญ่ มีผ้าใบคลุมมิดชิด ปรากฏว่าภายในลำโพงซุกซ่อนกระสอบบรรจุยาบ้าเม็ดสีส้ม มีสัญลักษณ์ wy จำนวน 1,000 ห่อ แต่ละห่อมียาบ้า 10,000 เม็ด รวมยาบ้ามากถึง 10,000,000 เม็ด คนขับรถให้การว่า […]

เพลิงไหม้หอพักพยาบาล รพ.ศิริราช

กทม. 29 มิ.ย. – เพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว ช่วยผู้ติดค้างออกมาได้อย่างปลอดภัย วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 12.30 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่วมไทร เหตุเพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล (แปดไร่) โรงพยาบาลศิริราช ถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ สปภ.กทม. ถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณชั้นใต้ดิน จึงทำการตรวจสอบและอพยพผู้ที่ติดค้างด้านบนลงมา เวลา 12.55 น. พบจุดต้นเพลิงบริเวณชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำทำการดับ มีผู้ติดค้างภายในลิฟต์ชั้นที่ 12 เจ้าหน้าที่และช่างลิฟต์ประจำอาคาร ได้ทำการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย เวลา 13.04 น. เพลิงสงบ .-สำนักข่าวไทย

น้องสาว ผกก.โจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการตายของพี่ชาย

กทม. 29 มิ.ย.-น้องสาวอดีตผู้กำกับโจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการเสียชีวิตของพี่ชาย และเร่งทำคดี เพื่อให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรม หลังผ่านมา 4 เดือน คดียังไม่คืบ ส่วนบรรยากาศงานฌาปนกิจวันนี้ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า เวลา 15.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ นายธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรลักษณ์มหาวิหาร หลังเก็บศพมานานกว่า 4 เดือน บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้าของบุคคลในครอบครัว ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น ตลอดจนอดีตผู้บังคับบัญชาอย่างพลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือ ป.ส. และผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าที่สนิทสนม ได้เดินทางมาร่วมในพิธีฌาปนกิจวันนี้ด้วย ขณะที่ นางสาวศรัญญา อุทธนผล อายุ 34 ปี น้องสาวของผู้กำกับโจ้ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า หลังจากตนพร้อมแฟนสาวของผู้กำกับโจ้ เดินทางยื่นคำร้องขอให้ DSI รับคดีการเสียชีวิตของพี่ชายเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากติดใจสาเหตุการการตายของพี่ชาย จนถึงขณะนี้นาน 4 เดือนแล้ว คดียังไม่คืบหน้า ซึ่งล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม […]

พระกระหน่ำยิงพระร่วมวัดมรณภาพคาห้องน้ำ

ภูเก็ต 29 มิ.ย. – พระกระหน่ำยิงพระร่วมวัดดังภูเก็ตมรณภาพคาห้องน้ำ อ้างถูกรังแกบ่อยครั้ง ฟางเส้นสุดท้าย เปิดมือถือเสียงดังรบกวนในห้องน้ำ เกิดเหตุพระลูกวัดดังใน จ.ภูเก็ต ก่อเหตุกระหน่ำยิงพระในวัด มรณภาพคาห้องน้ำ เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ควบคุมตัวพระจารึก อายุ 47 ปี พระผู้ก่อเหตุกระหน่ำยิงพระนิวัฒน์ อายุ 36 ปี ได้ในที่เกิดเหตุ พร้อมอาวุธปืน ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนขนาด .38 บรรจุอยู่ในลูกโม่ 6 นัด และยังมีกระสุนขนาดปืน.38 ซุกซ่อนอยู่ในกุฏิอีก 14 นัด จากนั้นคุมตัวพระจารึกไปสึก ก่อนนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองภูเก็ต และดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุอ้างว่า พระที่มรณภาพชอบข่มเหงรังแกอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ พระผู้ตายได้เข้าห้องน้ำโดยไม่ได้ล็อกกลอนประตู และเปิดมือถือเสียงดังรบกวน จึงเดินถือปืนไปเปิดประตูห้องน้ำพร้อมกระหน่ำยิงพระผู้ตายจนมรณภาพคาห้องน้ำ ก่อนจะบรรจุกระสุนใหม่อีก 6 นัด แล้วนำปืนไปซ่อนในกุฏิของตนเอง จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในเวลาต่อมา .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ รับควบ รมว.วัฒนธรรม กังวลปมศาล รธน.

ทำเนียบ 30 มิ.ย.-นายกฯ รับควบ รมว.วัฒนธรรม อยากผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ บอกกังวลปมศาล รธน. จะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ชี้ไม่อยากให้งานสะดุด ลั่นพร้อมรับฟังโพลทุกสำนัก มองผลโพลดีเป็นกำลังใจ ส่วนผลลบต้องพัฒนาตัวเอง ย้ำม็อบชุมนุมมีสิทธิ์แสดงออก ขอเน้นเรื่องการทำงาน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่าในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้ นายกฯ จะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมด้วยใช่หรือไม่ ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ และที่จะต้องดูกระทรวงวัฒนธรรมด้วยเนื่องจากต้องดูเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ไม่ว่ากระทรวงวัฒนธรรมจะเป็นเกรดบี หรือเกรดซี แต่เป็นกระทรวงที่สำคัญ เพราะเป็นกระทรวงที่สามารถแนะนำวัฒนธรรมของไทยได้ และส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ของไทยได้จริงๆ เมื่อถามว่าสาเหตุที่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นเพราะส่วนหนึ่งมาจากความกังวลต่อคำร้องที่ขอให้ศาลวินิจฉัยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรีนิ่งคิด ก่อนบอกว่า “ไม่เกี่ยวนะคะ” แต่เป็นเรื่องที่จะต้องเน้นซอฟต์พาวเวอร์ไปด้วย ทำให้ต้องควบวัฒนธรรมด้วย ส่วนต้องการเน้นอะไรในกระทรวงวัฒนธรรม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องไปดูในกระบวนการต่างๆ ว่ามีอะไรที่สามารถผลักดันเพิ่มเติมได้หรือไม่ เพราะวัฒนธรรมของไทยมีความเข้มข้นและน่าผลักดันอีกเยอะ ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งไปด้วยกันได้ เมื่อถามถึง กระทรวงกลาโหม ที่มีรายงานว่า จะมีการเว้นว่างตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไว้ก่อน นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้รอดู ขณะนี้ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการขอให้จบขั้นตอนทุกอย่าง ก็จะเห็นรายชื่อออกมา […]

ลุยตรวจวัดตรีทศเทพฯ หลังอดีตเจ้าอาวาสลาสึกปริศนา

30 มิ.ย. – ป.ป.ท.-ปปป.-ป.ป.ช. เข้าพบรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพฯ เพื่อร่วมตรวจสอบทรัพย์สินของวัด หลัง “เจ้าคุณอาชว์” ลาสึกปริศนาที่ จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ท. บก.ปปป. และ ป.ป.ช. เดินทางเข้าพบรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพฯ เขตพระนคร กทม. เพื่อร่วมตรวจสอบทรัพย์สินต่าง ๆ ของทางวัด ภายหลังจากพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขา (สึก) แล้ว ที่ จ.หนองคาย ซึ่งการลาสิกขาดังกล่าวยังเป็นปริศนาว่ามีที่มาเป็นอย่างไร โดยก่อนหน้ามีรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ติดต่อขอเข้ารับทราบข้อเท็จจริง ภายหลังมีการร้องเรียนเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องทุจริตเงินของวัดฯ แต่เจ้าคุณอาชว์ ปฏิเสธการเข้าพบ ก่อนที่จะหลบไปทำพิธีลาสิกขาดังกล่าว ทั้งนี้ มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) มีคำสั่งเจ้าคณะภาค […]

นายกฯ เผยผลสอบตึก สตง.ถล่ม ออกแบบ-ก่อสร้างผิด กม.

ทำเนียบ 30 มิ.ย.- นายกฯ เผยผลสอบตึก สตง.ถล่ม ครบ 90 วัน เกิดจากการออกแบบและวิธีการก่อสร้าง ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผนังช่องลิฟต์-บันไดไม่ได้มาตรฐาน เตรียมส่งข้อมูลให้ ดีเอสไอ-ตำรวจ ชี้คนผิด ยันเรื่องนี้ต้องไม่เงียบ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีอาคารที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม เข้าร่วมประชุมด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเปิดประชุมว่า วันนี้ (30 มิ.ย.) ก็ครบ 90 วัน หรือ 3 เดือนพอดีหลังเกิดเหตุการณ์ จากนั้น นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมว่า การแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม […]

ครอบครัวเหยื่อเก๋งแดง เศร้ารับศพไปบำเพ็ญกุศล

กรุงเทพฯ 30 มิ.ย. – ครอบครัวเศร้ารับศพสาวเหยื่อเก๋งแดง ซิ่งชน จยย.รับจ้าง แล้วหนี ส่วนคนขี่ จยย.รับจ้าง บาดเจ็บสาหัส อาการยังโคม่า ไม่รู้สึกตัว ภาพกล้องวงจรปิดบริเวณปากซอยเพชรเกษม 19 จะเห็นรถจักรยานยนต์ขี่มาในเลนซ้ายตามปกติ ก่อนรถเก๋งสีแดงคาดดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ที่ขับตามหลังมาในเลนเดียวกันจะพุ่งมาด้วยความเร็ว ชนรถจักรยานยนต์อย่างแรง จนร่างนายดุลยวัต อายุ 27 ปี คนขี่จักรยานยนต์ และนางสาวจิตติมา อายุ 30 ปี คนซ้อนท้าย ลอยไปไกลหลายเมตร อาการสาหัส ขณะที่นางสาวจิตติมาเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนรถเก๋งแดงกลับขับรถหลบหนีโดยไม่ลงมาดู ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามหารถคันนี้พบว่าหลบหนีมาจอดทิ้งไว้ที่คอนโดฯ ย่านถนนเพชรเกษม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก พบแต่รถยนต์ แต่ไม่พบผู้ก่อเหตุ ซึ่งตำรวจไปพบจอดอยู่ในคอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านเพชรเกษม คาดว่าน่าจะอยู่ในคอนโดฯ นี้ จึงเจรจากับนิติบุคคลคอนโดฯ นำรถมาที่สถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ และตามเจ้าของรถมาดำเนินคดีตามกฎหมาย นางสาวไพริน อายุ 41 ปี แฟนของผู้บาดเจ็บ เล่าทั้งน้ำตาว่า สามีมีอาขีพขี่ จยย.รับจ้างและโบลท์ […]