จับสาวหลอกให้รักยืมเงินลงทุนแล้วเชิดหนี

12 ก.ย. – ตำรวจกองปราบฯ จับสาวหลอกให้รักยืมเงินลงทุนแล้วเชิดหนี เข้ามอบตัวรับสารภาพหมดเปลือก


ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.ต.แดนรบ สมัยชูเกียรติ สว.กก.6 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. จับกุม น.ส.ขวัญธิดา อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นคนอื่น, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จจริง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมได้ในพื้นที่ สภ.เมืองพัทลุง

พฤติการณ์สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ขวัญธิดา เนื่องจากผู้ต้องหาได้ยืมเงินจากผู้เสียหายไปจำนวนหลักแสนบาท โดยอ้างว่าจะเอาเงินไปลงทุนขายรองเท้าและเสื้อผ้าออนไลน์ โดยก่อนเกิดเหตุประมาณต้นปี 2566 ผู้เสียหายได้รู้จักกับผู้ต้องหาผ่านทางแอปพลิเคชันหาคู่และได้พูดคุยกันเรื่อยมา โดยผู้ต้องหาใช้รูปโปรไฟล์เป็นรูปหญิงสาว หน้าตาดี พูดจาดี คุยกันจนถูกคอกัน หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ ผู้ต้องหาได้ขอยืมเงินจากผู้เสียหายครั้งแรกหลักหมื่นบาทและยืมเรื่อยมา จำนวน 7-8 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้นเกือบ 200,000 บาท ทางผู้เสียหายทวงถามแต่ก็ไม่ได้รับเงินคืนแต่อย่างใด จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน


ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้ทำการติดตามผู้ต้องหาไปในหลายพื้นที่ จนทราบว่าผู้ต้องหาได้มาพักอาศัยอยู่กับมารดาในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ ไม่พบตัวผู้ต้องหา พบเพียงมารดาและแจ้งว่าผู้ต้องหาได้ออกไปจากบ้านเมื่อช่วงเช้าก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ กระทั่งผู้ต้องหาได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยจะเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง เนื่องจากทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวอยู่ จึงเกรงว่าจะถูกจับกุมตัว เมื่อผู้ต้องหามาปรากฏตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมตัวพร้อมทั้งแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาทราบ พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งทั้งในพื้นที่ภาคใต้และภาคกลาง

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าไม่เคยพบหน้าที่แท้จริงของผู้เสียหายและทางผู้เสียหายก็ไม่เคยเห็นหน้าของผู้ต้องหาเลยแม้แต่ครั้งเดียว. -414-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ