รวบ 5 ผู้ต้องหา แก๊งโรแมนซ์สแกม ลวงตุ๋นเงิน 60 ล้าน

กทม. 25 มี.ค. – ตำรวจสอบสวนกลางทลายเครือข่าย แก๊งโรแมนซ์สแกม หลอกให้รักนาน 6 ปี ตุ๋นเหยื่อโอนเงิน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 60 ล้านบาท


ตำรวจ สอบสวนกลาง จับกุม น.ส.นนทิกาญจน์ อายุ 35 ปี, น.ส.กฤษติกา อายุ 30 ปี, นายก้องภพ อายุ 34 ปี, นายจีรศักดิ์ อายุ 31 ปี และนายวชิระ อายุ 30 ปี 5 ผู้ต้องหา แก๊งโรแมนซ์สแกม ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”

โดยพฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2559 ผู้เสียหายได้ใช้บริการเว็บไซต์หาคู่เพื่อหาคนคุยในโลกออนไลน์ ปรากฏว่า ผู้เสียหายพบกับโพสต์หาคู่ของ “น.ส.ไอซ์” ซึ่งเป็นบุคคลรูปร่างหน้าตาดี โดยบัญชีไลน์ที่อ้างว่าเป็น น.ส.ไอซ์ นั้นเป็นบัญชีไลน์ของคนร้ายได้ปลอมขึ้นมาเพื่อไว้ใช้หลอกลวงเหยื่อ โดยผู้เสียหายได้พูดคุยกับ น.ส.ไอซ์ เรื่อยมาจนเกิดความสนิทสนมชอบพอจนไปถึงจะแต่งงานด้วยกัน


ต่อมา น.ส.ไอซ์ ได้บอกกับผู้เสียหายว่าตนเองป่วยเป็นโรคมะเร็ง และโรคร้ายแรงต้องใช้เงินมาเป็นค่ารักษาจำนวนมากผู้เสียหายเกิดความเห็นใจประกอบกับชอบพอในตัว น.ส.ไอซ์ จึงได้โอนเงินให้กับคนร้ายเรื่อยมา โดย น.ส.ไอซ์ ได้สร้างเรื่องหลอกลวงผู้เสียหายจำนวนมากมายหลายเรื่อง เช่น การชดใช้หนี้สินที่กู้ยืมมา, การชดใช้หนี้ของครอบครัว, ค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน, ค่ารักษาพยาบาล, ชักชวนลงทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

โดยช่วงเวลาเกิดเหตุ กลุ่มผู้ต้องหาได้แวะเวียนกันมาบ้านผู้เสียหายโดยอ้างว่า น.ส.ไอซ์ ส่งให้มาดูแลผู้เสียหาย ประกอบกับ น.ส.ไอซ์ ได้อ้างว่าเมื่ออาการป่วยดีขึ้นจะย้ายมาอยู่บ้านของผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่า น.ส.ไอซ์ มีตัวตนอยู่จริง จึงได้โอนเงินให้กับกลุ่มผู้ต้องหาเพื่อค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงบ้านและเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายได้มีการส่งมอบทรัพย์สินให้กับคนร้าย ไปจำนวนมากกว่า 960 ครั้ง มูลค่าความเสียหาย 63,088,953 บาท

จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มคนร้ายได้นำภาพของบุคคลอื่นมาใช้เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายจริง และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มคนร้าย พบว่าคนร้ายได้ใช้บัญชีของกลุ่มคนร้ายเองมารับเงินจากผู้เสียหายโดยอ้างเป็นบุคคลใกล้ชิดกับ น.ส.ไอซ์ เมื่อได้รับเงินจากผู้เสียหายแล้ว จะโยกย้ายถ่ายเทเงินที่ได้จากการกระทำความผิดไปยังบัญชีของกลุ่มคนร้ายรายอื่น และได้ทำการแปลงสภาพเป็นทรัพย์สินอื่นและอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งรถยนต์และของแบรนด์เนมต่างๆ


โดยตำรวจ ได้ตรวจค้นจับกุมกลุ่มผู้ร่วมกระทำความผิด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จ.พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดสระแก้ว สามารถตรวจยึดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เช่น โทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร, บัตรกดเงินสด, บัตรเครดิต รวม 13 รายการ และตรวจยึดพระเครื่อง, เครื่องรางของขลัง, กระเป๋า-รองเท้าแบรนด์เนม และทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนหลายรายการ

เบื้องต้น น.ส.นนทิกาญจน์ ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับสารภาพว่า ได้นำภาพถ่ายของบุคคลอื่นมาใช้สร้างตัวตนปลอมหลอกลวงผู้เสียหายจริง โดยจะนำรูปและไอดีไลน์ไปโพสต์ในเว็บไซต์หาคู่หาคนคุยต่างๆ เมื่อมีเหยื่อลงเชื่อแอดไลน์มาก็จะพูดคุยสร้างความสนิทสนมเชิงชู้สาว โดยผู้เสียหายในคดีนี้แอดไลน์มา เมื่อพูดคุยจนสนิทสนมแล้วจึงได้สร้างเรื่องราวต่างๆ เพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินให้ ส่วนเงินที่ได้รับโอนมานั้นก็จะนำมาแบ่งสันปันส่วนมากน้อยต่างกันในกลุ่มคนร้ายเอง และนำไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม เที่ยวต่างประเทศ ซื้อที่ดิน รวมถึงทรัพย์สินมีค่าต่างๆ จำนวนมาก

ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง ฝากแจ้งเตือนไปยังประชาชน โปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้บริการแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์ นอกจากจะทำให้เสียใจแล้วยังอาจทำให้เสียทรัพย์สินอีกเป็นจำนวนมาก และขอให้ใช้สื่อออนไลน์อย่างรู้เท่าทันแก๊งโรแมนซ์สแกม และมิจฉาชีพ ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว และไม่โอนเงินให้กับบุคคลที่ไม่รู้จัก ทั้งนี้ หากประชาชนที่คิดว่า เคยถูกกลุ่มคนร้ายดังกล่าวหลอกลวง สามารถติดต่อมายัง กก.2 บก.ปอท. เพื่อประสานข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด