อุดรธานี 23 ต.ค.- ตำรวจอุดรธานี บุกจับทหารยศสิบโทหนีราชการ หลอกสาวให้รัก ก่อนพาเข้าบ้านแล้วกรรโชกทรัพย์ ถ่ายคลิปขู่รีดเงิน สารภาพก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง หาเงินลงทุนเทรดหุ้น
ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหาย เป็นหญิงอายุ 22 ปี แจ้งว่าถูกสิบโทศุภกร หรือฟิล์ม อายุ 22 ปี ลักทรัพย์และกรรโชกทรัพย์ จึงทำการสืบสวน ในที่สุดก็สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ที่ห้องพัก จ.สกลนคร ขณะเข้าจับกุมพบว่านายฟิล์ม เปิดห้องนี้เอาไว้ก่อเหตุกับหญิงสาวอีกรายด้วย
ตำรวจแถลงข่าวผลการจับกุมสิบโทศุภกร ตามหมายจับศาลมณฑลทหารบกที่ 24 ในข้อหา ลักทรัพย์และกรรโชกทรัพย์ และหมายจับของศาลมณฑลทหารบกที่ 21 ในข้อหายักยอกทรัพย์ เพราะผู้ต้องหารายนี้เป็นทหาร ก็ดำเนินคดีในศาลทหาร
พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่ารู้จักกับสิบโทศุภกร ผ่านแอปฯ หาคู่ จากนั้นได้ติดต่อคบหาดูใจ เป็นแฟนกัน โดยสิบโทศุภกร อ้างว่าเป็นทหารนายสิบ มีอาชีพมั่นคง จึงได้ตัดสินใจลองคบหา ต่อมาสิบโทศุภกรได้ขอมาพักที่ห้องพักใน จ.อุดรธานี ตนก็ให้มาพัก กระทั่งวันที่ 13 กันยายน สิบโทศุภกรได้ขโมยโน๊ตบุ๊ก พร้อมข่มขู่ว่าจะลบข้อมูลสำคัญในคอมพิวเตอร์หากไม่โอนเงินให้ ผู้เสียหายจึงเข้ามาแจ้งความกับตำรวจ
จากการสืบสวนทราบว่า สิบโทศุภกร เป็นทหารจริง สังกัดค่ายแห่งหนึ่งที่จังหวัดนครราชสีมา แต่หน่วยงานต้นสังกัดสั่งให้ออกจาการราชการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม เนื่องจากหนีราชการ ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับจากศาลมณฑลทหารบกที่ 24 พร้อมนำกำลังจับกุม โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่หอพักแห่งหนึ่งที่ จ.สกลนคร ขณะกำลังจะลงมือหลอกเหยื่อ
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบมือถือผู้ต้องหาพบว่ามีแอปฯ หาคู่หลายแอปฯ เพื่อใช้ในการหาเหยื่อ และมีบัญชีเฟซบุ๊กอีก 8 บัญชี แต่ที่น่าตกใจ คือ ยังมีคลิปของเหยื่อแบบสยิวบนเตียงอีก 2,000 คลิป โดยผู้ต้องหารายนี้ จะใช้คำหวานหว่านล้อมให้รัก แล้วพาเข้าบ้าน ที่ติดกล้องวงจรปิดไว้รอบบ้าน รวมถึงห้องนอนด้วย หญิงสาวรายใดหลงกลร่วมหลับนอนด้วย ก็จะแอบถ่ายคลิปเอาไว้เพื่อรีดเอาทรัพย์จากเหยื่อภายหลัง จากนั้นจะสร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอมทักไปหาเหยื่อและคนรู้จักเหยื่อพร้อมส่งคลิปข่มขู่เอาเงินจากเหยื่อ ทั้งยังขโมยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ ของหญิงสาวแล้วหลบหนีไป ที่ผ่านมามีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ และมาแจ้งความแล้ว 7 ราย และยังมีหลายคนที่ไม่กล้าแจ้งความ รวมๆ แล้วเป็นสาวสวยกว่า 60 ราย เจ้าหน้าที่บอกว่าส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวสวยที่มองหาหนุ่มในเครื่องแบบ ที่คิดว่ามีอนาคตการงานมั่นคง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยทรัพย์สินที่ได้จะเอาไปขาย นำเงินไปลงทุนเทรดหุ้น ตำรวจจึงนำตัวส่งศาลทหารดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป .-สำนักข่าวไทย