30 พ.ย. – ตำรวจไซเบอร์รวบแม่ค้าซิมผีโพสต์ขายในกลุ่มลับ ยึดของกลางนับหมื่น เผยซื้อซิมมาในราคา 35 บาท เพื่อทำกำไร รู้ดีว่าเป็นความผิดแต่ยอมเสี่ยงเนื่องจากได้กำไรดี
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.4 ได้เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหารายหนึ่งซึ่งลักลอบขายซิมที่ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้งาน (ซิมผี) ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก พบของกลางจำนวนกว่า 4,000 หมายเลข โดยพบว่าซิมการ์ดส่วนใหญ่ลงทะเบียนในชื่อของชาวต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการเปิดช่องให้มิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางในการนำไปโทรหลอกลวงประชาชน และยังเป็นการกระทำผิดที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้ปราบปรามขั้นเด็ดขาด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ บก.สอท.4 ดำเนินการขยายผลหาตัวผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวเพิ่มเติม โดย พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 มอบหมายให้ กก.2 บก.สอท.4 เร่งดำเนินการสืบสวนเพื่อนำตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินการตามกฎหมาย
จากข้อมูลพบว่า ผู้ต้องหาดังกล่าวได้ทำการซื้อซิมผีผ่านกลุ่มลับในแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก โดยในกลุ่มดังกล่าวมีการโพสต์โฆษณาขายซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ลงทะเบียนใช้งานแล้ว จึงได้สืบสวนหาข้อมูลจนทราบว่า ซิมผิดกฎหมายดังกล่าวมีที่มาจาก น.ส.ฝ้าย อายุ 43 ปี ชาว จ.ชุมพร จึงได้ส่งสายลับทำการล่อซื้อ พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่เฝ้าติดตามพฤติกรรม จนมั่นใจว่า น.ส.ฝ้าย จะนำซิมผีดังกล่าวไปส่งให้สายลับผ่านบริษัทขนส่งพัสดุเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางกำลังซุ่มรอ น.ส.ฝ้าย จนสุดท้ายสามารถเข้าควบคุมตัวได้ ขณะกำลังลงจากรถยนต์ส่วนตัวเพื่อเตรียมส่งซิมผีให้สายลับ เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น พบซิมผีจำนวนกว่า 10,000 หมายเลข นางสาวฝ้ายจึงรับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปตรวจค้นบ้านพัก ยังพบซิมผีเพิ่มเติมอีกกว่า 2,000 หมายเลข จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้” จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้น น.ส.ฝ้าย ให้ข้อมูลว่า ตนเองเคยโพสต์ขายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้ (ซิมผี) ในกลุ่มลับผ่านแอปพลิเคชัน โดยรับซื้อซิมดังกล่าวมาในราคาซิมละ 35 บาท และนำมาขายในกลุ่มลับในราคา 43 บาท ซึ่งได้กำไร ประมาณ 8 บาทต่อซิม โดยรู้ตัวดีว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมาย แต่ก็ยอมเสี่ยงทำเนื่องจากขายแล้วได้กำไรดี อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังได้ข้อมูลสำคัญเพิ่มเติมจากผู้ต้องหา จึงเตรียมขยายผลจับกุมเพิ่มเติมต่อไป. -สำนักข่าวไทย
