กรุงเทพฯ 25 ก.ย. – “พล.ต.ท.ไตรรงค์” หัวหน้าชุด PCT ตร. เผยควบคุมตัวนายตำรวจ ลูกน้อง “บิ๊กโจ๊ก” ได้ครบแล้ว 8 นาย ยืนยันการตรวจค้นจับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ในบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” ทำตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่หวั่นถูกฟ้องกลับ
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี ในฐานะหัวหน้าชุด PCT ตร. เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 17 คน จาก 23 หมายจับ โดยในจำนวนนี้รวมถึงเจ้าหน้าที่ 8 คน ก็ควบคุมตัวได้ทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงพลเรือนอีก 6 คน ที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว ซึ่งคดีนี้การสอบสวนและสำนวนอยู่ในความรับผิดชอบ กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เนื่องจากมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม จากนั้นก็สืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ใช้เวลากว่า 2 เดือน ก่อนเสนอศาลขอหมายจับ 23 หมาย นำไปสู่การขยายผลตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 30 จุด ในเช้าวันนี้ (25 ก.ย.66) ส่วนจะมีการให้ประกันตัวหรือไม่ ยังไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของคณะพนักงานสอบสวน บก.น.5 พิจารณาว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวนหรือไม่
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยังมั่นใจในพยานหลักฐาน เนื่องจากมีหลักฐานตั้งแต่การขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 23 คนแล้ว และยังไม่ทราบกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า หมายค้นไม่มีการระบุรายละเอียด แต่ยืนยันว่า การขอหมายค้นเป็นไปตามขั้นตอนปฏิบัติงานของตำรวจตามกฎหมาย โดยมีการขอหมายจับเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด 23 คน ซึ่งเมื่อได้หมายจับก็ต้องดำเนินการตรวจค้น และไปขอหมายค้น เพื่อติดตามผู้ต้องหา ซึ่งก็สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่หน้าบ้านจุดตรวจค้นได้
ทั้งนี้ เมื่อถามว่า ไม่ได้มองว่าเป็นบ้านของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า การปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมาย ย้ำว่าการติดตามจับกุมผู้ต้องหา ก็ต้องขอหมายค้นสถานที่อยู่ของผู้ต้องหา ถือเป็นการปฏิบัติตามปกติ ส่วนหมายค้นจะชอบหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความถูกต้องตามกระบวนการหรือไม่ โดยหลักการการขอหมายค้นเพื่อติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับ จากข้อมูลของฝ่ายสืบสวน เป็นวิธีปฏิบัติตามปกติ และยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ด้วย ก็ถือว่าตำรวจที่ไปขอหมายค้นก็มีข้อมูลที่เชื่อถือได้
พล.ต.ท.ไตรรงค์ อธิบายเพิ่มว่า หมายค้นปกติจะต้องระบุเฉพาะผู้ถือกรรมสิทธิ์ หรือผู้ครอบครอง แต่เท่าที่ทราบจากฝ่ายสืบสวน พบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีผู้เข้า-ออกหลายคน จึงระบุไปตามที่กำหนดไว้ พร้อมยอมรับว่า บ้านหลังกล่าวไม่ได้มีชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นเจ้าของ แต่ขอให้โฟกัสว่า การตรวจค้นครั้งนี้สามารถจับผู้ต้องหาได้หรือไม่มากกว่า
ทั้งนี้ หาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะตั้งทีมกฎหมายเพื่อฟ้องกลับ พล.ต.ท.ไตรรงค์ บอกว่า การปฏิบัติงานของตำรวจเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่ของตัวรวจก็เป็นสิทธิ แต่ส่วนตัวยืนยันว่า มีการปฏิบัติงานตามขั้นตอนถูกต้อง
ส่วนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า การตรวจค้นจับกุมครั้งนี้เป็นเพราะการเมืองในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ไม่ทราบประเด็นดังกล่าว คงให้ความเห็นไม่ได้ และตนเองให้ข้อมูลได้เฉพาะเรื่องการสืบสวนจับกุมเท่านั้น. -สำนักข่าวไทย