26 มิ.ย. – ตำรวจไซเบอร์บุกรวบเจ้าพ่อบัญชีม้า หลอกเหยื่อปั่นยอดไลค์ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายแลกกับค่าคอมฯ เหยื่อสูญเงินไปกว่า 3 ล้านบาท เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธ แต่ยอมรับได้เปิดบัญชีธนาคารจำนวนมาก รวมกว่า 600 บัญชี
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้กวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สืบเนื่องจากคนร้ายได้หลอกลวงผู้เสียหายโดยเชิญชวนให้ทำธุรกิจโปรโมทสินค้าและโฆษณาเพื่อหารายได้พิเศษ ด้วยการกดไลค์/กดแชร์ เพิ่มยอดเข้าชม (ปั่นยอดวิว) และคอมเมนท์สินค้าเพื่อรับผลตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชั่น 20-30% ตามภารกิจที่คนร้ายแจกจ่ายมาให้ โดยมีเงื่อนไขการทำงานจะต้องจ่ายเงินแรกเข้า และการจ่ายงานให้จะมากน้อยตามเงินลงทุน เมื่อเปิดบัญชีแล้ว คนร้ายจะจ่ายงานให้ โดยต้องเข้าไปชมยูทูป กดไลค์ กดแชร์ และส่งมอบงานเข้ามาในระบบจึงจะได้รับผลตอบแทน
โดยครั้งแรก ผู้เสียหายเกิดความสนใจจึงได้ลองสมัครและโอนเงินไป 2,000 บาท จากนั้นระบบได้แจ้งให้เข้าไปกดไลค์กดติดตามสินค้าออนไลน์ เมื่อทำตามปรากฏว่าได้ค่าตอบแทนจริง จึงหลงเชื่อทำภารกิจต่อไปอีกหลายครั้ง และโอนเงินเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงภารกิจที่ 7 ปรากฏว่าไม่ได้เงินคืนโดยมิจฉาชีพอ้างว่าทำผิดกติกาและขอให้โอนเงินเพิ่มเพื่อถอนเงิน และต่อมายังถูกหลอกให้โอนเงินโดยอ้างเงื่อนไขต่าง ๆ อีกหลายครั้ง จนผู้เสียหายโอนไปทั้งสิ้น จำนวน 12 ครั้ง สูญเงินกว่า 3,171,249 บาท และจากการตรวจสอบข้อมูลทางการเงิน พบว่าเกี่ยวข้องกับนายพลากร อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดสงขลา
กระทั่งเจ้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.2 ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ และได้สืบสวนทราบว่า นายพลากร ถูกควบคุมตัวในคดีอื่นอยู่ที่เรือนจำจังหวัดสงขลา จึงได้ทำหนังสือขออายัดตัวไว้ และเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2566 ผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำจังหวัดสงขลา จึงเข้าทำการจับกุมตัว ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด” และส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบถามผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่รับว่าตนได้เปิดบัญชีธนาคารจำนวนมากเพื่อใช้สมัครเล่นพนันออนไลน์ และเพื่อขายให้ผู้อื่น จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าผู้ต้องหาเคยเปิดบัญชีธนาคารแบบออนไลน์แล้วแล้วยกเลิกหลายครั้ง โดยปัจจุบัน มีบัญชีธนาคารที่ยังใช้งานได้และปิดไปแล้ว รวมทั้งสิ้นถึง 600 บัญชี เจ้าหน้าที่ดำเนินดำเนินการจับกุมไปดำเนินคดี. -สำนักข่าวไทย