4 เม.ย. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” รอง ผบ.ตร. เปิดแผนอุ้มฆ่าโหดนักศึกษาสาวจีน เพื่อนชายเปิดฉากฆ่าโดยได้รับคำแนะนำจากผู้ต้องหาหญิงไทยให้ก่อเหตุในบ้านเช่า อย่าก่อเหตุที่โรงแรม เพราะมีวงจรปิดจำนวนมาก ก่อนรับค่าจ้าง 2 ก้อน รวม 1.3 แสนบาท พากลุ่มผู้ต้องหาหนีออกประเทศ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการสืบสวนคดีอุ้มฆ่านักศึกษาชาวจีนทิ้งศพอำพรางคดีในร่องน้ำที่จังหวัดนนทบุรี ว่าเพื่อนชายคนสนิทของผู้ตายเป็นคนลงมือ โดยมีเพื่อนชายชาวจีนอีก 2 คน ร่วมก่อเหตุด้วย ส่วนวิธีการอำพรางศพได้รับคำแนะนำจากหญิงไทยที่ทำงานในร้านคาราโอเกะย่านอินทามาระ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหารู้จักหลังไปเที่ยว และขอให้หญิงไทยช่วยตามหาแฟนสาวชาวจีนที่มาศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของไทย โดยจ่ายค่าจ้างเป็นเงิน 50,000 บาท
ปรากฏว่าหญิงไทยคนดังกล่าวมีเพื่อนเรียนอยู่สถาบันเดียวกัน จึงให้เพื่อนไปช่วยตามหาและขอไอดีไลน์ผู้เสียชีวิต จากนั้นนัดพบกัน โดยผู้ต้องหาพยายามล่วงเกินฝ่ายหญิง แต่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอม กลุ่มผู้ต้องหาจึงมาปรึกษาหญิงไทยว่าทำอย่างไรดี จนนำมาสู่การแนะนำให้ฆ่าทิ้ง พร้อมทั้งแนะนำผู้ต้องหาอย่าฆ่าที่โรงแรม เพราะมีกล้องวงจรปิดจำนวนมาก จึงมีการตกลงฆ่าที่บ้านเช่า ก่อนนำศพไปทิ้งอำพรางคดี จากนั้นแกล้งสร้างเรื่องส่งข้อความหาครอบครัวของผู้เสียชีวิตเรียกค่าไถ่จำนวน 2.5 ล้านบาท เพื่อเบี่ยงเบนคดี ทั้งที่ความจริงกลุ่มผู้ต้องหาไม่มีเจตนาจะเรียกค่าไถ่ ส่วนหญิงไทยยังทำหน้าที่พากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปส่งสนามบินเพื่อหลบหนีออกนอกประเทศ โดยได้ค่าจ้างเพิ่มเติมอีก 80,000 บาท
สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 3 คน จะไม่ส่งตัวกลับมารับโทษที่ไทยเนื่องจากการหารือกับเอกอัครทูตจีนประจำประเทศไทยเมื่อวานนี้ทำให้ทราบว่าประเทศจีนมีกฎหมายมาตรา 8 ที่สามารถลงโทษพลเมืองจีนที่กระทำผิดนอกราชอาณาจักรภายในประเทศได้ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งพนักงานสอบสวนเดินทางไปสอบปากคำผู้ต้องหาที่ประเทศจีน โดยกำหนดประเด็นสอบสวนชัดเจน อาทิ สาเหตุสังหาร, ไทม์ไลน์เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย, จุดก่อเหตุใช่ที่บ้านเช่าหรือไม่, พฤติการณ์นำศพไปทิ้ง รวมถึงขั้นตอนในการติดตามหาตัวสาวจีนผู้เสียชีวิต จากการสืบสวนอย่างละเอียด เบื้องต้นสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว ทั้งนี้ ข้อมูลจากการสอบปากคำผู้ต้องหาชาวจีนจะนำมาประกอบสำนวนการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาหญิงไทย
อย่างไรก็ตาม วันนี้บิดาของผู้เสียชีวิตได้เดินทางจากประเทศจีนเพื่อมาดูร่างของบุตรสาว รวมถึงฟังผลการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการส่งร่างกลับประเทศบ้านเกิดอย่างดี
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ย้ำว่าคดีนี้ถือว่าสำนวนการสอบสวนมีพยานหลักฐานค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว โดยมีการเก็บตัวอย่าง DNA ของผู้ต้องหาบนร่างของผู้เสียชีวิตบนรถเช่าและในบ้านพักที่ก่อเหตุ ยืนยันการกระทำความผิด ส่วนเงินค่าจ้างหญิงไทยจำนวน 80,000 บาท และ 50,000 บาท อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามมาเป็นของกลางในคดี
ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการกฎหมายและคดี กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาชาวจีนที่มาก่อเหตุฆ่าชาวจีนด้วยกันและหลบหนีไปที่ประเทศจีนและถูกทางการจีนจับกุมตัวได้ กรณีดังกล่าวเทียบเคียงกับกฎหมายไทยจะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามมาตรา 8 ผู้ใดกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร และกรณีผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ ถ้าความผิดนั้นเป็นความผิดดังระบุไว้ต่อไปนี้ จะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร คือ ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชน ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 217 มาตรา 218 มาตรา 221 ถึงมาตรา 223 ทั้งนี้ เว้นแต่กรณีเกี่ยวกับมาตรา 220 วรรคแรกและมาตรา 224 มาตรา 226 มาตรา 228 ถึงมาตรา 232 มาตรา 237 และมาตรา 233 ถึงมาตรา 236 ทั้งนี้ เฉพาะเมื่อเป็นกรณีต้องระวางโทษตามมาตรา 238. -สำนักข่าวไทย