ศจร.ตร.ชวนส่งคลิปอาสาตาจราจร “7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น” ช่วงปีใหม่

สตช. 29 ธ.ค. – พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) ขอเชิญชวนประชาชนร่วมโครงการอาสาตาจราจร “7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น” ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ห้วง 7 วันควบคุมเข้มข้น บังคับใช้กฎหมายป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน


พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า โครงการ “อาสาตาจราจร” มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างตำรวจกับประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตาส่งคลิปการกระทำความผิดบนท้องถนนเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ในเทศกาลปีใหม่นี้ได้จัดกิจกรรมรณรงค์พิเศษ “7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น” ในช่วง 7 วัน ที่ประชาชนเดินทางสัญจรในห้วงเทศกาลปีใหม่ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, มูลนิธิเมาไม่ขับ, บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน), จส.100 และ สวพ.91 โดยเปิดรับคลิปจากกล้องหน้ารถ หรือกล้องโทรศัพท์มือถือ ที่บันทึกภาพอุบัติเหตุ หรือการทำผิดกฎจราจรที่เกิดขึ้นในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.65-4 ม.ค.66

พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวด้วยว่าหากคลิปใดเป็นหลักฐานนำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด เราจะคัดเลือก 7 คลิปที่ดีที่สุด ได้รับรางวัล คลิปละ 10,000 บาท รวม 70,000 บาท โดยส่งคลิปพร้อมบอกเล่าเรื่องราว ได้ที่เฟซบุ๊ก ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร., จส.100, สวพ.91 และ อาสาตาจราจร ได้จนถึงวันที่ 10 มกราคม 2566


“คลิปของท่านช่วยคืนความยุติธรรมให้กับสังคมในโครงการอาสาตาจราจร หากท่านบันทึกภาพได้โปรดส่งคลิปมาให้เรา คลิปของท่านไม่เพียงแต่จะใช้เป็นพยานหลักฐานทางคดี เพื่อพิสูจน์ความผิดของผู้ที่ขับขี่รถโดยประมาท แต่ยังช่วยเราในการวิเคราะห์ และวางแนวทางในการป้องกันอุบัติเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอีกด้วย” พล.ต.ต.นิธิธร กล่าว

หัวหน้าคณะฯ ศจร.ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศจร.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะ รอง ผอ.ศจร.ตร. มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ในห้วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวแห่งชาติ จึงมีนโยบายบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นใน 10 ข้อหาหลัก หรือ ร ส ข ม ซึ่งเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุ ประกอบด้วย 1.ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2.ไม่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 3.ไม่ขับรถย้อนศร 4.ต้องมีใบขับขี่ 5.ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย 6.ไม่แซงในที่คับขัน 7.ไม่ขับขี่รถขณะเมาสุรา 8.สวมหมวกนิรภัย 9.ไม่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ปลอดภัย และ 10.ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ พร้อมทั้งกำชับให้ตำรวจทุกนาย โดยเฉพาะตำรวจจราจรดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่ผู้ใช้เส้นทางทุกคน

ทั้งนี้ สามารถโทรสอบถามเส้นทางขอความช่วยเหลือ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ โทร.1193 ตำรวจทางหลวง โทร.1197 บก.จร. (เฉพาะ กทม.และปริมณฑล ) โทร.191 หรือ 1599 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจพร้อมดูแล. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง